xs
xsm
sm
md
lg

ความรู้คู่สุขภาพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ทำสวน” ลดเสี่ยงหัวใจวาย

ผลการวิจัยที่ตีพิมพ์ลงในวารสารสปอร์ต เมดิซิน ของประเทศอังกฤษ พบว่า การทำสวน รวมถึงการทำงานบ้านต่างๆ มีความเชื่อมโยงกับการมีอายุยืน และสามารถลดความเสี่ยงหัวใจวายหรือเส้นเลือดในสมองแตกได้

โดยทีมวิจัยจากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย คาโรลินสกา ในกรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ได้ศึกษาผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี จำนวน 4,230 คน ด้วยการศึกษาระดับการทำกิจกรรมระหว่างผู้สูงอายุที่ใช้ชีวิตแบบที่ไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกาย กับผู้สูงอายุที่ทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ทำสวน ซ่อมรถ เก็บผลไม้ พบว่า ผู้สูงอายุที่มีกิจกรรมในชีวิตประจำวันที่ได้เคลื่อนไหวร่างกายมาก มีความเสี่ยงที่จะมีอาการหัวใจวายต่ำกว่าผู้สูงอายุที่ไม่ทำกิจกรรมอะไรเลย

ทั้งนี้ ผลการศึกษาตลอดระยะเวลา 12 ปี พบว่า การทำกิจกรรมจะช่วยลดความเสี่ยงอาการหัวใจวายหรือเส้นเลือดในสมองแตกได้ราว 27 เปอร์เซ็นต์ และยังช่วยลดความเสี่ยงจากสาเหตุอื่นๆ ได้อีก 30 เปอร์เซ็นต์

อย.เตือน กินยาพาราฯมากเกิน ส่งผลเสียต่อร่างกาย อาจตายได้

ดร.นพ.ปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า จากข้อมูลการใช้ยาพาราเซตามอลของคนไทย พบว่า ส่วนใหญ่มักใช้เกินกว่าปริมาณที่กำหนด เพราะมองว่าเป็นยาพื้นฐาน มีความปลอดภัย และเข้าใจว่า สามารถรักษาได้ทุกอาการปวด ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด

เนื่องจากการใช้พาราเซตามอลติดต่อกันนานๆ จะมีผลต่อระบบต่างๆในร่างกาย เช่น ทำให้คลื่นไส้ ปวดท้อง เป็นแผลบริเวณทางเดินอาหาร ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดสมองอุดตัน ง่วงซึม มึนงง ซึมเศร้า และมีผลต่อการทำงานของไต เป็นต้น นอกจากนี้ หากใช้ยาเกินปริมาณที่แนะนำ อาจนำไปสู่การเกิดพิษต่อตับ จนเกิดภาวะตับวายและเสียชีวิตในที่สุด

ดังนั้น ไม่ควรรับประทานยาพาราเซตามอล เกินวันละ 8 เม็ด (เม็ดละ 500 มิลลิกรัม) และหากมีความผิดปกติหรือมีอาการข้างเคียงจากการใช้ยา อาทิ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร บวมบริเวณท้อง กดเจ็บบริเวณตับ ขอให้พบแพทย์โดยด่วน

ไม่น่าเชื่อ!! “ป๊อบคอร์น” มีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าผลไม้

แม้จะไม่น่าเชื่อ แต่ก็เป็นไปแล้ว เพราะในการประชุมของสมาคมเคมีแห่งสหรัฐอเมริกา นักวิจัยชาวสหรัฐ ดร.โจอี้ วินสัน บอกว่า จากผลการวิเคราะห์วิจัย “ป๊อบคอร์น” หรือข้าวโพดคั่ว พบว่า ป๊อบคอร์น 1 หน่วยบริโภค จะมีโพลิฟีนอล 300 มิลลิกรัม ซึ่งมากกว่าผลไม้ซึ่งมีเพียง 160 มิลลิกรัม

โพลิฟีนอล คือสารเคมีที่มีคุณสมบัติดีต่อสุขภาพคือ ต้านอนุมูลอิสระ ต้านมะเร็ง ลดระดับของโคเลสเตอรอลและไตรกลีเซอร์ไรด์ ในเลือด และกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน

ดร.วินสันย้ำว่า แต่การรับประทานข้าวโพดคั่วให้ได้คุณค่าทางโภชนาการมากที่สุดนั้น ควรทำด้วยวิธีอบในเตาไมโครเวฟเท่านั้น เนื่องจากจะมีปริมาณแคลอรีน้อยกว่าข้าวโพดคั่วที่ผสมด้วยน้ำมันพืชหรือเนยที่ขายกันอยู่ทั่วไป

ส่วนป๊อบคอร์นที่ผสมเนยหรือน้ำมันพืช ไม่ควรรับประทานเป็นประจำ เพราะให้โทษกับร่างกาย เนื่องจากมีไขมันมากและพลังงานสูงเกินไป

แพทย์ชี้ผู้ป่วยไตกิน “มะเฟือง” เสี่ยงไตวายเฉียบพลัน

รศ.นพ.ม.ล.ชาครีย์ กิติยากร อายุรแพทย์ หน่วยโรคไต ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมา “มะเฟือง” เป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยม โดยโฆษณาสรรพคุณว่า สามารถลดน้ำตาลได้ และดีต่อผู้ป่วยเบาหวาน แต่ยังไม่พบงานวิจัยที่สนับสนุนเรื่องดังกล่าว

ขณะเดียวกันก็พบว่า มีข้อควรระวังในการกินมะเฟืองด้วย โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคไต เพราะการกินมะเฟืองสามารถทำให้เกิดอาการไตวาย และส่งผลกระทบต่อสมอง ทำให้เกิดภาวะชักได้ เนื่องจากมะเฟือง โดยเฉพาะมะเฟืองชนิดเปรี้ยว จะมีปริมาณกรดออกซาลิคมากกว่ามะเฟืองชนิดหวาน ซึ่งในผู้ป่วยโรคไต โดยเฉพาะระยะ 4-5 ที่ต้องฟอกไตแล้ว จะไม่สามารถขับสารชนิดนี้ได้ ทำให้แม้แต่การกินเพียงเล็กน้อยก็อาจส่งผลต่อสมองได้ ทำให้สะอึก ซึม และชัก

ส่วนผู้ป่วยไตระยะปานกลาง หากกินมากเกินไปก็ทำให้เกิดอาการได้เช่นกัน และจะทำให้ไตเสื่อมลง จึงเป็นกลุ่มที่ต้องระวัง

อย่างไรก็ตาม คนทั่วไปสามารถรับประทานมะเฟืองได้ แต่ต้องไม่มากจนเกินไป และควรระวังในผู้สูงอายุ เพราะอาจมีโรคไต หรือความเสื่อมของไตมากกว่าคนปกติ

ทันตแพทย์แนะผู้สูงอายุใช้ 3 อ. 2 ส. 1 ฟ. ลดเบาหวาน-ความดัน-โรคในช่องปาก

ทันตแพทย์สุธา เจียรมณีโชติชัย รองอธิบดีกรมอนามัย แนะผู้สูงอายุดูแลสุขภาพของตนเอง เพื่อลดโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคในช่องปากไปพร้อมๆกัน โดยปฏิบัติตามหลัก 3 อ. 2 ส. 1 ฟ. คือ 3 อ. ได้แก่ 1. อาหาร รับประทานให้ครบ 5 หมู่ เพิ่มอาหารที่มีแคลเซียมสูง โปรตีน วิตามินซีและเส้นใยอาหาร 2. อารมณ์ รู้จักผ่อนคลายอารมณ์เครียด หางานอดิเรกที่ชอบ พักผ่อนให้เพียงพอ 3. ออกกำลังกายโดยเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อในระดับปานกลาง อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน หรือสะสมวันละ 10 นาที เช่น เดินเร็ว วิ่งเหยาะ ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ รำมวยจีน

ส่วน 2 ส. ได้แก่ 1. ไม่สูบบุหรี่ 2. ไม่ดื่มสุรา จะช่วยลดการเกิดมะเร็งช่องปาก และ 1 ฟ. คือ การดูแลทำความสะอาดฟันทุกวัน โดยใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดซอกฟัน แปรงซอกฟัน

กรมอนามัยแนะผู้ป่วยโรคเกาต์ เลี่ยงซุปไก่สกัด

ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า โรคเกาต์เกิดจากการตกตะกอนของกรดยูริก ซึ่งเป็นสารชนิดหนึ่งที่ได้จากการย่อยสลายของสารพิวริน (purine) ที่มีมากในเนื้อสัตว์บางชนิด เช่น เนื้อสัตว์ปีก เครื่องในสัตว์ ปลาหมึก หอย ปู หรือปลาตัวเล็กที่กินทั้งกระดูก เช่น ปลาไส้ตัน ปลาซาดีนกระป๋อง รวมทั้งในผัก เช่น เห็ด กระถิน ชะอม ใบขี้เหล็ก สะตอ เป็นต้น ตลอดจนถั่วเมล็ดแห้ง เช่น ถั่วเหลือง

นอกจากนี้ ผู้ป่วยโรคเกาต์ควรหลีกเลี่ยงกลุ่มอาหารที่มีปริมาณสารพิวรินสูงคือ จำพวกซุปต่างๆ เช่น น้ำต้มกระดูก น้ำสกัดเนื้อ ซุปก้อน รวมทั้งซุปไก่สกัด ที่มีโอกาสเสี่ยงต่อร่างกายที่จะได้รับปริมาณสารพิวรินสูงเช่นกัน

ทั้งนี้ ผลจากการวิเคราะห์คุณค่าทางโภชนาการของซุปไก่สกัด โดยสถาบันโภชนาการมหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า ซุปไก่สกัด 100 มิลลิลิตร มีโปรตีนเท่ากับไข่ไก่ครึ่งฟองหรือนมสดรสจืดครึ่งกล่อง ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นในการใช้แต่ละวันเพียงเล็กน้อย ไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย และเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงานของสมอง

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 159 มีนาคม 2557 โดย ธาราทิพย์)





กำลังโหลดความคิดเห็น