• ทำชั่วได้ดี?
ปุจฉา :
นมัสการหลวงปู่ ทำไมคนทำชั่วจึงสามารถเชิดหน้าชูตาในสังคม มีชีวิตหรูหรา มีความสุข ส่วนคนที่ทำดีบางครั้งก็ลำบาก
เราพูดกันเสมอว่า คนทำดีต้องได้ดี แต่ทำไมผลดีมักจะช้ากว่าผลชั่ว บางครั้งทำให้คนทำดีขาดกำลังใจ เพราะผลดีอาจไม่ได้ตอบแทนในชาติภพนี้ แต่คนทำชั่วกลับมีชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข แล้วผลกรรมที่ทำนั้น กลับตอบแทนเขาช้าเหลือเกิน คนชั่วเลยเกิดขึ้นมากมาย เพราะไม่เห็นว่าจะเกิดผลตอบแทนอย่างไร
วิสัชนา :
ความคิดของคุณ ดูจะเป็นความคิดที่เป็นสาธารณะสำหรับบุคคลยุคนี้ไปเสียแล้ว
เป็นไปไม่ได้หรอกคุณ ที่คนทำชั่วแล้วจะได้ดี ใครจะรู้ว่า ความสุขสมบูรณ์ที่เขากำลังได้รับในขณะที่ทำชั่วนั้น มันอาจเป็นทุนเก่า ที่เขาทำดีเอาไว้แต่ปางก่อนก็ได้ แล้วถ้าเป็นเช่นนั้น เขายิ่งน่าสงสารใหญ่ เพราะเกิดมาเพื่อมาใช้ทุนเก่าให้หมดไป โดยมิยอมสะสมของใหม่เพิ่มขึ้นเลย
และเมื่อบุญเก่าเขาหมดแล้ว อะไรจะเกิดขึ้น ไม่อยากคิด หวาดเสียว...
• เทคนิคควบคุมจิต
ปุจฉา : กราบนมัสการหลวงปู่ที่เคารพรักอย่างสูงสุด
ตามที่ทราบแล้วว่าเรื่องของจิต เป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุด และควรจะดูแลระวังรักษาจิตของตนให้คิดแต่สิ่งดีๆ จึงขอกราบเรียนถามหลวงปู่ว่า
1. มีเทคนิควิธีการอย่างไรที่จะควบคุมจิตไม่ให้รับเอาอารมณ์ต่างๆเข้ามา หรือทำอย่างไรจึงจะไม่ให้เกิดการปรุงของจิต เพราะเมื่อสังเกตจิตของตนแล้วจะควบคุมไม่ทัน มีการแสดงออกบอกว่าชอบ หรือไม่ชอบทันที ทำอย่างไรจิตจึงจะมีอาการเพียงรับรู้ รับทราบเฉย ๆ ตามที่หลวงปู่เคยสอนไว้
2. อาการของจิตที่ปล่อยวาง จิตที่ตั้งมั่น และจิตที่หลุดพ้น มีความเหมือนหรือแตกต่างกันในส่วนใดบ้าง และต้องเป็นไปตามขั้นตอนอย่างไรจิตจึงจะหลุดพ้นจากวัฏสงสาร
3. ความดับของจิตมีลักษณะอย่างไร ถ้ายังไม่ถึงขั้นบรรลุอรหันต์สามารถมีความดับของจิตได้หรือไม่
ขอกราบขอบพระคุณหลวงปู่มา ณ ที่นี้
วิสัชนา :
1. มีสติ ฝึกสติ เจริญสติ แล้วสติจะช่วยคุณได้
2. จิตที่ปล่อยวาง คือจิตรู้ทันตามความเป็นจริงแล้วไม่ตกเป็นทาส ส่วนจิตที่ตั้งมั่น คือ จิตที่ไม่โยกโคนสั่นคลอนไปตามอารมณ์ปรุงแต่งทั้งปวง และจิตหลุดพ้นคือจิตทีปราศจากกิเลสและปราศจากทุกข์ทั้งปวง
ส่วนขั้นตอนคือ ต้องตั้งมั่นก่อน แล้วจึงปล่อยวาง จนหลุดพ้น
3. จิตทุกดวงมีลักษณะเกิดแล้วดับอยู่ตลอดเวลา ผู้ที่บรรลุอรหันต์มีจิตเกิดดับ แต่ไม่ปรุงแต่งเป็นอารมณ์
• ทุกข์เพราะอกหัก
ปุจฉา : ขอเรียนถามหลวงปู่ดังนี้ค่ะ
ดิฉันมีความทุกข์เพราะอกหัก จะพิจารณาอย่างไรดีคะ เพราะอารมณ์โกรธ แค้น เสียใจ อาลัยอาวรณ์ และอยากขออโหสิกรรมต่อกัน แล้วจบกันไป มันสลับไปสลับมา ใจไม่สงบ อยากลืมๆไป แต่ไม่รู้จะพิจารณาอย่างไรให้รู้สึกสบายใจขึ้น
ขอความกรุณาหลวงปู่สอนวิธีปฏิบัติที่จะผ่านพ้นสภาพอารมณ์ทุกข์เหล่านี้ด้วยค่ะ
กราบขอบพระคุณค่ะ
วิสัชนา :
ที่ว่าคุณตัดใจยากจากสิ่งที่คุณพึงพอใจ ก็คิดเสียว่า เราไม่ได้จูงเขามาด้วยกันจากท้องแม่เรา เขาก็ย่อมมีสิทธิ์ที่จะเป็นของคนอื่นได้ ขนาดของที่ติดตัวเรามาจากท้องแม่เช่น ฟัน ผม หนัง มันก็ยังจากเราไปเลย ประสาอะไรกับคนอื่น
ลองหากิจกรรมทำ อย่าหมกตัวอยู่คนเดียวเฉยๆ ออกสังคมบ้าง อยู่กับธรรมชาติบ้าง ทำบุญทำทาน เข้าวัดปฏิบัติธรรมเสียบ้าง จิตใจจะได้สบาย
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 150 มิถุนายน 2556 โดย หลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม)