• ขอหลักในการปกครองลูกน้อง
ปุจฉา : ขอกราบนมัสการหลวงปู่ที่เคารพ คือผมเพิ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าแผนก โดยจะต้องปกครองดูแลลูกน้องประมาณ 4 คน ผมใคร่ขอทราบถึงหลักธรรมที่สามารถนำมาใช้ในการปกครองคนครับ
วิสัชนา : มีน้ำใจ ดูแลเอาใจใส่ ให้ความเสมอภาค รู้จักใช้คนให้ตรงกับความสามารถและชนิดของงานที่เขาควรทำ ให้อภัยให้เป็น เมื่อลูกน้องเกิดผิดพลาดขึ้น
แต่ใช่ว่าจะผิดบ่อยๆจนเป็นนิสัย เช่นนี้อาจทำให้การงานเสียหายได้
• สวดมนต์แล้วใจวอกแวก
ปุจฉา : เวลาเราสวดมนต์เพื่อให้จิตใจสงบ มีสมาธิ มีสติ ไม่ฟุ้งซ่าน ควรทำอย่างไรคะ คือเวลาสวดมนต์ ใจมันไม่อยู่กับมนต์ หลวงปู่มีวิธีการอะไรแนะนำให้เวลาสวดมนต์ ใจไม่วอกแวก
วิสัชนา : จริงๆแล้วเวลาสวดมนต์ ต้องอยู่กับมนต์ ปากสวดมนต์ ใจรู้มนต์ แต่ที่คุณบอกว่าใจมันวอกแวกแสดงว่าไม่ได้เป็นผู้สวดมนต์ แสดงว่า เราโกหกพระพุทธเจ้า โกหกพระพุทธรูป โกหกตัวเอง เพราะเราไม่ซื่อตรงต่อตัวเอง ด้วยเหตุผลว่า เราไม่ฝึกที่จะซื่อตรง
บางที ใจคิดเรื่องหนึ่ง ปากพูดอีกเรื่องหนึ่ง แล้วมือก็ไปทำอีกเรื่องหนึ่ง ชีวิตเราก็คนละเรื่องตลอด ถ้าคิดอย่างไร ทำอย่างนั้น ทำอย่างไร พูดเช่นนั้น คิด ทำ พูดเรื่องเดียวกัน เราก็กลายเป็นคนตรงไป ตรงมา เป็นผู้ซื่อตรง
ธรรมะเบื้องต้น ดูได้จากความเป็นผู้ซื่อตรง แต่ถ้าหากว่าไม่ซื่อตรง แล้วบอกว่า เป็นผู้มีธรรมะขั้นสูง มันไม่ใช่ มันสอบไม่ผ่านตั้งแต่ขั้นแรก
คนมีธรรมะเบื้องต้น ต้องตรงไปตรงมา ต้องซื่อตรง ไม่สวมหน้ากาก ไม่เสแสร้ง ไม่ต้องแกล้งสาธยาย แต่มันตรงไปตรงมาจริงๆ ใจคิดอย่างไร ปากพูดอย่างนั้น ปากพูดอย่งไร มือก็ทำเช่นนั้น คิด ทำ พูด เรื่องเดียวกัน
ที่จริงการสวดมนต์ที่จะทำให้จิตอยู่กับกาย กายรวมกับจิตโดยที่มันไม่วอกแวก เราอาจจะสวดมนต์ถอยหลังก็ได้ สวดช้าๆ ก็ได้ นะ โม ตัส สะ ภะ คะ วะ โต 3 จบก็ดีกว่าสวด อิติปิโส ภควา อรหังสัมมา แล้วไม่รู้เรื่องอะไร ใจเลื่อนลอย
คือ ทำให้มันช้าลง มันก็น่าจะถูกต้องได้มากกว่ารวดเร็ว นั่นคือ กระบวนการสวดมนต์ที่ใจจะรวมกับกายได้
• คอรัปชั่นจะตกนรกมั้ย?
ปุจฉา : การล่วงละเมิดศีลข้อที่ 2 เป็นการคอรัปชั่น ฉ้อราษฎร์บังหลวง ตายไปจะตกนรกอย่างที่พระไตรปิฎกกล่าวไว้ จริงหรือไม่ครับ
วิสัชนา : อยากจะบอกว่า คุณอาจจะยังไม่รู้ว่า นรกมีหรือไม่มี แต่ที่รู้ๆ ก็คือว่า
คุณทำผิดแล้วคุณรู้สึกผิดในใจหรือเปล่า ถ้าเมื่อใดที่คุณทำผิดแล้วรู้สึกผิดในใจ นั่นแหละคุณอาจจะแก้ไขพฤติกรรมตัวเองได้ อาจจะได้มีโอกาสขึ้นสวรรค์
แต่ถ้าเมื่อใดที่คุณทำผิดแล้ว ไม่รู้สึกผิดในใจ นั่นแหละคือ นรก
แล้วถามว่า นรกมันจะเกิดอย่างไร เอาเป็นว่า ถ้าคุณยิ้มให้คนข้างๆ คนข้างๆ ยิ้มให้คุณ นั่นแหละสวรรค์ แต่ถ้าเมื่อใดที่คุณตบคนข้างๆ แล้วคนข้างๆ เขาตบคุณ นั่นแหละคือ นรก
ความทุกข์ที่เกิดขึ้นเป็นนรกทั้งนั้น อย่ารอตายแล้วตกนรก ทุกครั้งที่เราไปคดโกงเค้า เอารัดเอาเปรียบเค้า ยื้อแย่งแก่งแย่งชิงดีเค้า อิจฉา ริษยา ละโมบโลภมาก ทำร้ายทำลายคนอื่น แม้ไม่มีคนรู้ แต่ตัวคุณรู้แล้ว มันก็เป็นไฟสุมขอนเผาคุณอยู่ตลอด
คุณเคยเข้าป่าแล้วเห็นไฟสุมขอนมั้ย มันไม่ใช่อาทิตย์หนึ่งดับนะ เป็นเดือนกว่าจะดับ มันไม่มีไฟ ควันมันก็น้อย แต่มันไหม้อยู่ตลอด หลับก็ไม่เป็นสุข ตื่นก็เป็นทุกข์ ทุรนทุราย ดิ้นจนหนังกลับ ก็ไม่หลับเสียที นั่นแหละ นรกแล้วล่ะ
อย่าไปรอตกนรกตอนตายเลย เอาตอนเป็นๆ ให้มันรอดนรกเถอะ
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 147 มีนาคม 2556 โดย หลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม)