กระทรวงอุตสาหกรรมเผยคณะกรรมการกลั่นกรองพิจารณาอนุญาตประกอบกิจการแล้วเสร็จกว่า 190 เรื่อง ไม่มีเรื่องค้าง พร้อมจัดระเบียบผู้ประกอบการไม่กล้าก่อสร้างก่อนรับใบอนุญาต ขณะที่การตรวจสอบ 2 โรงงานในพื้นที่ จ.นครปฐม ขีดเส้นตายอีก 30 วัน พร้อมสั่งปิดโรงงงานทันที ปลัดฯ ยันเป็นห่วงวัดหลวงปู่พุทธะอิสระ
นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองการพิจารณาอนุญาตโรงงานบางประเภทที่มีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต และสิ่งแวดล้อม ว่า ตั้งแต่เริ่มการพิจารณา คณะกรรมการประชุมกัน 50 ครั้ง มีเรื่องเข้าสู่การพิจารณาทั้งสิ้นกว่า 190 เรื่อง ผลการพิจารณาอนุมัติประกอบกิจการ หรือออกใบอนุญาต รง.4 พิจารณาอนุมัติแล้ว 129 เรื่อง ไม่อนุญาต 2 เรื่อง และส่งเรื่องคืนให้หน่วยงาน เนื่องจากเอกสารไม่มีรายละเอียดเพียงพอไม่สามารถพิจารณาได้ 64 เรื่อง
ในส่วนการพิจารณากลั่นกรองฯ ได้ยึดหลักการอยู่ร่วมกันของโรงงานกับชุมชน เอาทุกข์สุขของประชาชนเป็นที่ตั้ง โดยได้นำประสบการณ์ในอดีตที่เคยอนุญาตไปแล้วและเกิดปัญหาตามมา นำมา พิจารณาเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก โดยเฉพาะในจำนวนกว่า 190 ราย กว่า 90 เปอร์เซ็นต์มักก่อสร้างไปก่อนโดยที่ไม่ขออนุญาต ซึ่งอาจทำให้การก่อสร้างแม้จะถูกต้องตามแบบ แต่ไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ เมื่อนำมาแก้ไขภายหลังไม่สามารถทำได้ นับจากนี้ถือเป็นมิติใหม่ที่การก่อสร้างจะต้องทำหลังจากที่ได้ใบอนุญาต รง.4 ทำให้ปัจจุบัน ไม่มีโรงงาน ผู้ประกอบกิจการใดๆ กล้าที่จะสร้างโรงงานไปก่อนขอใบอนุญาต ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่ภาคส่วนร่วมของชุมชน สังคม และภาคอุตสาหกรรมจะช่วยกันตรวจสอบและดูแลซึ่งกันและกัน อยู่ร่วมกันอย่างเป็นยั่งยืนต่อไป
กรณีที่มีการร้องเรียนโรงงานในจังหวัดนครปฐม นายวิฑูรย์พร้อมด้วย นายณัฐพล ณัฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้เดินทางเข้าตรวจสอบ 2 โรงงานในพื้นที่ ได้แก่ บริษัท ซีแซดพัฒนา จำกัด โรงงานผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงจากยางรถยนต์ที่ใช้แล้ว และบริษัท อาร์ที อะกริเทค จำกัด บริษัทฯ แรกพบว่าสภาพภายในโรงงานยังมีปัญหาฝุ่นเขม่าควันและการจัดเก็บไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด ซึ่งสร้างปัญหาความเดือดร้อนแก่ชุมชนใกล้เคียง ทางอุตสาหกรรมได้สั่งให้โรงงานหยุดประกอบกิจการ เพื่อดำเนินการปรับปรุงแก้ไขภายใน 30 วัน หากไม่เป็นไปตามกำหนด จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป
บริษัท อาร์ที อะกริเทค ที่ก่อให้เกิดผลกระทบจากกลิ่นเหม็น และฝุ่นฟุ้งกระจายทาง บริษัทฯ ได้ดำเนินการปรับปรุง โดยโรงงานยอมปิดกิจการเพื่อดำเนินการติดตั้งระบบโอโซนต่อจากระบบกำจัดกลิ่นเดิมจากกระบวนการอัดเม็ด ซึ่งติดตั้งแล้วเสร็จเมื่อเดือนธันวาคม 2555 และดำเนินการสร้างระบบกำจัดกลิ่นเพิ่มต่อจากระบบขจัดกลิ่นเดิม โดยพร้อมให้กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบเพื่อให้ผ่านเกณฑ์มาตรฐานตามกำหนด ภายใน 30 วัน ก่อนเปิดโรงงานตามปกติ
พร้อมกันนี้นายวิฑูรย์และนายณัฐพล เดินทางเข้ากราบนมัสการหลวงปู่พุทธะอิสระ เพื่อเรียนถึงขึ้นตอนการแก้ไขว่า ทางกระทรวงอุตสาหกรรมมีความเป็นห่วงเรื่องที่เกิดขึ้นและได้สั่งให้ทางโรงงานมีการปรับปรุง โดยได้ดำเนินการปรับปรุงพร้อมติดตั้งอุปกรณ์โอโซนต่างๆในการกำจัดกลิ่น ขณะนี้อยู่ระหว่างทดลองตรวจสอบระบบดังกล่าวซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 30 วัน ถ้าตรวจสอบแล้วยังไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานของกระทรวงอุตสาหกรรมก็ต้องปรับปรุงต่อไปจนกว่าจะผ่านเกณฑ์จึงสามารถเปิดทำการได้.
นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองการพิจารณาอนุญาตโรงงานบางประเภทที่มีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต และสิ่งแวดล้อม ว่า ตั้งแต่เริ่มการพิจารณา คณะกรรมการประชุมกัน 50 ครั้ง มีเรื่องเข้าสู่การพิจารณาทั้งสิ้นกว่า 190 เรื่อง ผลการพิจารณาอนุมัติประกอบกิจการ หรือออกใบอนุญาต รง.4 พิจารณาอนุมัติแล้ว 129 เรื่อง ไม่อนุญาต 2 เรื่อง และส่งเรื่องคืนให้หน่วยงาน เนื่องจากเอกสารไม่มีรายละเอียดเพียงพอไม่สามารถพิจารณาได้ 64 เรื่อง
ในส่วนการพิจารณากลั่นกรองฯ ได้ยึดหลักการอยู่ร่วมกันของโรงงานกับชุมชน เอาทุกข์สุขของประชาชนเป็นที่ตั้ง โดยได้นำประสบการณ์ในอดีตที่เคยอนุญาตไปแล้วและเกิดปัญหาตามมา นำมา พิจารณาเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก โดยเฉพาะในจำนวนกว่า 190 ราย กว่า 90 เปอร์เซ็นต์มักก่อสร้างไปก่อนโดยที่ไม่ขออนุญาต ซึ่งอาจทำให้การก่อสร้างแม้จะถูกต้องตามแบบ แต่ไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ เมื่อนำมาแก้ไขภายหลังไม่สามารถทำได้ นับจากนี้ถือเป็นมิติใหม่ที่การก่อสร้างจะต้องทำหลังจากที่ได้ใบอนุญาต รง.4 ทำให้ปัจจุบัน ไม่มีโรงงาน ผู้ประกอบกิจการใดๆ กล้าที่จะสร้างโรงงานไปก่อนขอใบอนุญาต ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่ภาคส่วนร่วมของชุมชน สังคม และภาคอุตสาหกรรมจะช่วยกันตรวจสอบและดูแลซึ่งกันและกัน อยู่ร่วมกันอย่างเป็นยั่งยืนต่อไป
กรณีที่มีการร้องเรียนโรงงานในจังหวัดนครปฐม นายวิฑูรย์พร้อมด้วย นายณัฐพล ณัฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้เดินทางเข้าตรวจสอบ 2 โรงงานในพื้นที่ ได้แก่ บริษัท ซีแซดพัฒนา จำกัด โรงงานผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงจากยางรถยนต์ที่ใช้แล้ว และบริษัท อาร์ที อะกริเทค จำกัด บริษัทฯ แรกพบว่าสภาพภายในโรงงานยังมีปัญหาฝุ่นเขม่าควันและการจัดเก็บไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด ซึ่งสร้างปัญหาความเดือดร้อนแก่ชุมชนใกล้เคียง ทางอุตสาหกรรมได้สั่งให้โรงงานหยุดประกอบกิจการ เพื่อดำเนินการปรับปรุงแก้ไขภายใน 30 วัน หากไม่เป็นไปตามกำหนด จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป
บริษัท อาร์ที อะกริเทค ที่ก่อให้เกิดผลกระทบจากกลิ่นเหม็น และฝุ่นฟุ้งกระจายทาง บริษัทฯ ได้ดำเนินการปรับปรุง โดยโรงงานยอมปิดกิจการเพื่อดำเนินการติดตั้งระบบโอโซนต่อจากระบบกำจัดกลิ่นเดิมจากกระบวนการอัดเม็ด ซึ่งติดตั้งแล้วเสร็จเมื่อเดือนธันวาคม 2555 และดำเนินการสร้างระบบกำจัดกลิ่นเพิ่มต่อจากระบบขจัดกลิ่นเดิม โดยพร้อมให้กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบเพื่อให้ผ่านเกณฑ์มาตรฐานตามกำหนด ภายใน 30 วัน ก่อนเปิดโรงงานตามปกติ
พร้อมกันนี้นายวิฑูรย์และนายณัฐพล เดินทางเข้ากราบนมัสการหลวงปู่พุทธะอิสระ เพื่อเรียนถึงขึ้นตอนการแก้ไขว่า ทางกระทรวงอุตสาหกรรมมีความเป็นห่วงเรื่องที่เกิดขึ้นและได้สั่งให้ทางโรงงานมีการปรับปรุง โดยได้ดำเนินการปรับปรุงพร้อมติดตั้งอุปกรณ์โอโซนต่างๆในการกำจัดกลิ่น ขณะนี้อยู่ระหว่างทดลองตรวจสอบระบบดังกล่าวซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 30 วัน ถ้าตรวจสอบแล้วยังไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานของกระทรวงอุตสาหกรรมก็ต้องปรับปรุงต่อไปจนกว่าจะผ่านเกณฑ์จึงสามารถเปิดทำการได้.