xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

หลวงปู่พุทธะอิสระ ขึ้นป้ายขายวัดอ้อน้อย 2 พันล. หนีกลิ่นโรงงานเน่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หลวงปู่พุทธะอิสระ
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ราว 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้คนที่ได้สัญจรผ่านไปมายังถนนมาลัยแมน หรือทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 321 สายนครปฐม-สุพรรณบุรี เป็นถนนขนาด 4 ช่องจราจรไป-กลับ มีจุดเริ่มต้นจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 บริเวณสามแยกมาลัยแมน อ.เมืองนครปฐม ผ่าน อ.กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน เข้าสู่เขต จ.สุพรรณบุรี ผ่าน อ.สองพี่น้อง อ.อู่ทอง สิ้นสุดที่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 340 ในเขต อ.เมืองสุพรรณบุรี ต่างตั้งคำถามถึงภาพที่ปรากฏอย่างเด่นชัดเมื่อขับรถผ่านบริเวณหน้าวัดอ้อน้อย (ธรรมอิสระ) ติดกับถนนมาลัยแมน กม.ที่ 17 ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ที่ได้ติดตั้งป้ายขนาดใหญ่ 3 ป้าย ขนาดความยาว 10 เมตร สูง 6 เมตร มีข้อความเขียนเหมือนกันว่า “ขายวัดราคาถูก ทนไม่ไหวแล้ว กลิ่นโรงงานอาหารสัตว์ทรมานเหลือเกิน”

ด้วยข้อความสั้นๆ แต่บงบอกถึงจุดประสงค์ชัดเจนว่า พระสงฆ์ในวัดแห่งนี้ คงต้องมีปัญหากับโรงงานอุตสาหกรรมด้านอาหารสัตว์ ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามฝั่งถนนห่างจากวัดไปไม่เกิน 300 เป็นแน่

และนั่นก็เพียงพอที่เป็นแม่เหล็กทำให้ผู้คนที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น รวมถึงคลื่นของสื่อมวลชนหลั่งไหลเข้าสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากพระสุวิทย์ ธีรธมฺโม หรือ "หลวงปู่พุทธอิสระ" เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย (ธรรมอิสระ) เพื่อไขปริศนาปรากฏการณ์ขึ้นป้ายประกาศขายวัด ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

หลวงปู่พุทธอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย (ธรรมอิสระ) ได้ให้คำตอบแบบกระจ่างว่า ทางวัดได้เป็นผู้ขึ้นป้ายดังกล่าวจริงเพื่อยืนยันว่า พระสงฆ์ สามเณร รวมถึงผู้ที่มาปฏิบัติธรรมและญาติโยมที่เข้ามาทำบุญในวัดต่างได้รับผลกระทบกับสิ่งที่เกิดขึ้น คือ กลิ่นเหม็นจนแสบจมูกที่โชยเข้ามาในวัดพร้อมกับฝุ่นละออง ซึ่งได้เกิดขึ้นมานานกว่า 2 ปีแล้ว และปัญหาที่เกิดขึ้นก็มาจากโรงงานผลิตอาหารสัตว์ของบริษัทอาร์ที อะกริเทค จำกัด ที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกันข้าม ทางวัดได้เข้าไปติดต่อกับทางบริษัทหลายครั้งในการแก้ปัญหา ซึ่งก็ได้รับคำตอบยืนยันว่าจะแก้ไขปัญหาทุกครั้ง แต่ปัญหาก็ไม่ได้รับการแก้ไขเลยสักครั้ง

“สุดท้ายการยอมยกธงขาวขึ้นป้ายประกาศขายวัดในราคา 2,000 ล้านบาทเพื่อขอแยกทางกับปัญหาที่เกิดขึ้น เมื่อขายแล้วก็จะยกเงินเข้ามูลนิธิธรรมอิสระ หลังจากนั้นอาตมาก็จะเข้าป่าปฏิบัติธรรมหาความสงบเพื่อไม่ให้เป็นปัญหากับโรงงานแห่งนี้อีกต่อไป ซึ่งวัดอ้อน้อยนี้สร้างมาตั้งแต่ปี 2533 มีพื้นที่เริ่มสร้าง 1 ไร่ ผ่านมา 25 ปีมีที่ดินกว่า 200 ไร่”หลวงปู่พุทธะอิสระอธิบาย

นายสะอาด เกิดปั้น เลขานายกองค์การส่วนบริหารตำบล (อบต.) ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม กล่าวว่า จาการสอบถามชาวบ้านในบริเวณใกล้กับโรงงาน และวัดอ้อน้อย ทราบว่า กลิ่นของโรงงานนั้นเหม็นจริงแต่จะลอยมาเป็นระยะๆ ส่วนทางวัดอ้อน้อยนั้น น่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะอยู่บริเวณตรงข้ามกับโรงงานโดยตรง

"ช่วงนี้ยังดีกว่าช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา ซึ่งจะมีกลิ่นเหม็นรุนแรงกว่านี้ ช่วงนี้ยังดีที่กลิ่นได้ลดความรุนแรงจากเดิมลงไปบ้าง แต่ก็กลัวว่าจะมีกลิ่นกลับมาเหมือนกัน และกำลังรอดูการแก้ไขของโรงงงานนี้อยู่”

หลังเรื่องนี้ตกเป็นข่าวสะพัดไปทั่ว ต่อมาวันที่ 21 ม.ค.นายสุพจน์ เอื้อจิตต์สุรกุล ผู้จัดการทั่วไปของบริษัทอาร์ที อะกริเทค จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 45 ม.11 ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ซึ่งเป็นโรงงานคู่กรณีก็ได้เข้าพบกับหลวงปู่พุทธะอิสระ โดยแจ้งให้กับทางวัดว่า ทางโรงงานได้ยอมรับว่าโรงงานผลิตอาหารสัตว์นั้นมีกลิ่นอยู่จริง และทางโรงงานก็ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และเร่งแก้ไขปัญหามาตลอดตั้งแต่รับแจ้งจากทางวัด ตอนนี้ได้เร่งติดตั้งเครื่องดับกลิ่นอยู่เสร็จไปแล้วประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ คาดว่ากลางเดือนกุมภาพันธ์นี้จะเสร็จสิ้นและพยายามจะเร่งแก้ไขปัญหาให้จบและจะให้มีกลิ่นออกมาน้อยที่สุดที่จะเป็นไปได้

ส่วนเรื่องที่นายนพรัตน์ เบญวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้ออกมากล่าวถึงการขึ้นป้ายประกาศขายวัดอ้อน้อยว่าการขายวัดนั้นไม่สามารถทำได้นั้น หลวงปู่พุทธะอิสระ กล่าวว่า ที่ทางสำนักพุทธศาสนา ออกมาชี้แจงต่อสาธารณะว่า จริงๆ แล้วสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติน่าจะเข้ามาช่วยเหลือดูแลวัดที่ได้รับความเดือดร้อนมากกว่า ไม่ใช่ออกมาแจงว่า ขายวัดไม่ได้ เพราะถ้าปัญหาโรงงานนี้แก้ไขไม่ได้ ก็จะยอมเซ้งหรือใช้เช่าก็ได้ เพื่อที่วัดจะได้ไม่เป็นปัญหากับการประกอบกิจการจากโรงงานนี้ ซึ่งคำถามจะต้องไปถามวัดที่อยู่รายรอบนี้อีก 4 วัด คือ วัดลาดหญ้าไทร วัดรางอีเม้ย วัดหลักเมตร และวัดปลักไม้ลาย และชุมชนแถวนี้ด้วยว่า มีความต้องการอย่างไร เหตุใดการก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรม จึงได้เกิดขึ้นในชุมชนทั้งๆ ที่ไม่มีการทำประชาพิจารณ์หรือมาถามชาวบ้าน 2 ปีกว่า

“ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐมมาแล้ว 3 คน วันนี้ยังไม่มีอะไรดีขึ้น ถึงเวลาจะต้องย้ายออกไป เพราะมีข้อมูลว่าโรงงานแห่งนี้กำลังจะเตรียมขยายกิจการ เป็นโรงงานเกี่ยวกับเหล็ก และยาฆ่าแมลง หรือปุ๋ย ที่ย้ายมาจากนิคมอุตสาหกรรมนวนคร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพราะบริเวณนี้ไม่ใช่พื้นที่น้ำท่วม ถ้าวันนี้เรายังไม่แก้ไขปัญหา จะมีโรงงานอุตสาหกรรมเกิดขึ้นมาอีกแน่นอน”

จากปัญหาที่ขึ้น ทำให้ขณะนี้หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างเริ่มตื่นตัวไปตามกระแสข่าว โดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จ.นครปฐม ทั้งสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 5 ต่างเข้าไปสำรวจพื้นที่ทั้งภายในวัดอ้อน้อย และภายในโรงงานผลิตอาหารสัตว์ เพื่อเก็บข้อมูลและข้อเท็จจริงโดยพบว่าโรงงานแห่งนี้ส่งกลิ่นและฝุ่นละอองจริง จึงได้มีการสั่งการให้เร่งดำเนินการ ในการแก้ไขปัญหาภายใน 1 เดือน หากไม่ดำเนินการให้แล้วเสร็จจะมีคำสั่งให้มีการปิดโรงงานทันที

วันที่ 22 ม.ค. นายสุวรรณ นันทศรุต ผู้อำนวยการสิ่งแวดล้มภาค 5 พร้อมนายชุมพล ขุนอ่อน นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการ ฝ่ายตรวจสอบบังคับบัญชาการ การควบคุมมลพิษ นายธำรง บุญญานิตย์ จากกรมโรงงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครปฐม นายธนรัฐ ศรีสันต์ ปลัดอาวุโสอำเภอกำแพงแสน นายอดุลย์กิตติ วุฒาพาณิชย์ นายก อบต.ห้วยขวาง และหลายหน่วยงาน ได้เข้าตรวจสอบกรณีมีกระแสร้องเรียนจากวัดอ้อน้อยที่ติดป้ายประกาศขายวัดหนีกลิ่นเหม็นจากการผลิตอาหารสัตว์ และได้เข้าประชุมร่วมกับผู้บริหารของโรงงานกว่า 3 ชั่วโมงเศษ ก่อนมอบหมายให้นายวิสันต์ ฤทัยเจตน์เจริญ กรรมการผู้จัดการโรงงานนำตรวจสอบบริเวณโดยรอบ และได้มีการนำเครื่องมือมาเก็บค่าคุณภาพอากาศและกลิ่นที่เกิดจากการผลิตภายในโรงงาน

นายวิสันต์ บอกว่า วันนี้ยังไม่มีอะไรจะขยายความเพราะเมื่อวันที่ 21 ม.ค.ได้เข้าไปชี้แจงต่อหลวงปู่พุทธะอิสระ แล้วว่าทางโรงงานพร้อมแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจังมาตลอด โดยตอนนี้จะเร่งให้จบสิ้นประบวนการผลิตให้ลูกค้าราว 7-10 วันเพื่อจะหยุดเดินเครื่อง และมาเร่งแก้ไขปัญหาในการผลิตเรื่องมีกลิ่นให้จบเร็วที่สุด และจะทำการปิดโรงงานราว 1 เดือนคาดว่าจะเสร็จตามที่รับปากหลวงปู่ไว้

ปัญหากลิ่นเน่าเหม็นและฝุ่นละอ่องจะได้รับการแก้ไขตามที่ทางโรงงานผลิตอาหารสัตว์แห่งนี้รับปากกับหลวงปู่พุทธะอิสระ ว่าจะเร่งดำเนินการแก้ไขให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนดในราว 1 เดือนหรือไม่นั้น คำตอบจะมีขึ้นในอีกราว 30 วันนับแต่วันนี้เป็นต้นไป

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นับเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่สะท้อนให้เห็นว่า สังคมไทยได้มีการจัดระเบียบและวางผังเมืองอย่างไร วัด โรงเรียน ชุมชน สถานศึกษา และโรงงานอุตสาหกรรม จะตั้งอยู่ในพื้นที่โซนนิ่งที่แบ่งกันอย่างชัดเจนได้อย่างไร การปล่อยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้มีอำนาจอนุมัติให้หรือไม่ให้ก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรม ควรมีมากน้อยเพียงไร การติดตามย้อนสอบถามถึงกระบวนการที่ก่อให้เกิดปัญหาครั้งนี้จึงยากกว่าการที่จะวางแนวมาตรการให้กับสังคมไทยว่า แท้จริงแล้วรูปแบบของย่านพักอาศัย ย่านอตสาหกรรม จะอยู่ร่วมกันได้หรือไม่หรือควรจะแยกออกจากกันโดยสิ้นเชิง นี่คือปัญหาที่วัดอ้อน้อย (ธรรมอิสระ) กำลังสะท้อนให้สังคมได้เห็นอยู่ในตอนนี้

และอีกประเด็นที่ควรจับตามองถึงรูปแบบการบริหารราชการว่า การร้องเรียนด้วยเอกสาร วาจาไปยังหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องนานกว่า 2 ปีเหตุใดจึงยังไม่มีการเข้าไปแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง แต่เมื่อเกิดกระแสเป็นประเด็นข่าวที่สังคมรับรู้ การขับเคลื่อนจึงมีความรวดเร็วและเป็นไปอย่างจริงจัง...นี่คืออีกหนึ่งข้อกังขาในสังคมที่ประชาชนก็ต้องการทราบคำตอบอีกเช่นกัน


ป้ายประกาศขายขนาดใหญ่ที่ติดเอาไว้หน้าวัดอ้อน้อย
โรงงานผลิตอาหารสัตว์ของบริษัทอาร์ที อะกริเทค จำกัด ต้นเหตุแห่งกลิ่นเหม็นและการประกาศขายวัด
กำลังโหลดความคิดเห็น