ตำรวจรวบหนุ่มเมืองโอ่งพร้อมเพื่อนร่วมแก๊งที่พยายามขโมยรถยนต์กลางดึกแต่เจ้าของตื่นมาเห็นจึงได้ทิ้งรถกระบะวิ่งหลบหนี รุ่งขึ้นจึงให้เมีย-แม่ยายออกหน้ามาขอรับรถกับตำรวจ สุดท้ายถูกจับพิรุธได้ถูกรวบตัวยกแก๊ง พบมีประวัติต้องคดีลักรถหลายคดี
วันนี้ (25 ม.ค.) ที่ สภ.คลองข่อย พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.ท.กนกศักดิ์ สิงห์ทอง สวญ.สภ.คลองข่อย พ.ต.ท.ทศพล โชติคุตร์ สว.สส สภ.คลองข่อย พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกันแถลงข่าวจับกุมคนร้ายแก๊งลักรถยนต์ ที่ตระเวนก่อเหตุในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยสามารถจับกุมตัว นายสุชิน ชูดี อายุ 30 ปี หัวหน้าแก๊ง อยู่บ้านเลขที่ 5/12 ม.16 ต.ปากแรด อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี นายเบียร์ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นายออฟ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี พร้อมด้วยของกลางกุญแจผีหรือเหล็กดอกไขประตูรถยนต์ชนิดต่างๆ จำนวน 7 อัน รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีฟ้า ทะเบียน บท 9526 ราชบุรี ซึ่งเป็นรถที่ใช้ตระเวนก่อเหตุโจรกรรม และ รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีดำ ทะเบียนกบ 9014 นนทบุรี รถของกลาง โดยกล่าวหาว่าร่วมกันพยายามลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะและร่วมกันทำให้เสียทรัพย์
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 มกราคม เวลา 04.30 น.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทศพล โชติคุตร์ สว.สส สภ.คลองข่อยรับแจ้งจากนายเสนีย์ พุทธาภิวัฒน์ อายุ 40 ปี อาชีพค้าขายว่ามีคนร้ายพยายามลักรถยนต์กระบะของตนเองซึ่งจอดอยู่หน้าร้านไทโตกุงวิศวกรรมเครื่องเย็น เลขที่ 4/10 ม.3 ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี แต่ไม่สำเร็จเนื่องจากผู้เสียหายตืนมาเห็นเสียก่อนและร้องตะโกนให้เพื่อนบ้านช่วยกันจับตัว คนร้ายจึงได้ทิ้งรถยนต์กระบะที่ขับมาก่อเหตุวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าหญ้า จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่ากล้องวงจรปิดที่ติดไว้ที่หน้าร้านดังกล่าวถูกทุบจนแตกแต่ไม่พบตัวคนร้าย พบเพียงรถกระบะอีซูซุ ฟ้า ทะเบียน บท 9526 ราชบุรี ของคนร้ายจอดทิ้งไว้จึงยึดรถกลับไปตรวจสอบที่โรงพัก
โดยนายเสนีย์ให้การว่า เมื่อเวลา 04.30 น.ขณะที่ตนเองนอนอยู่บนชั้น 2 ของบ้านได้ยินเสียงสุนัขที่เลี้ยงไว้เห่ากรรโชกอะไรบางอย่างผิดปกติจึงตื่นขึ้นมาและลุกไปเปิดกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ที่หน้าบ้านดู แต่ปรากฏว่ากล้องวงจรปิดไม่สามารถดูภาพภายนอกได้ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นก็ทำงานปกติ จึงเปิดหน้าต่างห้องมองลงไปที่รถดูก็พบว่าที่รถกระบะของตนเองมีคนร้าย 2 คนกำลังพยายามไขประตูรถของตนเองอยู่ จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและตะโกนให้เพื่อนบ้านช่วยกันจับตัวคนร้าย กระทั่งคนร้ายทั้ง 2 คนรีบวิ่งหนีเข้าไปในป่าหญ้า ตนและเพื่อนบ้านจึงไม่กล้าวิ่งตามเข้าไปเพราะกลัวคนร้ายมีอาวุธจึงย้อนกลับมาที่รถของตนเองก็สังเกตเห็นรถกระบะของคนร้ายที่จอดอยู่ฝั่งตรงข้ามกับบ้านของตนมีเด็กวัยรุ่นนั่งอยู่ที่ท้ายกระบะเมื่อเห็นตนเองก็รีบกระโดดลงจากรถวิ่งหลบหนีไป
กระทั่งเวลา 06.30 น.ที่ สภ.คลองข่อย ได้มี น.ส.ปริตตา พิกุลทอง อายุ 28 ปี ภรรยานายสุชินพร้อมมารดา ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาติดต่อแสดงตัวขอรับรถยนต์ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยึดมาตรวจสอบ โดยอ้างกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถของมารดาตนเอง แต่ว่านายสุชินสามีได้ขับไปทำธุระและเกิดเสียจึงได้จอดทิ้งไว้ ทาง พ.ต.ท.ทศพล โชติคุตร์ สว.สส. จึงได้สอบถามว่านายสุชินมาด้วยหรือไม่ จนทราบว่านายสุชินนั่งรออยู่ในรถกระบะแต่ไม่ยอมลงมาจากรถ และท่าทางมีพิรุธ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสังเกตเห็นว่ามีรองเท้าผ้าใบสีขาวเลอะโคลนทิ้งอยู่ในรถและตัวนายสุชินก็ใส่รองเท้าแตะเหมือนเพิ่งซื้อมาเปลี่ยนใหม่จึงได้เชิญตัวลงจากรถมาสอบสวน จนกระทั่งนายสุชินได้ยอมรับสารภาพว่าได้ร่วมกับนายเบียร์และนายออฟมาลักรถยนต์กระบะของผู้เสียหายจริง แต่ผู้เสียหายตื่นขึ้นมาเสียก่อนจึงได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในทุ่งนา และในตอนเช้าจึงทำที่มาขอติดต่อขอรับรถของตนเองคืนจนมาถูกจับกุมในที่สุด ซึ่งเมื่อโจรกรรมรถมาได้จะนำไปขายให้กับอู่ใน จ.สุพรรณบุรี ในราคาคันละ 5 หมื่นบาท และนำเงินที่ได้ไปเที่ยวเตร่และซื้อยาเสพติด
เบื้องต้นจากการตรวจสอบประวัตินายสุชินพบว่าเคยถูกจับในคดีลักจักรยานยนต์ที่ จ.ราชบุรีเมื่อปีพ.ศ. 2546 ถูกตัดสินจำคุก 5 ปี และเมื่อพ้นโทษออกมาก็มาถูกจับกุมที่ จ.นครปฐม ในคดีเดียวกัน จำคุกอีก 2 ปี 6 เดือน กระทั่งพ้นโทษเมื่อปี 2554 ก็ออกมาตั้งแก๊งลักรถยนต์ในพื้นที่ของ ตร.นครบาล และตร.ภ.1 ตร.ภ.7 อย่างต่อเนื่อง