xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวสารผ่านโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เยอรมนี : เทวรูปโบราณแกะสลักจากอุกกาบาต
เทวรูปโบราณแกะสลักจากอุกกาบาต

• เยอรมนี : บรรดานักวิทยาศาสตร์เยอรมันวิเคราะห์ว่า เทวรูปโบราณที่นาซีพบและนำไปจากทิเบตนั้น แกะสลักจากหินอุกกาบาตที่หายาก

ดร.เอลมาร์ บุชเนอร์ หัวหน้าทีมวิจัยมหาวิทยาลัยสตุ๊ตการ์ท เปิดเผยว่า เทวรูปองค์นี้แกะสลักจากอุกกาบาตเหล็กที่เรียกว่า “อทาไซต์” ซึ่งมีส่วนผสมของนิกเกิลในระดับสูง ที่ตกในบริเวณพรมแดนของมองโกเลียและไซบีเรียเมื่อราว 15,000 ปีที่แล้ว นับเป็นอุกกาบาตที่หายาก และเป็นรูปสลักเทวรูปเพียงชิ้นเดียวในโลกที่แกะจากอุกกาบาต จึงมิอาจประเมินค่าได้

“หากประเมินค่าความเป็นของแท้อย่างเดียว จะอยู่ที่ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ (600,000 บาท) แต่ถ้ารวมอายุของเทวรูปที่คาดว่าเกือบ 1,000 ปีแล้ว อาจเรียกได้ว่า เป็นวัตถุล้ำค่าอย่างยิ่ง”

เทวรูปโบราณองค์ดังกล่าว ซึ่งเชื่อว่าเป็น “ท้าวเวสสุวรรณ” มีความสูง 10 นิ้ว น้ำหนัก 10.6 กก. ถูกค้นพบโดยทีมนักวิทยาศาสตร์เยอรมัน ที่นำโดย เอิร์นส์ ชาเฟอร์ นักสัตววิทยา ซึ่งเดินทางไปยังทิเบตด้วยการสนับสนุนของพรรคนาซีในปี 1938 ด้วยความเชื่อว่า ทิเบตคือแหล่งกำเนิดของเชื้อชาติอารยัน และมุ่งหมายที่จะค้นหาวัตถุสิ่งของจากดินแดนดังกล่าว เพื่อพิสูจน์ความยิ่งใหญ่ของลัทธินาซี

เทวรูปดังกล่าวได้ถูกนำกลับมายังประเทศเยอรมนี เพราะมีเครื่องหมายสวัสติกะขนาดใหญ่อยู่บนพระอุระ และได้ตกอยู่ในการครอบครองเป็นของสะสมส่วนบุคคล จนกระทั่งในปี 2009 จึงได้ถูกนำออกมาประมูลเพื่อใช้ในการศึกษาวิจัย

อนึ่ง ท้าวเวสสุวรรณ หรืออีกชื่อหนึ่งคือท้าวกุเวร เป็นหนึ่งในท้าวจตุโลกบาล ผู้ดูแลรักษาโลกมนุษย์ทางทิศเหนือ

(จาก UPI)

วัดญี่ปุ่นจัดแสดงภาพวาดพุทธศิลป์ที่โด่งดัง

• ญี่ปุ่น : เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2012 วัดเบียวโดอิน เมืองอุยิ จังหวัดเกียวโต ซึ่งองค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ได้นำภาพวาดพุทธศิลป์อันโด่งดังที่มีชื่อว่า “นิซโซกันซู” ซึ่งวาดขึ้นใหม่ มาจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์โฮโชกัน ภายในวัด เพื่อให้สาธารณชนได้ชมเป็นครั้งแรก จนถึงวันที่ 14 ธันวาคม 2012

โดยภาพดั้งเดิมนั้น เล่าเรื่องรูปแบบการทำวิปัสสนาในยุคเฮอัง (ค.ศ.794 – 1185) วาดลงบนบานประตู 2 บาน แต่ละบานมีความสูง 2.6 เมตร กว้าง 1.2 เมตร บานซ้ายวาดเป็นรูปดวงอาทิตย์กำลังตกลับขอบทะเล ส่วนบานขวาเป็นรูปเทือกเขาและวัดแห่งหนึ่ง

อนึ่ง บานประตูภาพวาดทั้ง 10 บานภายในวัดเบียวโดอิน ได้ขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติแห่งชาติ และได้ถูกเก็บรักษาไว้เพราะอยู่ในสภาพผุพัง มีเพียง “นิซโซกันซู” เท่านั้น ที่ยังคงตั้งวางอยู่ด้านหลังองค์พระอมิตาภพุทธเจ้า พระประธานของวัด ที่ประดิษฐานอยู่ภายในวิหารฟีนิกซ์ ซึ่งขณะนี้ถูกปิดเพื่อซ่อมแซม

(จาก The Asahi Shimbun)

รัฐโอริสสาเตรียมเปิดศูนย์พุทธศึกษา

• อินเดีย : เมื่อเร็วๆนี้ นายมเหศวร โมฮันธี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมแห่งรัฐโอริสสา ประเทศอินเดีย ได้กล่าวในที่ประชุมว่า ศูนย์พุทธศึกษาที่ก่อตั้งขึ้นที่เขตพุทธสถานเนินเขาลันกูดี เมืองชัยปุระ จะเริ่มเปิดให้บริการในวันที่ 1 มกราคม 2013 เป็นต้นไป เพื่อดึงดูดนักศึกษาจากทั้งในและนอกประเทศ

โดยจะเปิดสอนคอร์สระดับประกาศนียบัตร ปริญญาบัตร และงานวิจัย ตามลำดับ ในเบื้องต้นผู้เรียนต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง

ทั้งนี้ รัฐบาลรัฐโอริสสาเตรียมจัดการประชุมชาวพุทธนานาชาติขึ้นที่อุทยานคีรี ระหว่างวันที่ 1-3 กุมภาพันธ์ 2013

(จาก The Times of India)

พระพุทธรูปเป่าลม ลอยเด่นบนแม่น้ำในอเมริกา

• สหรัฐอเมริกา : ผู้คนที่สัญจรไปมาบริเวณสวนประติมากรรมโสเครติส ในเขตลองไอส์แลนด์ รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา จะสะดุดตากับภาพพระพุทธรูปเป่าลมประทับนั่งลอยเด่นเป็นสง่าอยู่บนแม่น้ำอีสต์

งานศิลปะดังกล่าวมีชื่อว่า “Floating Echo” หรือ “ภาพสะท้อนลอยน้ำ” เป็นผลงานของศิลปินเชื้อชาติเกาหลี “ชาง จิน ลี” ซึ่งจะจัดแสดงในแม่น้ำอีสต์จนถึงวันที่ 3 มีนาคม 2013

ไบรอัน โปลันโก ชายหนุ่มวัย 25 ปี กล่าวว่า “คุณเห็นภาพตึกสูงใหญ่อยู่เบื้องหลัง และพระพุทธรูปประทับนั่งอย่างสงบบนผืนน้ำ ทำให้เกิดแนวคิดในการมองสิ่งต่างๆ”

(จาก Shambhalasun)

จีนทุ่มเงิน 15,000 ล้านบาท สร้างอุทยานทางพุทธศาสนา

• จีน : เมื่อต้นเดือนตุลาคม 2012 รัฐบาลจีนได้เริ่มก่อสร้างพุทธอุทยานแห่งแรกขึ้นในมณฑลกานซู มูลค่าราว 477 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือ 15,000 ล้านบาท

พุทธอุทยานดังกล่าวสร้างอยู่ในเขตอุทยานประวัติศาสตร์ชาซู เมืองตุนหวง บนเนื้อที่ราว 120 ไร่ ประกอบด้วย จตุรัสสวดมนต์ ศูนย์ศึกษาโบราณวัตถุทางพุทธศาสนา หอประชุมปุจฉา-วิปัสสนา และศูนย์วิปัสสนา โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 2 ปี

อนึ่ง เมืองตุนหวง เป็นที่ตั้งของมรดกโลก “ถ้ำผาม่อเกา” ซึ่งภายในงดงามด้วยพุทธศิลป์จีน มีทั้งพระพุทธรูปและจิตรกรรมฝาผนังที่มีอายุกว่า 1,000 ปี อีกทั้งในอดีตยังเคยเป็นจุดค้าขายและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่สำคัญในเส้นทางสายไหม และเป็นจุดแรกที่พระสงฆ์จากอินเดียเดินทางเข้าสู่ประเทศจีน เพื่อเผยแพร่พระพุทธศาสนา

(จาก IANS)

อินเดียเตรียมจำลองถ้ำอชันตา อำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว

• อินเดีย : รัฐบาลรัฐมหาราษฏระ ประเทศอินเดีย เตรียมจำลอง 4 ถ้ำสำคัญของถ้ำอชันตา ซึ่งเป็นถ้ำทางพุทธศาสนาที่มีชื่อเสียง ให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม 2013 โดยจะสร้างขึ้นภายในบริเวณศูนย์ท่องเที่ยวอชันตา ซึ่งตั้งอยู่ใกล้สถานที่จริง

ศูนย์ท่องเที่ยวอชันตาเป็นโครงการของบริษัทพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งรัฐมหาราษฏระ ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 720 ล้านรูปี เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานที่อยู่โดยรอบถ้ำอชันตา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวพุทธจากประเทศต่างๆ อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ปัจจุบันการก่อสร้างอยู่ในขั้นที่ 2

ทั้งนี้ จะเปิดให้บรรดานักท่องเที่ยว นักวิชาการ ที่ชื่นชอบการเดินชมหมู่พระพุทธรูปและภาพเขียนผนังปูน ซึ่งสร้างเลียนแบบด้วยวัสดุและเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่แลดูเหมือนของเดิม ในบรรยากาศที่เงียบสงบ โดยไม่ต้องไปดูที่ถ้ำจริง ซึ่งถ้ำจำลองทั้ง 4 แห่ง ประกอบด้วย ถ้ำหมายเลข 1, 2, 16 และ 17 ที่มีความงดงามและดึงดูดจำนวนนักท่องเที่ยวได้มากที่สุด

อนึ่ง ถ้ำอชันตา ตั้งอยู่ที่เมืองออรังกบาด รัฐมหาราษฏระ ประกอบด้วยถ้ำ 30 แห่ง สร้างขึ้นระหว่างพ.ศ. 350-400 มาสิ้นสุดราว พ.ศ.1200 ภายในเต็มไปด้วยพระพุทธรูปหินแกะสลัก จิตรกรรมภาพเขียนผนังที่วิจิตรงดงาม

(จาก Thehindubussinessline)

พระเกาหลีเหนือ-ใต้ ร่วมเฉลิมฉลองวัดชินเก

• เกาหลีใต้ : เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2012 คณะสงฆ์จากวัดโชเกในเกาหลีใต้ 19 รูป ได้เดินทางมาที่วัดชินเก บนเขาคัมกัง ในเกาหลีเหนือ เพื่อร่วมกับพระสงฆ์และฆราวาส 22 รูป/คน จากสมาพันธ์พุทธแห่งเกาหลีเหนือ ประกอบพิธีทางศาสนาในวาระครบรอบ 5 ปีของการบูรณะวัดชินเก ซึ่งนับเป็นการรวมตัวกันเป็นครั้งแรก

“ลี กู ยอง” ผู้นำสมาพันธ์ฯ ได้กล่าวว่า “หากชาวพุทธทั้งเกาหลีเหนือ-ใต้ ร่วมมือกันอย่างแข็งขัน คงมีสักวันที่วัดชินเกแห่งนี้ จะกลายเป็นสถานที่เพื่อรวมชาติของเราทั้งสองให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอีกครั้ง”

ขณะที่พระจิฮอง ซึ่งเป็นผู้แทนของคณะสงฆ์โชเก กล่าวว่า “ในโอกาสที่ได้ร่วมประกอบพิธีทางศาสนานี้ ชาวพุทธจากเกาหลีเหนือและใต้ ควรร่วมแรงร่วมใจกันอนุรักษ์เขาคัมกัง ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเกาหลี และเป็นสัญลักษณ์ของการรวมชาติ”

อนึ่ง วัดชินเก เป็น 1 ใน 4 วัดที่มีความสำคัญบนเขาคัมกัง สร้างขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 519 รัชสมัยของกษัตริย์บอบเฮือง แห่งราชวงค์ซิลลา และถูกทำลายลงในช่วงสงครามเกาหลี ต่อมาเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2007 คณะสงฆ์โชเกแห่งเกาหลีใต้และสมาพันธ์พุทธแห่งเกาหลีเหนือ ได้ร่วมกันบูรณะวัดชินเกขึ้นใหม่

(จาก Buddhistchannel)

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 143 พฤศจิกายน 2555 โดย เภตรา)
ญี่ปุ่น : วัดญี่ปุ่นจัดแสดงภาพวาดพุทธศิลป์ที่โด่งดัง
สหรัฐอเมริกา : พระพุทธรูปเป่าลม ลอยเด่นบนแม่น้ำในอเมริกา
อินเดีย : เตรียมจำลองถ้ำอชันตา อำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว
เกาหลีใต้ : พระเกาหลีเหนือ-ใต้ ร่วมเฉลิมฉลองวัดชินเก
เกาหลีใต้ : พระเกาหลีเหนือ-ใต้ ร่วมเฉลิมฉลองวัดชินเก
กำลังโหลดความคิดเห็น