ASTVผู้จัดการออนไลน์/เอเจนซี--สืบเนื่องจากเมื่อราวปีกว่าที่ผ่านมา ที่รูปสลักนูนในวิหารลักซอร์ (Temple of Luxor) อันเก่าแก่ถึง3,400 ปี ได้ปรากฎข้อความภาษาจีน “ติง จิ่นเฮ่า ได้มาเที่ยวที่นี่ ” ชาวเน็ตตามล่าเจ้าของลายมือฯ จนพบตัว เป็นเด็กนักเรียนอยู่ชั้นมัธยมปีที่สาม ในนครหนันจิง
ขณะเดียวกัน มีรายงานเผยกรณีนักข่าวฮ่องกงขีดเขียน “จารึกการมาเยี่ยมชม” บนภาพเขียนฝาผนังในถ้ำพุทธศิลป์เมืองตุนหวง ถ้ำมรดกโลกที่เก่าแก่ร่วม 1,700 ปี
กลุ่มสื่อจีนรายงานว่า เมื่อวันเสาร์(25 พ.ค.) พ่อแม่ของเด็กนักเรียนมือบอนได้กล่าวคำขอโทษต่อพฤติกรรมของลูกชายวัย 15 ปี ผ่านสื่อท้องถิ่น Modern Express《现代快报》 เล่าว่า พวกเขาไม่รู้ว่าลูกได้ขีดเขียนบนเสาสลักภาพนูนในวิหารลักซอร์ ต่อมา ลูกได้พูดถึงเรื่องนี้ ก็ได้ดุว่าลูกชาย และเจ้าตี๋ก็สำนึกผิดแล้ว
“เมื่อเด็กได้ทำเรื่องที่ผิดพลาดไป ผู้ใหญ่ก็ต้องรับผิดชอบ พวกเราไม่สั่งสอนลูกให้ดีพอ พวกเราและลูกขอโทษต่อเรื่องที่เกิดขึ้น ขอโทษสาธารณชน และขอโทษประเทศอียิปต์ด้วย” พ่อของเด็กชายติง แถลงคำขอโทษผ่านสื่อฯ พร้อมกับแสดงความหวังว่า สังคมจะเปิดใจกว้างเมตตาเด็ก ไม่กระพือเรื่องราว ซ้ำเติมความผิดพลาด อันจะส่งผลเสียต่อการเรียนและชีวิตของเด็ก
ชุมชนออนไลน์จีนก็ดูเข้าใจเหตุผลในการอภัยให้แก่ความผิดของเด็กชายมือบอน เนื่องจากความเป็นเด็กไม่ประสีประสา โดยชาวเน็ตหลายคนแสดงความเห็นว่า เด็กเสมือนภาพสะท้อนของผู้ใหญ่ พฤติกรรมของเด็กล้วนมาจากอิทธิพลของผู้ใหญ่ ดังนั้น ผู้ใหญ่ควรตระหนักถึงเรื่องนี้ให้ดี
ทั้งนี้ ภาพรูปสลักนูนบนเสาในวิหารลักซอร์ ที่มีลายมือเขียนข้อความภาษาจีนว่า “ติง จิ่นเฮ่า ได้มาเที่ยวที่นี่” (丁锦昊到此一游)ถูกเผยแพร่ในเว็บไซต์สื่อสังคมออนไลน์จีนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา อาทิ เว็บบล็อกอันดับหนึ่งคล้ายทวิตเตอร์ อย่าง ซีน่า เวยปั๋ว (Sina Weibo) หลายคนต่างตกใจ โกรธเกรี้ยว ตะลึงต่อภาพที่เห็น และมีชาวเน็ตกลุ่มหนึ่งได้รวบรวมข้อมูลเพื่อตามล่าตัว “นักเขียนน้อยมือบอน” โดยแฮ็คเข้าไปในเว็บไซต์โรงเรียน ทั้งมีการกดดันพ่อแม่เด็ก
รายงานล่าสุด แจ้งว่า ขณะนี้ รอยขีดเขียนบนเสาสลักนูนในวิหารลักซอร์ ถูกลบออกแล้ว
สำหรับวิหารลักซอร์นี้ เก่าแก่กว่า 3,400 ปี ตั้งในเมืองลักซอร์ บนลุ่มน้ำไนล์ สร้างโดยฟาโรห์อเมโนฟิสที่ 3 นับเป็นวิหารคู่บ้านคู่เมืองแห่งหนึ่งของอียิปต์
ถ้ำพุทธศิลป์ชื่อก้องโลก ก็ไม่รอด “มือบอนตัวพ่อ”
ระหว่างที่มีรายงานข่าวเด็กจีนขีดเขียนบนเสาสลักนูนในวิหารลักซอร์ ชาวเน็ตจีนก็ได้โพสต์ข้อความ แฉกรณีขีดเขียนบนภาพเขียนฝาผนังในถ้ำพุทธศิลป์เมืองตุนหวง โดยเป็นฝีมือของผู้สื่อข่าวของสื่อชั้นนำฮ่องกง ชื่อ นาย ซ่ง อิ๋น (宋寅)
เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นปี 2543 หรือ 13 ปีมาแล้ว นาย ซ่ง อิ๋น ผู้สื่อข่าวอาวุโสของสื่อชั้นนำแห่งฮ่องกง หนังสือพิมพ์เหวินฮุ่ยเป้า (香港文汇报) ได้ไปเยี่ยมชมถ้ำมั่วเกาในเมืองตุนหวง มณฑลกันซู่ และได้เขียนข้อความบนภาพเขียนฝาผนังภาพหนึ่ง ความว่า “ฤดูร้อน ปี 2000 นักข่าวอาวุโสแห่งหนังสือพิมพ์เหวินฮุ่ยเป้าแห่งฮ่องกง นาย ซ่ง อิ๋น ได้มาเยี่ยมชมที่นี่” “二〇〇〇年立夏,香港文汇报高级记者宋寅到此参观考察” ข้างๆข้อความนี้ ยังปรากฎตัวอักษรเล็กๆจำนวนหนึ่ง เลอะๆเลือนๆเหมือนมีคนพยายามลบออก
เมื่อข่าวฯนี้ถูกนำออกมาเผยบนโลกออนไลน์ ในบ่ายวันอาทิย์(26 พ.ค.) ทางเหวินฮุ่ยเป้าก็ได้โต้ตอบผ่านเว็บบล็อกขององค์กรว่า “ทางเราได้ตรวจสอบแล้ว ขณะนี้ไม่มีบุคคลชื่อซ่ง อิ๋นในองค์กร และหนังสือพิมพ์ก็ขอประณามพฤติกรรมเยี่ยงนี้ด้วยเช่นกัน"
ชาวเน็ตได้ติดตามไล่ตัวของนาย ซ่ง อิ๋น ต่อไป ก็พบว่าทำงานอยู่ที่สื่อฮ่องกงอีกราย คือ หนังสือพิมพ์เศรษฐกิจการค้าฮ่องกง หรือ เซียงกั่งซังเป้า (香港商报)แต่ผู้ช่วยบรรณาธิการของเซี่ยงกั่งซังเป้า ได้แจ้งผ่านเว็บบล็อก”เวยปั๋ว” ขององค์กร ว่า “ตรวจสอบแล้ว ไม่มีนายคนนี้ (ซ่ง อิ๋น) อยู่ในองค์กร เขาเคยทำงานที่นี่ช่วงหนึ่ง และได้ลาออกไปเมื่อปี 2008 แล้ว ขณะนี้ไม่ทราบว่าไปอยู่ที่ใด กรณีขีดเขียนภาพบนผนังถ้ำตุนหวงไม่เกี่ยวข้องกับ เซียงกั่งซังเป้า”
ชาวเน็ตยังได้ทำการสืบค้นหาตัวนาย ซ่ง อิ๋น ต่อไป พบข้อมูลที่เกี่ยวกับซ่ง อาทิ ฝีมือการเขียนอักษรจีนของนายซ่ง สวยงามมีเอกลักษณ์ เคยเข้าร่วมการแข่งขันเขียนอักษรจีนด้วยพู่กันมาก่อน
สำหรับถ้ำมั่วเกาแห่งเมืองตุนหวง มีฉายา “ถ้ำพระพุทธรูปพันองค์” เป็นถ้ำพุทธศิลป์ชื่อก้องโลก อยู่ในเมืองตุนหวง มณฑลกันซู่ ถ้ำมั่วเกานี้ เก่าแก่โบราณร่วม 1,700 ปี ประกอบด้วยถ้ำนับพันๆแห่ง เต็มไปด้วยรูปปั้น รูปแกะสลักพระพุทธ ภาพเขียนฝาผนัง นับเป็นงานพุทธศิลป์ที่ประณีตงดงามชั้นนำของโลก ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 1987
สื่อของรัฐในจีนได้รายงาน ระบุรองนายกรัฐมนตรี หวัง หยัง กล่าวในการประชุมพิจารณาเรื่องการผ่านกฎหมายท่องเที่ยวจีนเมื่อต้นเดือน(พ.ค.) ถึง “พฤติกรรมที่ไม่ศิวิไลซ์” ของกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ที่ไปเที่ยวในต่างแดน ทำลายภาพลักษณ์ของประเทศ
ทั้งนี้ เมื่อปีที่แล้ว นักท่องเที่ยวแดนมังกรออกเที่ยวต่างประเทศ ถึง 82 ล้านคน จากข้อมูลสถาบันการศึกษาการท่องเที่ยวจีน ระบุ องค์การท่องเที่ยวโลก (United Nations World Tourism Organization)ก็ระบุว่า ด้วยเศรษฐจีนที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้ประชาชนมั่งคั่งขึ้น ออกไปท่องเที่ยวยังต่างแดนกันจำนวนมาก และได้กลายเป็นแหล่งทำรายได้ก้อนโตให้แก่การท่องเที่ยวของประเทศต่างๆ