xs
xsm
sm
md
lg

“รอยขีดเขียนบนเสาวิหารลักซอร์” ทำคุณภาพประชาชาติแดนมังกร ยิ่งแย่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพรอยขีดเขียน ข้อความ “ติง จิ่นเฮ่า ได้มาเที่ยวที่นี่” ที่เสาสลักนูน ในวิหารแบบหินทรายลักซอว์แห่งลุ่มแม่น้ำไนล์ ประเทศอียิปต์ (ภาพ เอเจนซี)
ประเทศจีนกำลังเรืองอำนาจ ประชาชนจำนวนมากมั่งคั่งขึ้น ปัจจัยดังกล่าวก็ได้ส่งอานิสงส์แก่การท่องเที่ยวประเทศต่างๆกันถ้วนหน้า ขณะที่ข้อมูลการศึกษาการท่องเที่ยวจีน เผยตัวเลขนักท่องเที่ยวจากแดนมังกรออกเที่ยวต่างประเทศ ถึง 82 ล้านคนในปีที่แล้ว(2555)

ทว่า กระแสที่นักท่องเที่ยวชาวจีนแห่เที่ยวในต่างประเทศ ก็หาได้ช่วยให้ความมั่งคั่งของชาติจีนเปล่งรัศมีเรืองรอง หรือสร้างความภาคภูมิใจในอำนาจซื้อของชาวจีน เนื่องจากมันถูกกลบด้วยกระแสเสียงวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมอันมิดีมิงามของนักท่องเที่ยวจีน จนในต้นเดือนพ.ค.นี้ รองนายกรัฐมนตรี หวัง หยัง กล่าวในที่ประชุมพิจารณาการผ่านกฎหมายท่องเที่ยว (Tourism Law)ฉบับใหม่ของประเทศ เกี่ยวกับ “พฤติกรรมที่ไม่ศิวิไลซ์” ของกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ที่ทำลายภาพลักษณ์ของประเทศ ท่านรองนายกฯจีนได้ยกตัวอย่างพฤติกรรมที่ถูกโจมตีมาก ได้แก่ พูดคุยเสียงดังในที่สาธารณะ เดินอย่างไร้ระเบียบวินัย ถ่มน้ำลาย และขีดเขียนตัวอักษรหรือข้อความตามที่สาธารณะ

ผู้นำจีนเล็งคลอดกฎหมายท่องเที่ยวออกมาบังคับใช้ในเดือนต.ค.ปีนี้ ในวรรคหนึ่งของกฎหมายฯ ระบุว่า “นักท่องเที่ยวจะต้องช่วยปกป้องรักษาทรัพยากรท่องเที่ยว และมีจริยธรรมสำนึกทางสังคมระหว่างการเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ” แต่ในร่างกฎหมายก็มิได้ระบุถึงความผิดและการลงโทษใดสำหรับการละเมิดฯ

การขีดเขียนข้อความของนักท่องเที่ยวที่ไปเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวต่างๆได้กลายเป็นประเด็นร้อนในสื่อสังคมออนไลน์จีนในช่วงต้นปีนี้ หลังจากที่เกิดเหตุนักท่องเที่ยวฝากรอยจารึกที่ประตูวังใกล้กับประตูไท่เหอเหมินในบริเวณพระราชวังต้องห้ามของกรุงปักกิ่ง เป็นข้อความ“梁齐齐到此一游” หมายถึง “เหลียง ฉีฉี ได้มาเยี่ยมเยือนที่นี่” ชาวเน็ตจำนวนมากรุมประณามพฤติกรรมการขีดเขียนบนโบราณสถานพระราชวังต้องห้าม ที่มีอายุเก่าแก่ 600 ปี ว่า “ต่ำทราม ไร้คุณธรรม

นอกไปจากนี้ ชาวเน็ตจีนผู้ใช้นามแฝง “ชาปาเหลี่ยงหวังฉูต้าตี้”(仨八俩王锄大地) เผยบนเว็บบล็อกเวยปั๋วว่า ที่ปราสาทหินนครวัด ก็มีรอยขีดเขียนของนักท่องเที่ยวจีน ที่จารึกแซ่ “เฉิน” ของตัวเองไว้ และโบราณสถานในจังหวัดสุโขทัยของไทย ก็ปรากฏ รอยจารึกอักษรจีน

กระแสการขีดเขียนที่เล่นกันถึงของสูงอย่างโบราณสถานของชาติเหล่านี้ ได้กลับมาร้อนฉ่าอีกครั้งในปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยครานี้เป็นที่ฮือฮาไปทั่วโลก เนื่องจากนักท่องเที่ยวจากแดนมังกร ได้ถึงกับ “ฝากรอยจารึก” ว่า “ติง จิ่นเฮ่า ได้มาเที่ยวที่นี่” (丁锦昊到此一游)บนรูปสลักนูนในวิหารลักซอร์ ซึ่งเป็นวิหารแบบหินทราย เก่าแก่กว่า 3,400 ปี ตั้งอยู่ในเมืองลักซอร์แห่งลุ่มน้ำไนล์ นับเป็นวิหารคู่บ้านคู่เมืองของประเทศอียิปต์

ชาวเน็ตจีนผู้มีจิตสำนึกพากันโกรธเกรี้ยว อายแทบแทรกแผ่นดินหนี พร้อมกับได้รวบรวมข้อมูลตามสืบเจ้าของลายมือ จนได้รู้ว่า ติง จิ่นเฮ่า เป็นเด็กนักเรียนอายุ 15 ปี เรียนชั้นมัธยมปีที่สามที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในนครหนันจิง กระแสวิพากษ์วิจารณ์กดดันจนพ่อแม่ของติงออกมาขอโทษผ่านสื่อท้องถิ่น

พ่อของเด็กชายติง แถลงคำขอโทษผ่านสื่อฯ “เมื่อเด็กได้ทำเรื่องที่ผิดพลาดไป ผู้ใหญ่ก็ต้องรับผิดชอบ พวกเราไม่สั่งสอนลูกให้ดีพอ พวกเราและลูกขอโทษต่อเรื่องที่เกิดขึ้น ขอโทษสาธารณชน และขอโทษประเทศอียิปต์ด้วย” พร้อมกับแสดงความหวังว่า สังคมจะเปิดใจกว้างเมตตาเด็ก ไม่กระพือเรื่องราว ซ้ำเติมความผิดพลาด อันจะส่งผลเสียต่อการเรียนและชีวิตของเด็ก

ขณะนี้ รอยขีดเขียนบนเสาสลักนูนในวิหารลักซอร์ ถูกลบออกแล้ว
ข้อความบนภาพเขียนฝาผนังในถ้ำพุทธศิลป์เมืองตุนหวง แปลความได้ว่า “ฤดูร้อน ปี 2000 นักข่าวอาวุโสแห่งหนังสือพิมพ์เหวินฮุ่ยเป้าแห่งฮ่องกง นาย ซ่ง อิ๋น ได้มาเยี่ยมชมที่นี่” ข้างๆข้อความนี้ ยังปรากฎตัวอักษรเล็กๆ เลอะๆเลือนๆ(ภาพ เอเจนซี)
วันเดียวกัน ชาวเน็ตจีนก็ได้โพสต์ข้อความแฉกรณีขีดเขียนอันน่าตกตะลึงที่เกิดเมื่อ 13 ปีที่แล้ว ที่ดูเหมือนถูกเก็บเงียบมาตลอด คือกรณีผู้สื่อข่าวอาวุโสของหนังสือพิมพ์เหวินฮุ่ยเป้าแห่งฮ่องกง (香港文汇报) นาย ซ่ง อิ๋น (宋寅)ผู้ได้ไปเยี่ยมชมถ้ำมั่วเกาในเมืองตุนหวง และเขียนข้อความบนภาพเขียนฝาผนังภาพหนึ่ง ความว่า “ฤดูร้อน ปี 2000 นักข่าวอาวุโสแห่งหนังสือพิมพ์เหวินฮุ่ยเป้าแห่งฮ่องกง นาย ซ่ง อิ๋น ได้มาเยี่ยมชมที่นี่” “二〇〇〇年立夏,香港文汇报高级记者宋寅到此参观考察” ข้างๆข้อความนี้ ยังปรากฎตัวอักษรเล็กๆจำนวนหนึ่ง เลอะๆเลือนๆเหมือนมีคนพยายามลบออก

เมื่อข่าวฯนี้ถูกนำออกมาเผยบนโลกออนไลน์ ในบ่ายวันอาทิย์(26 พ.ค.)ที่ผ่านมา ทางเหวินฮุ่ยเป้าก็ได้โต้ตอบผ่านเว็บบล็อกขององค์กรว่า “ทางเราได้ตรวจสอบแล้ว ขณะนี้ไม่มีบุคคลชื่อซ่ง อิ๋นในองค์กร และหนังสือพิมพ์ก็ขอประณามพฤติกรรมเยี่ยงนี้ด้วยเช่นกัน”

สำหรับถ้ำมั่วเกาแห่งเมืองตุนหวง มีฉายา “ถ้ำพระพุทธรูปพันองค์” เป็นถ้ำพุทธศิลป์ชื่อก้องโลก อยู่ในเมืองตุนหวง มณฑลกันซู่ ถ้ำมั่วเกานี้ เก่าแก่โบราณร่วม 1,700 ปี ประกอบด้วยถ้ำนับพันๆแห่ง เต็มไปด้วยรูปปั้น รูปแกะสลักพระพุทธ ภาพเขียนฝาผนัง ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 1987

เมื่อพ่อแม่ของเด็กชายติงออกมาสารภาพและขอโทษเรื่องที่ลูกชายจอมมือบอนของตนไปขีดเขียนบนเสาสลักนูนวิหารลักซอร์ พร้อมวิงวอนอย่าได้ซ้ำเติมเด็กอีกต่อไป เพราะอาจส่งผลต่อชีวิตเด็ก ชุมชนออนไลน์จีนก็ดูเข้าใจเหตุผลในการอภัยให้แก่ความเป็นเด็กที่ไม่ประสีประสา โดยชาวเน็ตหลายคนแสดงความเห็นว่า “เด็กเสมือนภาพสะท้อนของผู้ใหญ่ พฤติกรรมของเด็กล้วนมาจากอิทธิพลของผู้ใหญ่ ดังนั้น ผู้ใหญ่ควรตระหนักใคร่ครวญเรื่องนี้”

...และผู้นำก็เช่นกัน เพราะ “นี่ไม่ใช่ปัญหาของคนๆหนึ่ง แต่มันได้แสดงถึงคุณภาพของประชาชาติ” ชาวเน็ตจีนผู้หนึ่ง สะท้อนในเว็บบล็อก.
กำลังโหลดความคิดเห็น