xs
xsm
sm
md
lg

ธรรมาภิวัตน์ : พุทธโอสถ ยาดีที่พระพุทธเจ้าประทานให้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ในช่วงการปรับผังรายการของทางสถานีโทรทัศน์ ASTV นั้น ในส่วนของ 2 รายการที่โครงการธรรมาภิวัตน์รับหน้าที่ผลิตคือรายการธรรมาภิวัตน์ และรายการ Body and Mind ก็ได้มีการปรับรูปแบบการนำเสนอเนื้อหาของรายการต่างๆ ที่น่าสนใจและเปลี่ยนไปสู่องค์ความรู้เกี่ยวกับธรรมะและสุขภาพ ให้เจาะลึกและน่ารับชมมากยิ่งขึ้น

รายการธรรมาภิวัตน์ได้เพิ่มช่วงใหม่ ชื่อว่า "ถอดรหัสธรรม" คือการศึกษา ค้นคว้าถึงที่มา ความหมายและการนำไปใช้ของคำ วลี หรือกระทั่งบทสวดในโอกาสต่างๆ โดยพระธรรมวิทยากรผู้ทรงภูมิ จะอรรถาธิบายความของธรรมะให้ได้เข้าใจในรายละเอียดกันมากขึ้น เรียกว่าถอดรหัสในองค์ความรู้ที่สั่งสมมาตั้งแต่ครั้งพุทธกาลกันเลยทีเดียว

ส่วนรายการ Body and Mind นั้น อันที่จริงเป็นรายการสุขภาพ ซึ่งมุ่งเน้นการมีสุขภาพดีและแข็งแรงทั้งกายและใจ คล้ายกับคอนเซปต์ของ ธรรมลีลา ชีวิตดี สุขภาพดี นี่แหละครับ

ผู้เขียนในฐานะผู้อำนวยการโครงการธรรมาภิวัตน์และอำนวยการผลิต ก็ได้หารือกับทีมงานซึ่งเราได้ข้อสรุปกันมาว่า การนำศาสตร์แห่งพุทธะมาใช้ในการดูแล แก้ไข บรรเทาโรคภัยให้กับตนเองและคนรอบข้าง เพื่อนำไปสู่การมีสุขภาพกายและใจที่ดี ก็เป็นประเด็นที่น่าหยิบยกขึ้นมานำเสนอ

เราตั้งชื่อช่วงนี้ว่า "พุทธโอสถ" ครับ

คุณคิดเหมือนผมไหมครับว่า แม้โลกเราทุกวันนี้ จะมีวิทยาการรุดหน้าไปเพียงใดก็ตาม ศาสตร์แห่งการรักษาก็มีหลากหลายแขนง ทั้งแผนฝรั่ง แผนไทย แผนจีน ฯลฯ และได้พัฒนาวิทยาการแห่งการรักษาโรคภัยให้รุดหน้าไปทุกวันๆ แต่ในทางคู่ขนานก็ดูเหมือนว่าโรคภัยไข้เจ็บนั้น พัฒนาตัวมันเองไปเร็วกว่ามนุษย์ก้าวหนึ่งเสมอ เราจึงมักพบเห็นคนเจ็บไข้ได้ป่วยกันอยู่ทั่วไป ด้วยอาการและโรคแปลกๆ ใหม่อยู่ตลอดเวลา

ขณะเดียวกันก็ยังมีโรคภัยอีกจำนวนไม่น้อย ที่ไม่สามารถจะรักษาด้วยวิธีสมัยใหม่ ไม่ว่าจะใช้วิธีการรักษาด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ การรับประทานยา หรือการใช้สารเคมีใดๆ ล้วนไร้ผล จนหมอก็เอือม ญาติก็ระอา ส่วนผู้ป่วยก็ไม่ต้องพูดถึงครับ แค่คิดว่าจะมีชีวิตอยู่รอดถึงพรุ่งนี้ได้หรือไม่นั้น ก็ถอดใจไปเกินครึ่งแล้ว

ถ้าเป็นภาษาแบบพุทธะก็ต้องบอกว่า "มันเป็นทุกข์อย่างแสนสาหัส"

เมื่อมีทุกข์อันเกิดกับร่างกายและจิตใจเราแล้ว ตามหลักอริยสัจ 4 ในการบำบัดทุกข์ ต้องเริ่มด้วยการเข้าถึง เข้าใจในสมุทัยหรือเหตุแห่งทุกข์กันก่อน ว่าทุกข์ดังกล่าวนั้น เกิดจากอะไร วิภวะตัณหาในใจเราเป็นอย่างไร เกิดขึ้นแล้วส่งผลอย่างไรบ้าง มีปัจจัยอะไรมาเป็นตัวเสริมเติมแต่งทุกข์เหล่านั้นให้มันเพิ่มปริมาณมากขึ้นในใจเราบ้าง เมื่อรู้และเข้าใจในทุกข์จะได้นำไปสู่นิโรธ คือความดับทุกข์

และหากเราได้พิจารณาเห็นถึงเหตุแห่งทั้งหมดทั้งมวลของความทุกข์นั้นแล้ว ณ เวลานั้นเราจะประจักษ์เห็นทางออก หรือเห็นทางแห่งการดับทุกข์ คือ มรรค ได้ในลำดับต่อไป

นี่คือส่วนหนึ่งของพุทธโอสถชั้นดี ที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทานมาให้เหล่าพุทธศาสนิกชนมาเป็นเวลาช้านาน และระยะหลังก็ได้รับการยอมรับจากวงการแพทย์แผนตะวันตก ซึ่งได้ประยุกต์ใช้ศาตร์แห่งพุทธะเข้าไปประกอบในการรักษาด้วย

หากฉายออกมาเป็นภาพกว้างๆ ในภาษาทางการแพทย์คือการบำบัด บรรเทา ขัดเกลาจิตใจ เพื่อนำไปสู่ความแข็งแรง ร่างกายฟื้นตัวได้ไว โดยมีศาสตร์และกระบวนการอื่นๆร่วมด้วย อันจะนำไปสู่การรักษา บำบัด บรรเทาโรคภัยด้วยตนเอง หรืออย่างเร็วที่สุดก็คือการป้องกันมิให้เกิดโรค หรือทุกข์ดังกล่าว

"สมาธิบำบัด" ก็เป็นศาสตร์อีกแขนงที่ได้รับการยอมรับและปฏิบัติกันไปทั่ว เป็นการทำสมาธิที่สามารถบำบัดโรคที่เกิดจากความเครียด ความกังวล แม้ไม่ใช่โรคที่เกิดจากเชื้อโรคโดยตรง แต่สามารถบำบัดรักษาจิตใจที่เป็นทุกข์อันเกิดจากโรคภัย

ในปัจจุบัน การนั่งสมาธิเกิดขึ้นในหลายวัฒนธรรมทั่วโลก โดยที่ไม่ได้มีแต่เพียงมิติของศาสนาเท่านั้น

ไม่เพียงแต่เรื่องการบริหารจิตและเจริญปัญญาสมาธิ แต่หากใครจำได้ ทางรายการ Body and Mind ก็ได้นำเสนอเรื่องการดื่มน้ำปัสสาวะ ของคุณนิดดา หงษ์วิวัฒน์ นักธรรมชาติบำบัดไปแล้วว่า มีมาตั้งแต่ในสมัยพุทธกาล

องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้บัญญัติไว้ในพระธรรมวินัย ให้เป็นแนวทางยังชีพของพระสงฆ์ เรียกว่า นิสัย 4 คือ

1. ต้องนุ่งห่มด้วยผ้า 3 ชิ้น นำมาจากผ้าห่อศพ ผ้าบังสุกุล เป็นผ้าที่ไม่มีราคานำมาทำความสะอาด ตัดเย็บอย่างง่ายๆ ไม่มีราคา ตัดปัญหาเรื่องถูกลักขโมย

2. อาศัยอยู่โคนต้นไม้ ได้รับอากาศบริสุทธิ์

3. ฉันอาหารที่ได้จากการบิณฑบาตเท่านั้น การเดินเท้าเปล่าในยามเช้าได้รับแสงแดดและเป็นการนวดเท้าไปในตัว

4. ฉันน้ำมูต (น้ำปัสสาวะ) เมื่ออาพาธ เจ็บป่วย

หลายท่านที่ทดลองทำแล้ว ต่างระบุตรงกันว่าได้ผลดี มีการอ้างอิงผลงานวิจัยจากต่างประเทศมากมาย มีการประชุมระดับโลกมาแล้วหลายครั้ง

เหล่านี้คือตัวอย่างส่วนหนึ่งขององค์ความรู้เรื่องพุทธโอสถ ที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ประทานมาให้ และตอกย้ำด้วยผลการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งได้รับการยอมรับแล้วว่าได้ผลจริง

ท้ายที่สุดที่อยากเรียนให้ทราบคือ พลังแห่งพุทธโอสถนั้นเป็นศาสตร์ที่น่าสนใจและเหมาะกับการนำไปรักษาควบคู่กับวิทยาการแพทย์แผนอื่นๆ ซึ่งทางรายการ Body and Mind ก็ได้นำเสนอกันครบทุกแขนงการแพทย์เลยล่ะครับ ส่วนรายละเอียดนั้น คุณผู้อ่านสามารถติดตามได้ทุกเช้าวันเสาร์และอาทิตย์ เวลา 08.30-09.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ ASTV ช่อง News1 ครับ

แล้วพบกันที่หน้าจอนะครับ

โครงการธรรมาภิวัตน์ สถานีโทรทัศน์ ASTV

ขอเรียนเชิญร่วมเดินทางไปแสวงบุญ เนื่องในวโรกาสพุทธชยันตี 2,600 ปีแห่งการตรัสรู้ ณ สังเวชนียสถาน 4 ตำบล สถานที่ประสูติ-ตรัสรู้-ปฐมเทศนา-ปรินิพพาน โดยมีพระธรรมวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิสายพุทธภูมิ เป็นผู้บรรยายพุทธประวัติ นำสวดมนต์ภาวนา และปฏิบัติธรรมตลอดเส้นทาง และพระอาจารย์ชัยณรงค์ อุปสโม สำนักสงฆ์เขมาภิรโต จ.ราชบุรี ได้เมตตาร่วมนำภาวนาจิต ปฏิบัติธรรม ณ สังเวชนียสถาน 4 ตำบล ทั้ง 2 คณะ

คณะที่ 1 เดินทางวันที่ 25 พฤศจิกายน 2555 – 2 ธันวาคม 2555
คณะที่ 2 เดินทางวันที่ 29 ธันวาคม 2555 – 8 มกราคม 2556

* รายการพิเศษเพิ่มเติมสำหรับคณะที่ 2
เที่ยวชม ถ้ำอชันต้า อายุกว่า 2,000 ปี และกลุ่มถ้ำวิหารเอลโลร่า 34 ถ้ำ

สอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่ง ได้ที่
โครงการธรรมาภิวัตน์ สถานีโทรทัศน์ ASTVโทร. 0-2629-2211 ต่อ 2421, 2423, 2493มือถือ 08-0810-4104


(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 142 ตุลาคม 2555 โดย กานต์ จอมอินตา ผู้อำนวยการโครงการธรรมาภิวัตน์ สถานีโทรทัศน์ ASTV)
กำลังโหลดความคิดเห็น