xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านหน้าถ้ำยะลาร้องกรมศิลป์มีบุคคลปริศนาสั่งปูกระเบื้องในถ้ำทำลายโบราณสถาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ยะลา - ชาวบ้านหน้าถ้ำ อ.เมืองยะลา ร้องกรมศิลป์ หลังมีบุคคลดำเนินการปูกระเบื้องภายในถ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำลายโบราณสถานอายุกว่า 1,300 ปี สอบถามจากชาวบ้านบุคคลดังกล่าวไปนั่งสมาธิในถ้ำแล้วถูกหวยหลายสิบล้าน ประสงค์ดีที่จะปรับปรุงพื้นที่ใหม่ให้แต่ไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ใด จึงสร้างความไม่พอใจให้แก่ชาวบ้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านในพื้นที่ ต.หน้าถ้ำ อ.เมือง จ.ยะลา ได้ร้องเรียนต่อสื่อมวลชนว่า ได้มีบุคคลนำกระเบื้องมาปูพื้นภายในถ้ำซึ่งมีพระพุทธไสยาสน์ อายุกว่า 1,300 ปี ประดิษฐานอยู่ภายในวัดถ้ำคูหาภิมุข หรือวัดถ้ำ หมู่ 1 บ้านหน้าถ้ำ ต.หน้าถ้ำ อ.เมือง จ.ยะลา ซึ่งวัดดังกล่าวได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของกรมศิลปากรแล้ว ซึ่งการนำกระเบื้องมาปูพื้นถ้ำดังกล่าว ไม่ได้รับอนุญาตจากกรมศิลปากร รวมทั้งเป็นการทำลายโบราณสถานที่มีอายุเก่าแก่

โดยความคืบหน้าล่าสุด วันนี้(27 ก.ย.) ที่วัดคูหาภิมุข (พุทธไสยานุสรณ์) ต.หน้าถ้ำ อ.เมือง จ.ยะลา นายฉลาด แก้วพูล นายช่างศิลปกรรมชำนาญงาน สำนักศิลปากรที่ 13 จ.สงขลา และนายชัชพงศ์ เพชรกล้า นายก อบต.หน้าถ้ำ พร้อมคณะ ได้เดินทางมาตรวจสอบกรณีดังกล่าว ซึ่งพบว่าได้มีการปูพื้นกระเบื้องสีฟ้าภายในถ้ำจริง เป็นพื้นที่กว่า 50 เปอร์เซ็นต์

 
นายชัชพงศ์ เพชรกล้า นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหน้าถ้ำ กล่าวว่า ตอนที่ตนไปเห็นนั้น ทางผู้ดำเนินการซ่อมแซมไปมากแล้ว โดยผู้ซ่อมแซมได้ปูกระเบื้องสีฟ้าทั้งหมดในส่วนที่เป็นพื้นดิน และส่วนที่เป็นปูนขัดมันก็มีการปูทับอีกครั้งหนึ่งแต่ไม่ได้ปูทับของเก่าที่ทางกรมศิลป์ได้บูรณะไว้ ซึ่งการดำเนินการจริงๆ แล้วการจะเข้าไปต่อเติมจะต้องแจ้งกรมศิลปากรก่อน เนื่องจากว่าวัดถ้ำเป็นโบราณสถานที่ได้จดทะเบียน และขึ้นทะเบียนไว้กับกรมศิลปากรแล้ว ใครที่จะไปต่อเติม ซ่อมแซม ต้องได้รับอนุญาตจากกรมศิลปากรก่อน อย่างน้อยจะต้องแจ้ง อบต.ก่อน เพื่อทาง อบต.จะได้ประสานไปยังกรมศิลปากร ให้ส่งเจ้าหน้าที่ลงมาดูสเปกของวัสดุที่จะต่อเติม

ซึ่งจริงๆ แล้ว ทางกรมศิลปากรไม่ได้มีกฎเกณฑ์ว่าไปต่อเติมซ่อมแซมไม่ได้ แต่จะต้องมีการตรวจสอบว่าตรงไหนต่อเติมได้ หรือไม่ได้ รวมทั้งจะต้องมีการตรวจสอบวัสดุที่จะนำมาใช้ เนื่องจากวัสดุบางอย่างใช้การไม่ได้ มันจะไปปิดกั้นความชื้น ซึ่งถ้าไปปิดกั้นความชื้นแล้ว ความชื้นก็จะไปขึ้นที่องค์พระพุทธรูป ทำให้พระพุทธรูปผุกร่อน

นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหน้าถ้ำ กล่าวว่า ชาวบ้าน ต.หน้าถ้ำ โดยส่วนใหญ่จะรู้กันไม่มากนัก แต่จะมีเฉพาะบางกลุ่ม เช่น กลุ่มวัฒนธรรมสายใยชุมชนซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่ที่อนุรักษ์วัตถุ ศิลปะโบราณ ไม่เห็นด้วย และไม่ยอมรับให้ก่อสร้างต่อ สำหรับเหตุการณ์นี้เพิ่งจะเกิด และเป็นกระแสมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว โดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่าชาวบ้านไม่ยอมแน่นอน

สำหรับการดำเนินการของ อบต.นั้น ขณะนี้ อบต.หน้าถ้ำได้แจ้งให้ทางกรมศิลปากรทราบแล้ว ซึ่งทางกรมศิลป์ได้ให้ทาง อบต.ประสานไปยังผู้ดำเนินการให้หยุดต่อเติมก่อน แล้วจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบว่าตรงจุดไหนที่ใช้ได้ และใช้ไม่ได้ ขณะนี้ผู้ดำเนินการได้หยุดการต่อเติมแล้ว

 
ด้านนายฉลาด แก้วพูล นายช่างศิลปกรรมชำนาญงาน สำนักศิลปากรที่ 13 จ.สงขลา กล่าวว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้นก็พบว่า มีการปูกระเบื้องโดยไม่ได้แจ้งให้ทางกรมศิลป์ทราบแต่อย่างใด ซึ่งจริงๆ แล้วทางกรมศิลป์ก็ไม่ได้ห้ามให้เอกชน หรือบุคคลในการต่อเติม หรือบูรณะโบราณสถาน แต่สมควรที่จะมาแจ้ง และขออนุญาตทางกรมศิลป์ เพื่อที่จะได้ให้คำแนะนำว่าจะสามารถดำเนินการอะไรได้บ้าง อะไรที่ไม่สมควรทำ ในส่วนของวัดถ้ำแห่งนี้ เมื่อมีการปูกระเบื้องเช่นนี้แล้ว ผลกระทบหลักๆ ก็คือ กระเบื้องเหล่านี้จะไปทำให้ความชื้นภายในถ้ำลดน้อยลง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อองค์พระ ซึ่งเป็นดินเหนียวในอนาคตอย่างแน่นอน

นายฉลาด แก้วพูล กล่าวเพิ่มเติมว่า ในเบื้องต้นก็จะดูว่าจะดำเนินการแก้ไขอะไรได้บ้าง โดยคาดว่าอาจจะดำเนินการสองแนวทาง คือ รื้อทิ้งออกทั้งหมด หรือรื้อทิ้งบางส่วน รวมทั้งเปลี่ยนสีกระเบื้อง เพราะว่ากระเบื้องสีฟ้าทำให้แสงสะท้อนภายในถ้ำเปลี่ยนไป ส่งผลต่อความสวยงามของพระพุทธรูปโบราณภายในถ้ำ แต่อย่างไรก็ตาม ก็จะต้องให้ช่างผู้ชำนาญตรวจสอบดูอีกครั้งว่าจะดำเนินการแก้ไขอย่างไรต่อไป

 
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นจากการสอบถามชาวบ้านก็ทราบว่า เหตุเกิดจากมีหนุ่มใหญ่นายหนึ่ง (ขอสงวนชื่อ นามสกุล) ซึ่งประกอบอาชีพค้าขายอยู่ในจังหวัดยะลา และได้เดินทางเข้าไปปฏิบัติธรรมที่วัดคูหาภิมุข อ.เมืองยะลา เป็นประจำ โดยจะไปจุดธูป จุดเทียนหน้าพระนอนองค์ใหญ่ และหน้าพระทุกองค์ที่อยู่ภายในบริเวณถ้ำ ก่อนที่จะนั่งสวดมนต์ภาวนา และทำสมาธิกว่าครึ่งชั่วโมงเป็นประจำทุกครั้งที่เดินทางมายังวัดถ้ำ ซึ่งทำมานานกว่า 1 เดือน จนล่าสุด ทราบว่าหนุ่มใหญ่นายนี้ได้รับโชคลาภจากการถูกหวยเป็นจำนวนเงินหลายสิบล้านบาท จึงมีวัตถุประสงค์ดีที่จะปรับปรุงพื้นที่บริเวณโดยรอบภายในถ้ำ โดยได้ให้ช่างมาปูกระเบื้องโดยไม่รับขออนุญาตจากผู้ใดจนเกิดปัญหาสร้างความไม่พอใจให้แก่ชาวบ้านในบริเวณดังกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น