กลุ่มพระต่างแคว้น คือ กลุ่มพระที่ออกบวชต่างแคว้นละ ๑ รูป (เฉพาะที่เป็นพระอสีติมหาสาวก) มี ๖ รูป คือ พระพาหิยะ พระปุณณะ พระทัพพะ พระรัฐบาล พระโสณโกฬิวิสะ พระมหากัปปินะ แต่ละรูปมีประวัติที่น่าศึกษาดังนี้
การบรรลุธรรม (ต่อ)
พระรัฐบาล บวชแล้ว ๑๒ ปี จึงได้บรรลุอรหัตผล การที่ท่านได้บรรลุอรหัตผลช้า เป็นเพราะมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับทางบ้าน เนื่องจากท่านออกบวชโดยที่บิดามารดาไม่เต็มใจ ท่านครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ตลอดเวลา ทำให้จิตใจไม่สงบ จนมาถึงปีที่ ๑๒ นั้นเอง ท่านจึงสามารถข่มใจให้สงบได้ จนบรรลุอรหัตผลในที่สุด
พระโสณโกฬิวิสะ ครั้นบวชแล้วก็ไปบำเพ็ญสมณธรรมอยู่ในป่าสีตวัน เขตเมืองราชคฤห์นั้นเอง ท่านรู้ตัวดีว่าท่านเป็นคนละเอียดอ่อน ความสุขจะไม่ทำให้บรรลุมรรคผลได้ จึงบำเพ็ญสมณธรรมด้วยวิธีทรมานตนเองให้ลำบาก ท่านปฏิบัติตามที่คิด คือ เบื้องแรกเดินจงกลมอย่างหนักบนพื้นดินขรุขระจนเท้าแตกเลือดไหล ต่อมาเมื่อเดินด้วยเท้าไม่ไหวจึงใช้เข่าเดินและใช้มือยัน จนในที่สุดทั้งเข่าและมือก็แตกอีก แต่กระนั้นก็ยังมิได้มรรคผลอันใด
ท่านเริ่มน้อยใจว่าบรรดาสาวกของพระพุทธเจ้าที่บำเพ็ญเพียรอย่างหนักนั้น ท่านก็เป็นรูปหนึ่ง แต่ไฉนจึงไม่ได้บรรลุมรรคผลอย่างที่หวัง พระพุทธเจ้าทรงทราบถึงความคิดของท่าน จึงเสด็จมาตรัสสอน พระองค์ทรงทราบดีว่าท่านมีความชำนาญในการดีดพิณมาก่อน จึงทรงชวนสนทนาเรื่องการดีดพิณเปรียบเทียบกับการบำเพ็ญเพียรดังนี้
พระพุทธเจ้า : โสณะ สายพิณที่ขึงตึงจนเกินไป เวลาดีดเสียงพิณจะดังเพราะหรือไม่
พระโสณะ : ไม่เพราะ พระเจ้าข้า
พระพุทธเจ้า : โสณะ สายพิณที่ขึงหย่อนเกินไป เวลาดีดจะดังเพราะหรือไม่
พระโสณะ : ไม่เพราะ พระเจ้าข้า
พระพุทธเจ้า : โสณะ สายพิณที่ขึงได้ระดับพอดี ไม่ตึงหรือหย่อนเกินไป เวลาดีดจะดังเพราะหรือไม่
พระโสณะ : เพราะ พระเจ้าข้า
พระพุทธเจ้า : เช่นเดียวกันโสณะ การบำเพ็ญเพียรก็เหมือนการขึงสายพิณ ถ้ามีความเพียรแรงกล้าเกินไป จิตก็ฟุ้งซ่าน ถ้ามีความเพียรหย่อนเกินไป จิตก็เกียจคร้าน เพราะฉะนั้น เธอจงบำเพ็ญเพียรให้พอดี ปรับอินทรีย์ คือ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา ให้เสมอกันเถิด
ครั้นได้รับการแนะแนวปฏิบัติจากพระพุทธเจ้าแล้ว พระโสณโกฬิวิสะก็บำเพ็ญเพียรแต่พอดี คือไม่ตึงเกินไปหรือหย่อนเกินไป ท่านสามารถปรับอินทรีย์ให้เสมอกันได้ ไม่นานจากนั้นก็ได้บรรลุอรหัตผลในป่าสีตวันนั้นเอง
พระมหากัปปินะ ได้บรรลุโสดาปัตติผลก่อนทูลขอบวช และหลังจากบวช ท่านพร้อมด้วยพระบริวารได้ฟังอนุปุพพิกถาและอริยสัจ ๔ อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่พระนางอโนชาเทวีนั้นและหญิงบริวารแล้ว ได้บรรลุอรหัตผลในวันบวชนั้นเอง
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 142 ตุลาคม 2555 โดย ผศ.ร.ท.ดร.บรรจบ บรรณรุจิ)