• กลัวผี
ปุจฉา : อยากนั่งหลับตาทำสมาธิ แต่กลัวผี จะทำอย่างไร และวิธีการนั่งสมาธิสำหรับผู้เริ่มปฏิบัติต้องทำอย่างไร
วิสัชนา : อยากถามกลับไปว่า ผีมันมาตอนหลับตาเหรอ ผีที่มันมาตอนหลับตา มันยังไม่น่ากลัวเท่าผีที่มันมาตอนลืมตานะลูก เพราะผีที่ลืมตาแล้ว หลอกเราได้เนี่ย มันเสียหายแม้แต่ชีวิต เสียพรหมจรรย์ เสียตัว เสียความรู้สึกนึกคิด เสียจิตวิญญาณ เสียสมดุล เสียการดำรงชีวิตอย่างเป็นเอกภาพ สุดท้ายก็ต้องตกเป็นทาส เป็นหนี้ ตกเป็นเรื่องเป็นราว มีปัญหามากมาย ผีตัวนี้น่ากลัวกว่า
เพราะฉะนั้น อย่าคิดว่าการนั่งหลับตาเป็นคนดี ถ้าการนั่งหลับตาเป็นคนดี และทำให้เป็นคนดีได้ อย่างที่หลวงปู่เคยเขียนบทโศลกสอนลูกหลานไว้ว่า
“ลูกรัก..ถ้าเจ้าคิดว่า การหลับตาจะทำให้เจ้าได้ดี พ่อว่าเด็กที่อยู่ในท้องแม่ดีกว่าเจ้า เพราะว่ามันยิ่งกว่าหลับตาอีก มันไม่เห็นภาพอะไรเลย อยู่แต่ในท้องแม่ ซึ่งก็ไม่เห็นมันเป็นอรหันต์”
เพราะฉะนั้นการหลับตาไม่ใช่การทำให้เป็นคนดี คนจะดีหรือไม่ดี มันอยู่ที่ขณะที่มีชีวิตอยู่แล้วทำอะไร ตรงนั้นต่างหากคือคนดี
ถ้าทำเรื่องอัปรีย์ก็เป็นคนไม่ดี กลายเป็นคนอัปรีย์ไป แต่ทำเรื่องดี เช่น สร้างสิ่งที่เป็นกุศล เป็นสาระให้แก่ชีวิต ก็เป็นคนไม่ดีในสายตาชาวบ้าน เพราะฉะนั้น อย่าไปทุ่มเทให้กับการนั่งหลับตา จนกลายเป็นว่า เราจะลืมสถานภาพของการดำรงชีวิต ให้เข้าสู่เป้าหมายของสารธรรม ดำรงเที่ยงแท้แน่นอน และก็ด้วยตัวของตัวเองได้
อยากจะบอกในที่นี้ว่า อย่าเข้าใจว่าการนั่งหลับตา แล้วมันจะทำให้ผีหลอกเราได้ ลืมตาก็หลอกได้เหมือนกัน และก็คนที่น่ากลัวที่สุดคือตัวเราเองที่ไม่เข้าใจตัวเอง
ผีที่น่ากลัวที่สุดคือตัวเราเองที่ไม่ยอมรับตัวเราเอง และผีที่เลวร้ายที่สุดคือสิ่งที่แฝงอยู่ในกมลสันดานและจิตวิญญาณของตัวเราเอง โดยไม่ใส่ใจว่าตัวเองจะทำถูกหรือผิด ทำดีหรือชั่ว นั่นแหละคือผีที่น่ากลัว
• นั่งสมาธิ แผ่เมตตา
ปุจฉา : การนั่งสมาธิช่วง 2-3 นาที แล้วแผ่เมตตา สรรพสัตว์ทั้งหลายจะได้รับหรือไม่เจ้าคะ
วิสัชนา : เอาเป็นว่าจะนั่งหรือไม่นั่ง ก็ขอให้คุณตั้งจิตแผ่เมตตาแก่สัตว์ทั้งหลายให้ได้ทุกวัน อย่างน้อยๆก็เป็น การสร้างไมตรีแก่สรรพสัตว์ทั้งปวง จิตใจ ใบหน้า แววตา ปัญญาคุณก็จะแจ่มใส เป็นที่รักของเทวดา มนุษย์ และสัตว์ทั้งหลาย
• สามีป่วย
ปุจฉา : สามีของดิฉันป่วยเป็นโรคหัวใจ แต่ได้รับการผ่าตัดแล้ว ดิฉันได้ใส่บาตรทุกวัน จะช่วยลบล้างกันได้ไหม
วิสัชนา : ฉันมองไม่เห็นว่ามันเกี่ยวกันยังไง สามีคุณป่วย แต่คุณใส่บาตร ดูเหมือนว่าคุณจักพยายามกิน ดื่ม ถ่าย นอน แทนสามีคุณ ถ้าทำแทนกันได้จริงๆก็ดีซิ แต่ข้อเท็จจริงมันไม่ได้ เว้นแต่ ว่าคุณบอกให้เขารู้ แล้วเขาก็มีส่วนร่วม จะด้วยทรัพย์ หรือด้วยช่วยกระทำ แม้แต่ยินดีอนุโมทนา ก็น่าจะได้ผล
แต่ถ้าจะให้ไปลบล้างต่อกรรมใดๆนั้น อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสามีคุณมีเจ้าหนี้หรือเจ้าของกรรม ว่าจะใจอ่อนยกโทษให้หรือไม่ ฉันไม่สามารถตอบแทนเขาได้ แต่ก็ขอให้คุณ และสามีคุณ เพียรพยายามทำดี พูดดี คิดดี ที่คุณคิดว่าเป็นวิธีขอขมาให้เจ้ากรรมนาย เวรเขาได้รับรู้แล้วอโหสิกรรม เช่นนี้ก็ดูว่าอาจได้ผลบ้าง อย่างน้อยๆก็ดีกว่าอยู่เปล่าๆ
• เจ้านายไม่จริงใจ
ปุจฉา : กราบนมัสการพระพุทธะอิสระที่ประเสริฐ ลูกสังเกตตนเองว่า เดิมเป็นผู้ที่ทำงานอย่างสนุกสนาน เพราะมีความรักให้กับงาน ให้แก่เพื่อนมนุษย์ ต่อมาพบกับสภาวะของนายที่ไม่มีความจริง ใจให้กับลูกน้อง มีแต่เอาเปรียบ รักแต่ตนเองมากๆ จึงทำให้ตัวลูกเองสงสารคนอื่น แต่เกิดความท้อแท้หมดกำลังใจ แต่ต่อมาก็พยายามบอกว่าเป็นเรื่องของเขา เราจะต้องเอาชนะตนเองให้ได้ สู้กับความท้อแท้ เพราะว่าความท้อแท้ทำให้สมองที่เคยปลอดโปร่งหดหายไปสิ้น ลูกจึงขอความเมตตาจากหลวงปู่ ชี้แนะให้ลูกได้พบกับการชนะตนเองในเรื่องนี้ด้วยค่ะ
วิสัชนา : จงสร้างศรัทธาในสิ่งที่คุณทำได้ และมีในตัวคุณ พร้อมด้วยความเพียรพยายาม ทำในสิ่งที่คุณเชื่อให้ลุล่วงแล้วเสร็จ ด้วยการใช้สติปัญญาพิจารณาเรื่องที่คุณทำ พูด คิด เสร็จแล้วก็ตั้งมั่นอยู่ในความสงบ อย่าปล่อยให้อะไรๆมาสยบคุณเสียก่อน
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 128 กรกฎาคม 2554 โดย หลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม)
ปุจฉา : อยากนั่งหลับตาทำสมาธิ แต่กลัวผี จะทำอย่างไร และวิธีการนั่งสมาธิสำหรับผู้เริ่มปฏิบัติต้องทำอย่างไร
วิสัชนา : อยากถามกลับไปว่า ผีมันมาตอนหลับตาเหรอ ผีที่มันมาตอนหลับตา มันยังไม่น่ากลัวเท่าผีที่มันมาตอนลืมตานะลูก เพราะผีที่ลืมตาแล้ว หลอกเราได้เนี่ย มันเสียหายแม้แต่ชีวิต เสียพรหมจรรย์ เสียตัว เสียความรู้สึกนึกคิด เสียจิตวิญญาณ เสียสมดุล เสียการดำรงชีวิตอย่างเป็นเอกภาพ สุดท้ายก็ต้องตกเป็นทาส เป็นหนี้ ตกเป็นเรื่องเป็นราว มีปัญหามากมาย ผีตัวนี้น่ากลัวกว่า
เพราะฉะนั้น อย่าคิดว่าการนั่งหลับตาเป็นคนดี ถ้าการนั่งหลับตาเป็นคนดี และทำให้เป็นคนดีได้ อย่างที่หลวงปู่เคยเขียนบทโศลกสอนลูกหลานไว้ว่า
“ลูกรัก..ถ้าเจ้าคิดว่า การหลับตาจะทำให้เจ้าได้ดี พ่อว่าเด็กที่อยู่ในท้องแม่ดีกว่าเจ้า เพราะว่ามันยิ่งกว่าหลับตาอีก มันไม่เห็นภาพอะไรเลย อยู่แต่ในท้องแม่ ซึ่งก็ไม่เห็นมันเป็นอรหันต์”
เพราะฉะนั้นการหลับตาไม่ใช่การทำให้เป็นคนดี คนจะดีหรือไม่ดี มันอยู่ที่ขณะที่มีชีวิตอยู่แล้วทำอะไร ตรงนั้นต่างหากคือคนดี
ถ้าทำเรื่องอัปรีย์ก็เป็นคนไม่ดี กลายเป็นคนอัปรีย์ไป แต่ทำเรื่องดี เช่น สร้างสิ่งที่เป็นกุศล เป็นสาระให้แก่ชีวิต ก็เป็นคนไม่ดีในสายตาชาวบ้าน เพราะฉะนั้น อย่าไปทุ่มเทให้กับการนั่งหลับตา จนกลายเป็นว่า เราจะลืมสถานภาพของการดำรงชีวิต ให้เข้าสู่เป้าหมายของสารธรรม ดำรงเที่ยงแท้แน่นอน และก็ด้วยตัวของตัวเองได้
อยากจะบอกในที่นี้ว่า อย่าเข้าใจว่าการนั่งหลับตา แล้วมันจะทำให้ผีหลอกเราได้ ลืมตาก็หลอกได้เหมือนกัน และก็คนที่น่ากลัวที่สุดคือตัวเราเองที่ไม่เข้าใจตัวเอง
ผีที่น่ากลัวที่สุดคือตัวเราเองที่ไม่ยอมรับตัวเราเอง และผีที่เลวร้ายที่สุดคือสิ่งที่แฝงอยู่ในกมลสันดานและจิตวิญญาณของตัวเราเอง โดยไม่ใส่ใจว่าตัวเองจะทำถูกหรือผิด ทำดีหรือชั่ว นั่นแหละคือผีที่น่ากลัว
• นั่งสมาธิ แผ่เมตตา
ปุจฉา : การนั่งสมาธิช่วง 2-3 นาที แล้วแผ่เมตตา สรรพสัตว์ทั้งหลายจะได้รับหรือไม่เจ้าคะ
วิสัชนา : เอาเป็นว่าจะนั่งหรือไม่นั่ง ก็ขอให้คุณตั้งจิตแผ่เมตตาแก่สัตว์ทั้งหลายให้ได้ทุกวัน อย่างน้อยๆก็เป็น การสร้างไมตรีแก่สรรพสัตว์ทั้งปวง จิตใจ ใบหน้า แววตา ปัญญาคุณก็จะแจ่มใส เป็นที่รักของเทวดา มนุษย์ และสัตว์ทั้งหลาย
• สามีป่วย
ปุจฉา : สามีของดิฉันป่วยเป็นโรคหัวใจ แต่ได้รับการผ่าตัดแล้ว ดิฉันได้ใส่บาตรทุกวัน จะช่วยลบล้างกันได้ไหม
วิสัชนา : ฉันมองไม่เห็นว่ามันเกี่ยวกันยังไง สามีคุณป่วย แต่คุณใส่บาตร ดูเหมือนว่าคุณจักพยายามกิน ดื่ม ถ่าย นอน แทนสามีคุณ ถ้าทำแทนกันได้จริงๆก็ดีซิ แต่ข้อเท็จจริงมันไม่ได้ เว้นแต่ ว่าคุณบอกให้เขารู้ แล้วเขาก็มีส่วนร่วม จะด้วยทรัพย์ หรือด้วยช่วยกระทำ แม้แต่ยินดีอนุโมทนา ก็น่าจะได้ผล
แต่ถ้าจะให้ไปลบล้างต่อกรรมใดๆนั้น อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสามีคุณมีเจ้าหนี้หรือเจ้าของกรรม ว่าจะใจอ่อนยกโทษให้หรือไม่ ฉันไม่สามารถตอบแทนเขาได้ แต่ก็ขอให้คุณ และสามีคุณ เพียรพยายามทำดี พูดดี คิดดี ที่คุณคิดว่าเป็นวิธีขอขมาให้เจ้ากรรมนาย เวรเขาได้รับรู้แล้วอโหสิกรรม เช่นนี้ก็ดูว่าอาจได้ผลบ้าง อย่างน้อยๆก็ดีกว่าอยู่เปล่าๆ
• เจ้านายไม่จริงใจ
ปุจฉา : กราบนมัสการพระพุทธะอิสระที่ประเสริฐ ลูกสังเกตตนเองว่า เดิมเป็นผู้ที่ทำงานอย่างสนุกสนาน เพราะมีความรักให้กับงาน ให้แก่เพื่อนมนุษย์ ต่อมาพบกับสภาวะของนายที่ไม่มีความจริง ใจให้กับลูกน้อง มีแต่เอาเปรียบ รักแต่ตนเองมากๆ จึงทำให้ตัวลูกเองสงสารคนอื่น แต่เกิดความท้อแท้หมดกำลังใจ แต่ต่อมาก็พยายามบอกว่าเป็นเรื่องของเขา เราจะต้องเอาชนะตนเองให้ได้ สู้กับความท้อแท้ เพราะว่าความท้อแท้ทำให้สมองที่เคยปลอดโปร่งหดหายไปสิ้น ลูกจึงขอความเมตตาจากหลวงปู่ ชี้แนะให้ลูกได้พบกับการชนะตนเองในเรื่องนี้ด้วยค่ะ
วิสัชนา : จงสร้างศรัทธาในสิ่งที่คุณทำได้ และมีในตัวคุณ พร้อมด้วยความเพียรพยายาม ทำในสิ่งที่คุณเชื่อให้ลุล่วงแล้วเสร็จ ด้วยการใช้สติปัญญาพิจารณาเรื่องที่คุณทำ พูด คิด เสร็จแล้วก็ตั้งมั่นอยู่ในความสงบ อย่าปล่อยให้อะไรๆมาสยบคุณเสียก่อน
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 128 กรกฎาคม 2554 โดย หลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม)
