สงสัยเรื่องศีล
ปุจฉา : นมัสการเรียนถามหลวงปู่พุทธะอิสระ คือดิฉันมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องศีล เพราะเวลาไปทำบุญที่วัด หรือไปงานบุญที่มีพระมาสวด พระก็ จะให้ศีล 5 ข้อ ซึ่งดิฉันเห็นว่าส่วนใหญ่ทุกคนก็จะท่องตามกันทั้ง 5 ข้อ เป็นการรับศีล ดิฉันสงสัยว่าถ้าเรารับศีลมาแล้ว รักษาศีลไม่ได้ทั้ง 5 ข้อ จะไม่เป็นการทุศีลหรือคะ และถ้าอยากจะถือศีล 5 อย่างเป็นระบบ จะมีแนวทางวิธีการขั้นตอนอย่างไรที่จะสามารถรักษาให้ได้ยาวนานที่สุด
ขอปุจฉาอีกข้อค่ะ คืออยากทราบว่าอานิสงส์ของการรับศีลข้อที่ 5 มีผลบุญอย่างไรบ้าง เพราะสามีชอบกินเบียร์ อยากให้เขาเลิก ขอนมัสการขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
................................................................วันทนา
วิสัชนา : 1. ไม่เกี่ยวกัน ถ้าคุณรักษาข้อใดข้อหนึ่งทั้งชีวิต แล้วทำมันทุกวัน ให้เป็นส่วนหนึ่งของลมหายใจ ขณะเดียวกันก็พยายามพัฒนาศีล พัฒนาดีของคุณให้สูงขึ้น ปีนี้รักษาได้ข้อหนึ่ง ปีหน้ารักษาได้เพิ่มอีกข้อ ไม่ต้องกลัวว่าคุณจะรักษาศีลได้ไม่ครบ สำคัญว่าคุณรับศีลมาทั้งหมด แล้วรักษาไม่ได้สักข้อ นั่นล่ะแย่
2. หัวใจสำคัญของการรักษาศีลคือรักษาใจ ขอเพียงคุณรักษาใจให้รู้สึกละอายชั่ว กลัวบาป ไม่ให้กระเพื่อมด้วยตาเห็นรูปสวย หูฟังเสียงเพราะ จมูกดมกลิ่นหอม ลิ้นรับรสอร่อย กายถูกต้องสัมผัส และใจรู้อารมณ์ใดๆ ไม่ตกเป็นทาส ไม่ให้มีมลทิน ไม่ให้มีมลภาวะในใจ คุณรักษาศีลได้ทุกข้อเลย
3. อานิสงส์คือจะทำให้คุณไม่ประมาท ไม่ขาดสติ ไม่เมา แล้วคุณจะกลายเป็นบุคคล ที่มีเสน่ห์ในสังคมรอบข้าง คนที่ไม่เมา ไม่ประมาท ไม่ขาดสติ เป็นผลพวงมาจากการที่ไม่เสพเครื่องดองของมึนเมา ไม่ทำตนเองให้มีมลทินจากเครื่องมอมเมาทั้งปวง
บูชาพระพุทธรูปที่บ้าน ต้องถวายอะไรบ้าง
ปุจฉา : กราบหลวงปู่ที่เคารพ ดิฉันมีข้อปุจฉา ขอให้หลวงปู่ช่วยวิสัชนาค่ะ เพราะถามคนนั้นคนนี้ก็บอกไม่เหมือนกัน คือเวลาไหว้บูชาพระพุทธรูปที่บ้าน ปกติดิฉันก็ไม่ได้ มีอะไรถวายมาก มีแค่ธูปเทียน พวง-มาลัย น้ำ 1 ถ้วย ก็ทำอย่างนี้มานานแล้ว แต่มีคนบอกว่าควรมีของอย่างอื่นถวาย ด้วย อย่างเช่น ข้าวและกับข้าว แล้วก็ของหวาน ดิฉันเลยอยากจะทราบว่าจำเป็นหรือไม่คะ ที่จะต้องมีของอื่นๆ ถวายด้วย นอกจากดอกไม้ ธูปเทียนและน้ำ แล้วในการสวดมนต์จะต้องท่องตามวิธีการสวดมนต์ในหนังสือหรือไม่คะ แล้วต้องสวดกี่บท สวดแล้วจะได้อานิสงส์อะไรบ้างคะ ขอขอบคุณค่ะ
................................................................นภาพร
วิสัชนา : สำคัญที่สุดคือขณะที่ทำคุณตั้งใจทำ ทำเสร็จแล้วคุณสบายใจ ไม่ว่าคุณ จะสวดมนต์บทใดถ้าทำให้คุณสบายใจ รู้สึกผ่อนคลาย จิตสงบได้ บทใดๆ ก็ศักดิ์สิทธิ์ อย่าสวดแค่ซาก จงสวดด้วยความสำนึก ด้วยความเคารพ ด้วยหัวใจ คือทั้งกายและใจต้องประสานกัน
ถ้าคิดจะสวดนะโมตัสสะจบเดียว แล้วมันเต็มไปด้วยหัวใจ เต็มเปี่ยมไปด้วยกิริยาอาการที่นบนอบเคารพสูงสุด ฉันว่าน่าจะศักดิ์สิทธิ์มากกว่าคนที่นั่งสวดเป็นร้อยจบ แต่จิตใจเลื่อนลอย
ผลสำเร็จหรืออานิสงส์ของการสวดมนต์ก็คือ สบายใจ ผ่อนคลาย รู้สึกดื่มด่ำ ซาบซึ้งต่อรสแห่งบทสวดนั้นๆ ถือว่าใช้ได้แล้ว
การบูชาพระก็เหมือนกัน บางคนมีเครื่องบูชามากมาย แต่ทำลวกๆไป ตั้งไว้แค่ให้จิ้งจกกิน แต่บางคนไม่มีเครื่องบูชาอะไรเลย แต่นบนอบเคารพบูชา ระลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างสุจริตใจ คนคนนี้จะได้บุญมากกว่า
ไม่ได้ทำบุญที่วัด แต่ทำดีกับพ่อแม่ ได้บุญหรือไม่
ปุจฉา : กราบเรียนปุจฉาหลวงปู่ที่เคารพ ดิฉันไม่ค่อย มีโอกาสไปทำบุญกับพระที่วัด เพราะไม่ค่อยสะดวก เพราะวัดอยู่ไกลบ้านมาก พ่อแม่ก็แก่แล้ว มีดิฉันเป็นที่พึ่งเพียงคนเดียว ทุกวันนี้เช้าไปทำงาน เย็นกลับมาดูแลหุงหาอาหารให้ท่าน วันหยุดก็ต้องทำงานบ้าน ซักผ้ารีดผ้าถูบ้าน เป็นอย่างนี้มาหลายปีแล้ว ดิฉันจึงอยากรู้ว่า ถ้าเราไม่ค่อยมีโอกาสทำบุญกับพระ แต่ได้ทำดีกับพ่อแม่แทน อย่างนี้จะได้บุญหรือไม่คะ แต่ดิฉันก็สนใจธรรมะ ฝึกทำสมาธิอยู่ที่บ้าน อ้อ..เกือบลืม ขอถามอีกหน่อยค่ะ คือบางครั้งดิฉันก็นอนไม่ค่อยหลับ ทำสมาธิแล้วแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ขอเมตตาหลวงปู่ช่วยชี้แนะแนวทางด้วยค่ะ
................................................................ไพลิน
วิสัชนา : 1. ได้...เพราะพ่อแม่คือพรหมของบุตร คือพระอรหันต์ของลูก เหตุผลที่ พ่อแม่เป็นพรหมของบุตร เป็นอรหันต์ของลูก ก็เพราะไม่มีใครมีความรักอันบริสุทธิ์ ให้กับเราได้นอกจากพ่อแม่ การที่เราทำดีให้พ่อแม่สบายใจ เลี้ยงดูพ่อแม่ ทำให้พ่อแม่รู้สึกเป็นสุขใจกับการกระทำของเรา นั่นคือการทำบุญกับพระอรหันต์ ทำต่อไป อย่าหยุดก็แล้วกัน
2. ไม่ยาก..เพียงแค่หยุดความคิด ลดความคิดลง ผ่อนคลาย ดื่มน้ำสักแก้ว กำหนดจิตว่าเลิกคิด แล้วคุณจะหลับไปเอง แต่ถ้าเมื่อใดที่คุณยังคิดไม่เลิก คุณไม่มีสิทธิ์หลับ เพราะสมองมันจะตื่น เช่นเดียวกัน ถ้าคุณอยากตื่น ก็ไม่ยากเหมือนกัน ปลุกความคิดให้ปรากฏขึ้น กังวลในสิ่งที่เป็นเรื่องคั่งค้าง แล้วคุณจะตื่นแบบชนิดที่ไม่มีใครปลุกก็ตื่น
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 101 เม.ย. 52 โดยหลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม)
ปุจฉา : นมัสการเรียนถามหลวงปู่พุทธะอิสระ คือดิฉันมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องศีล เพราะเวลาไปทำบุญที่วัด หรือไปงานบุญที่มีพระมาสวด พระก็ จะให้ศีล 5 ข้อ ซึ่งดิฉันเห็นว่าส่วนใหญ่ทุกคนก็จะท่องตามกันทั้ง 5 ข้อ เป็นการรับศีล ดิฉันสงสัยว่าถ้าเรารับศีลมาแล้ว รักษาศีลไม่ได้ทั้ง 5 ข้อ จะไม่เป็นการทุศีลหรือคะ และถ้าอยากจะถือศีล 5 อย่างเป็นระบบ จะมีแนวทางวิธีการขั้นตอนอย่างไรที่จะสามารถรักษาให้ได้ยาวนานที่สุด
ขอปุจฉาอีกข้อค่ะ คืออยากทราบว่าอานิสงส์ของการรับศีลข้อที่ 5 มีผลบุญอย่างไรบ้าง เพราะสามีชอบกินเบียร์ อยากให้เขาเลิก ขอนมัสการขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
................................................................วันทนา
วิสัชนา : 1. ไม่เกี่ยวกัน ถ้าคุณรักษาข้อใดข้อหนึ่งทั้งชีวิต แล้วทำมันทุกวัน ให้เป็นส่วนหนึ่งของลมหายใจ ขณะเดียวกันก็พยายามพัฒนาศีล พัฒนาดีของคุณให้สูงขึ้น ปีนี้รักษาได้ข้อหนึ่ง ปีหน้ารักษาได้เพิ่มอีกข้อ ไม่ต้องกลัวว่าคุณจะรักษาศีลได้ไม่ครบ สำคัญว่าคุณรับศีลมาทั้งหมด แล้วรักษาไม่ได้สักข้อ นั่นล่ะแย่
2. หัวใจสำคัญของการรักษาศีลคือรักษาใจ ขอเพียงคุณรักษาใจให้รู้สึกละอายชั่ว กลัวบาป ไม่ให้กระเพื่อมด้วยตาเห็นรูปสวย หูฟังเสียงเพราะ จมูกดมกลิ่นหอม ลิ้นรับรสอร่อย กายถูกต้องสัมผัส และใจรู้อารมณ์ใดๆ ไม่ตกเป็นทาส ไม่ให้มีมลทิน ไม่ให้มีมลภาวะในใจ คุณรักษาศีลได้ทุกข้อเลย
3. อานิสงส์คือจะทำให้คุณไม่ประมาท ไม่ขาดสติ ไม่เมา แล้วคุณจะกลายเป็นบุคคล ที่มีเสน่ห์ในสังคมรอบข้าง คนที่ไม่เมา ไม่ประมาท ไม่ขาดสติ เป็นผลพวงมาจากการที่ไม่เสพเครื่องดองของมึนเมา ไม่ทำตนเองให้มีมลทินจากเครื่องมอมเมาทั้งปวง
บูชาพระพุทธรูปที่บ้าน ต้องถวายอะไรบ้าง
ปุจฉา : กราบหลวงปู่ที่เคารพ ดิฉันมีข้อปุจฉา ขอให้หลวงปู่ช่วยวิสัชนาค่ะ เพราะถามคนนั้นคนนี้ก็บอกไม่เหมือนกัน คือเวลาไหว้บูชาพระพุทธรูปที่บ้าน ปกติดิฉันก็ไม่ได้ มีอะไรถวายมาก มีแค่ธูปเทียน พวง-มาลัย น้ำ 1 ถ้วย ก็ทำอย่างนี้มานานแล้ว แต่มีคนบอกว่าควรมีของอย่างอื่นถวาย ด้วย อย่างเช่น ข้าวและกับข้าว แล้วก็ของหวาน ดิฉันเลยอยากจะทราบว่าจำเป็นหรือไม่คะ ที่จะต้องมีของอื่นๆ ถวายด้วย นอกจากดอกไม้ ธูปเทียนและน้ำ แล้วในการสวดมนต์จะต้องท่องตามวิธีการสวดมนต์ในหนังสือหรือไม่คะ แล้วต้องสวดกี่บท สวดแล้วจะได้อานิสงส์อะไรบ้างคะ ขอขอบคุณค่ะ
................................................................นภาพร
วิสัชนา : สำคัญที่สุดคือขณะที่ทำคุณตั้งใจทำ ทำเสร็จแล้วคุณสบายใจ ไม่ว่าคุณ จะสวดมนต์บทใดถ้าทำให้คุณสบายใจ รู้สึกผ่อนคลาย จิตสงบได้ บทใดๆ ก็ศักดิ์สิทธิ์ อย่าสวดแค่ซาก จงสวดด้วยความสำนึก ด้วยความเคารพ ด้วยหัวใจ คือทั้งกายและใจต้องประสานกัน
ถ้าคิดจะสวดนะโมตัสสะจบเดียว แล้วมันเต็มไปด้วยหัวใจ เต็มเปี่ยมไปด้วยกิริยาอาการที่นบนอบเคารพสูงสุด ฉันว่าน่าจะศักดิ์สิทธิ์มากกว่าคนที่นั่งสวดเป็นร้อยจบ แต่จิตใจเลื่อนลอย
ผลสำเร็จหรืออานิสงส์ของการสวดมนต์ก็คือ สบายใจ ผ่อนคลาย รู้สึกดื่มด่ำ ซาบซึ้งต่อรสแห่งบทสวดนั้นๆ ถือว่าใช้ได้แล้ว
การบูชาพระก็เหมือนกัน บางคนมีเครื่องบูชามากมาย แต่ทำลวกๆไป ตั้งไว้แค่ให้จิ้งจกกิน แต่บางคนไม่มีเครื่องบูชาอะไรเลย แต่นบนอบเคารพบูชา ระลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างสุจริตใจ คนคนนี้จะได้บุญมากกว่า
ไม่ได้ทำบุญที่วัด แต่ทำดีกับพ่อแม่ ได้บุญหรือไม่
ปุจฉา : กราบเรียนปุจฉาหลวงปู่ที่เคารพ ดิฉันไม่ค่อย มีโอกาสไปทำบุญกับพระที่วัด เพราะไม่ค่อยสะดวก เพราะวัดอยู่ไกลบ้านมาก พ่อแม่ก็แก่แล้ว มีดิฉันเป็นที่พึ่งเพียงคนเดียว ทุกวันนี้เช้าไปทำงาน เย็นกลับมาดูแลหุงหาอาหารให้ท่าน วันหยุดก็ต้องทำงานบ้าน ซักผ้ารีดผ้าถูบ้าน เป็นอย่างนี้มาหลายปีแล้ว ดิฉันจึงอยากรู้ว่า ถ้าเราไม่ค่อยมีโอกาสทำบุญกับพระ แต่ได้ทำดีกับพ่อแม่แทน อย่างนี้จะได้บุญหรือไม่คะ แต่ดิฉันก็สนใจธรรมะ ฝึกทำสมาธิอยู่ที่บ้าน อ้อ..เกือบลืม ขอถามอีกหน่อยค่ะ คือบางครั้งดิฉันก็นอนไม่ค่อยหลับ ทำสมาธิแล้วแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ขอเมตตาหลวงปู่ช่วยชี้แนะแนวทางด้วยค่ะ
................................................................ไพลิน
วิสัชนา : 1. ได้...เพราะพ่อแม่คือพรหมของบุตร คือพระอรหันต์ของลูก เหตุผลที่ พ่อแม่เป็นพรหมของบุตร เป็นอรหันต์ของลูก ก็เพราะไม่มีใครมีความรักอันบริสุทธิ์ ให้กับเราได้นอกจากพ่อแม่ การที่เราทำดีให้พ่อแม่สบายใจ เลี้ยงดูพ่อแม่ ทำให้พ่อแม่รู้สึกเป็นสุขใจกับการกระทำของเรา นั่นคือการทำบุญกับพระอรหันต์ ทำต่อไป อย่าหยุดก็แล้วกัน
2. ไม่ยาก..เพียงแค่หยุดความคิด ลดความคิดลง ผ่อนคลาย ดื่มน้ำสักแก้ว กำหนดจิตว่าเลิกคิด แล้วคุณจะหลับไปเอง แต่ถ้าเมื่อใดที่คุณยังคิดไม่เลิก คุณไม่มีสิทธิ์หลับ เพราะสมองมันจะตื่น เช่นเดียวกัน ถ้าคุณอยากตื่น ก็ไม่ยากเหมือนกัน ปลุกความคิดให้ปรากฏขึ้น กังวลในสิ่งที่เป็นเรื่องคั่งค้าง แล้วคุณจะตื่นแบบชนิดที่ไม่มีใครปลุกก็ตื่น
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 101 เม.ย. 52 โดยหลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม)
