ขอวิธีปฏิบัติธรรมง่ายๆให้คุณแม่
ปุจฉา : กราบเท้าหลวงปู่ที่เคารพ มีเรื่องขอเรียนปรึกษาหลวงปู่ดังนี้ คือคุณแม่ของดิฉันเป็นน้องใหม่ในวงการธรรมะ เพิ่งเริ่มหัดฟังธรรมได้ไม่นาน และภาษาไทยก็ยังไม่ค่อยแข็งแรง เพราะเป็นคนจีน จึงขอความเมตตาหลวงปู่ช่วยแนะนำหลักการปฏิบัติธรรม และการดำเนินชีวิตแบบง่ายๆ ด้วยภาษาง่ายๆ ให้คุณแม่ผู้เหลือเวลาในชีวิตอีกไม่มากได้ปฏิบัติ เพราะปัจจุบันคุณแม่อายุประมาณ 70 ปีแล้วค่ะ ดิฉันจะพาไปวัดเพื่อฟังธรรมเท่าที่ดิฉันพอมีเวลาว่างค่ะ กราบขอบพระคุณหลวงปู่มากค่ะ...............................................................................สุวรรณา
วิสัชนา : องค์ประกอบของจิตที่ให้เกิดกุศลมันมีขั้นตอน บางครั้ง เราฟังธรรมไม่รู้เรื่อง ก็คิดว่าเมื่อพาแม่มาฟังธรรมก็คงจะไม่รู้เรื่องเหมือนกัน แต่สิ่งที่แม่ทำแล้วรู้เรื่องและสบายก็คือการรักษาศีล เจริญภาวนา แม้จะฟังธรรมไม่รู้เรื่องก็สอนให้แม่แผ่เมตตา มีน้ำใจ รู้จักให้อภัย ไม่เห็นแก่ตัว แนะนำให้แม่มีองค์ประกอบแห่งกุศล
วิธีให้แม่ทำกุศลมีเยอะแยะเช่น ชวนแม่บริจาคทาน ใส่บาตร ถวายสังฆทาน รู้จักแผ่เมตตาบ่อยๆท่องอะไรไม่ได้ก็แค่พูดสั้นๆในใจว่า “ขอสัตว์ทั้งปวงจงเป็นสุข” แค่นี้แม่ก็มีบุญแล้ว ต้องค่อยๆบอก ค่อยๆแนะนำ ค่อยๆชี้ ค่อยๆจูง เหมือนที่แม่อบรมเลี้ยงดูคุณมา ให้แม่ของคุณเข้าใจความหมายของคำว่าบุญ ซึ่งแปลว่าความอิ่มและเต็มความสุขใจ ผ่อนคลาย โปร่งเบาสบาย ไม่จำเป็นต้องฟังธรรมอย่างเดียว เหล่านี้แหละเรียกว่าองค์ประกอบของจิตในส่วนที่เป็นกุศล
สรุปสั้นๆก็คือทาน ศีล ภาวนา ฟังธรรม แผ่เมตตา ให้อภัย มีน้ำใจ ไม่เห็นแก่ตัว
ทำอย่างไรให้เป็นที่รักของทุกคน
ปุจฉา : เรียนหลวงปู่ที่เคารพ ดิฉันมีข้อสงสัยขอปุจฉา 2 ข้อ ค่ะ
1. ทำอย่างไรให้เป็นที่รักของทุกคน คือที่บ้าน ที่ทำงาน ศัตรูหมู่ มาร และเจ้ากรรมนายเวร และเข้ากับคนอื่นๆได้
2. อานิสงส์ของความกตัญญู มีอยู่หรือไม่ และบุตรหลานที่ไม่กตัญญูจะได้รับผลอย่างไรคะ
ขอขอบพระคุณที่ช่วยวิสัชนาค่ะ .........................................ประภาศิริ
วิสัชนา :
1. ไม่ยากเลย วิธีทำให้เป็นที่รักแก่คนทั้งหลาย เพียงแค่มีน้ำใจ รู้จักให้ อภัย และไม่เห็นแก่ตัว สามอย่างนี้คุณจะเป็นที่รักของพรหม มาร และมนุษย์ทั้งหลาย
2. ความกตัญญูกตเวทิตา คือการรู้คุณและตอบแทนบุญคุณนั้น ทุกศาสนาสอนตรง กันว่าเป็นสัญลักษณ์ของคนดี ความกตัญญูกตเวทิตามีอานิสงส์ส่งผลให้คนนั้นรุ่งเรืองเจริญ
แต่ถ้าไม่รู้คุณคนที่มีบุญคุณ และไม่คิดจะตอบแทนบุญคุณแก่ผู้นั้น เราก็ไม่มีสิทธิ์ ที่จะยืนอยู่ในโลกแบบที่มีคนใดไว้วางใจเลย เพราะขนาดคนที่มีบุญคุณกับเรา เรายังไม่สำนึกบุญคุณ ไม่คิดตอบแทนคุณ ถ้าเราไปเข้าสังคมใด สังคมนั้นรู้เข้าก็จะว่าเราเป็นบุคคลที่ไม่ปลอดภัยกับเขา ไม่มีใครอยากอยู่ใกล้ เพราะขนาดคนที่มีบุญคุณ เรายังไม่สำนึกไม่ตอบแทน แล้วคนอื่นที่ไม่ได้ให้อะไรเรา มีหรือเราจะไปรู้จักบุญคุณเขา เขาก็ย่อมไม่วางใจเรา มีความรู้สึกว่าอยู่ใกล้เราแล้วไม่ปลอดภัย สุดท้ายเราก็คือคนที่สังคมปฏิเสธ แค่เขารู้ว่าเราอกตัญญูต่อพ่อแม่ เขาก็จะตราหน้าว่าขนาดพ่อแม่ของตัวเองยังไม่รัก แล้วเรื่องอะไรจะไปรักคนอื่น คนที่อกตัญญู ไม่รู้บุญคุณคน เป็นไปไม่ได้ ที่สังคมจะยกย่อง เป็นไปไม่ได้ที่คนทั้งหลายจะยอมรับ
ขอวิธีเจริญสติเบื้องต้น
ปุจฉา : นมัสการเรียนถามหลวงปู่พุทธะอิสระ ดิฉันสนใจการปฏิบัติธรรม แต่ไม่ค่อย มีเวลาไปวัดหรือไปเข้าคอร์สอบรมที่ไหน เพราะต้องทำงานนอกบ้านด้วย และต้องทำงานบ้านเป็นแม่บ้านด้วย เพราะมีลูก 2 คนยังเล็กอยู่ เผอิญดิฉันแต่งงานช้า เลยมีลูกช้า แต่ว่าดิฉันก็ชอบอ่านหนังสือธรรมะ เพราะรู้สึกว่าช่วยให้สบายใจ เพราะบางทีก็เครียดมากทั้งจากที่ทำงานและที่บ้าน พอจะมีเวลาหายใจได้สงบๆก็ช่วงดึกๆที่ลูกๆนอนกันแล้ว ดิฉันก็ใช้เวลามานั่งสมาธิบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำทุกวัน ดิฉันเลยอยากถามว่าถ้าหากเราไม่ได้ไปปฏิบัติธรรมที่วัด แต่ปฏิบัติธรรมที่บ้านแทน จะได้หรือไม่ แล้วต้องปฏิบัติอย่างไร แล้วการเจริญสติเบื้องต้นทำอย่างไรคะ ขอวิธีง่ายๆนะคะ เพราะยากไปกลัวทำไม่ได้ค่ะ
สุดท้ายนี้ขอขอบพระคุณที่ท่านกรุณาตอบข้อปุจฉาให้ค่ะ...............................................................................ภัทรพร
วิสัชนา : การปฏิบัติธรรมที่บ้านก็คือ ทำอย่างไรก็ได้ให้คุณผ่อนคลายสบายใจ และกายเป็นสุข
คำว่าผ่อนคลาย คือ ผ่อนคลายจากตาเห็นรูป หูฟังเสียง จมูกได้กลิ่น ลิ้นรับรส กายถูกต้องสัมผัส และใจรู้อารมณ์ เพราะอารมณ์ในตัวเราก็ต้องผ่อนคลายด้วย จิต ใจโปร่งเบาสบาย
แล้วกายเป็นสุขก็คือเมื่อใจผ่อนคลายแล้ว เราก็พยายามทำกายให้เป็นสุข อย่าบังคับกายให้เป็นทุกข์ บางคนคิดว่าการเจริญสติ ทำสมาธิภาวนาอยู่กับบ้าน คือต้องนั่งอย่างเดียว แต่จริงๆแล้วพระพุทธเจ้าทรงสอนในหลักมหาสติปัฏฐาน 4 มีทั้งยืน เดิน นั่ง นอน คือการเจริญสติ
วิธีเจริญสติง่ายๆในชีวิตประจำวันสำหรับฆารวาสก็คือ สนใจและใส่ใจในสิ่งที่ตัวเองกำลังทำ คำที่กำลังพูด และสูตรที่กำลังคิด อย่างตั้งมั่น จดจ่อ และจริงจัง
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 100 มี.ค. 52 โดยหลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม)
ปุจฉา : กราบเท้าหลวงปู่ที่เคารพ มีเรื่องขอเรียนปรึกษาหลวงปู่ดังนี้ คือคุณแม่ของดิฉันเป็นน้องใหม่ในวงการธรรมะ เพิ่งเริ่มหัดฟังธรรมได้ไม่นาน และภาษาไทยก็ยังไม่ค่อยแข็งแรง เพราะเป็นคนจีน จึงขอความเมตตาหลวงปู่ช่วยแนะนำหลักการปฏิบัติธรรม และการดำเนินชีวิตแบบง่ายๆ ด้วยภาษาง่ายๆ ให้คุณแม่ผู้เหลือเวลาในชีวิตอีกไม่มากได้ปฏิบัติ เพราะปัจจุบันคุณแม่อายุประมาณ 70 ปีแล้วค่ะ ดิฉันจะพาไปวัดเพื่อฟังธรรมเท่าที่ดิฉันพอมีเวลาว่างค่ะ กราบขอบพระคุณหลวงปู่มากค่ะ...............................................................................สุวรรณา
วิสัชนา : องค์ประกอบของจิตที่ให้เกิดกุศลมันมีขั้นตอน บางครั้ง เราฟังธรรมไม่รู้เรื่อง ก็คิดว่าเมื่อพาแม่มาฟังธรรมก็คงจะไม่รู้เรื่องเหมือนกัน แต่สิ่งที่แม่ทำแล้วรู้เรื่องและสบายก็คือการรักษาศีล เจริญภาวนา แม้จะฟังธรรมไม่รู้เรื่องก็สอนให้แม่แผ่เมตตา มีน้ำใจ รู้จักให้อภัย ไม่เห็นแก่ตัว แนะนำให้แม่มีองค์ประกอบแห่งกุศล
วิธีให้แม่ทำกุศลมีเยอะแยะเช่น ชวนแม่บริจาคทาน ใส่บาตร ถวายสังฆทาน รู้จักแผ่เมตตาบ่อยๆท่องอะไรไม่ได้ก็แค่พูดสั้นๆในใจว่า “ขอสัตว์ทั้งปวงจงเป็นสุข” แค่นี้แม่ก็มีบุญแล้ว ต้องค่อยๆบอก ค่อยๆแนะนำ ค่อยๆชี้ ค่อยๆจูง เหมือนที่แม่อบรมเลี้ยงดูคุณมา ให้แม่ของคุณเข้าใจความหมายของคำว่าบุญ ซึ่งแปลว่าความอิ่มและเต็มความสุขใจ ผ่อนคลาย โปร่งเบาสบาย ไม่จำเป็นต้องฟังธรรมอย่างเดียว เหล่านี้แหละเรียกว่าองค์ประกอบของจิตในส่วนที่เป็นกุศล
สรุปสั้นๆก็คือทาน ศีล ภาวนา ฟังธรรม แผ่เมตตา ให้อภัย มีน้ำใจ ไม่เห็นแก่ตัว
ทำอย่างไรให้เป็นที่รักของทุกคน
ปุจฉา : เรียนหลวงปู่ที่เคารพ ดิฉันมีข้อสงสัยขอปุจฉา 2 ข้อ ค่ะ
1. ทำอย่างไรให้เป็นที่รักของทุกคน คือที่บ้าน ที่ทำงาน ศัตรูหมู่ มาร และเจ้ากรรมนายเวร และเข้ากับคนอื่นๆได้
2. อานิสงส์ของความกตัญญู มีอยู่หรือไม่ และบุตรหลานที่ไม่กตัญญูจะได้รับผลอย่างไรคะ
ขอขอบพระคุณที่ช่วยวิสัชนาค่ะ .........................................ประภาศิริ
วิสัชนา :
1. ไม่ยากเลย วิธีทำให้เป็นที่รักแก่คนทั้งหลาย เพียงแค่มีน้ำใจ รู้จักให้ อภัย และไม่เห็นแก่ตัว สามอย่างนี้คุณจะเป็นที่รักของพรหม มาร และมนุษย์ทั้งหลาย
2. ความกตัญญูกตเวทิตา คือการรู้คุณและตอบแทนบุญคุณนั้น ทุกศาสนาสอนตรง กันว่าเป็นสัญลักษณ์ของคนดี ความกตัญญูกตเวทิตามีอานิสงส์ส่งผลให้คนนั้นรุ่งเรืองเจริญ
แต่ถ้าไม่รู้คุณคนที่มีบุญคุณ และไม่คิดจะตอบแทนบุญคุณแก่ผู้นั้น เราก็ไม่มีสิทธิ์ ที่จะยืนอยู่ในโลกแบบที่มีคนใดไว้วางใจเลย เพราะขนาดคนที่มีบุญคุณกับเรา เรายังไม่สำนึกบุญคุณ ไม่คิดตอบแทนคุณ ถ้าเราไปเข้าสังคมใด สังคมนั้นรู้เข้าก็จะว่าเราเป็นบุคคลที่ไม่ปลอดภัยกับเขา ไม่มีใครอยากอยู่ใกล้ เพราะขนาดคนที่มีบุญคุณ เรายังไม่สำนึกไม่ตอบแทน แล้วคนอื่นที่ไม่ได้ให้อะไรเรา มีหรือเราจะไปรู้จักบุญคุณเขา เขาก็ย่อมไม่วางใจเรา มีความรู้สึกว่าอยู่ใกล้เราแล้วไม่ปลอดภัย สุดท้ายเราก็คือคนที่สังคมปฏิเสธ แค่เขารู้ว่าเราอกตัญญูต่อพ่อแม่ เขาก็จะตราหน้าว่าขนาดพ่อแม่ของตัวเองยังไม่รัก แล้วเรื่องอะไรจะไปรักคนอื่น คนที่อกตัญญู ไม่รู้บุญคุณคน เป็นไปไม่ได้ ที่สังคมจะยกย่อง เป็นไปไม่ได้ที่คนทั้งหลายจะยอมรับ
ขอวิธีเจริญสติเบื้องต้น
ปุจฉา : นมัสการเรียนถามหลวงปู่พุทธะอิสระ ดิฉันสนใจการปฏิบัติธรรม แต่ไม่ค่อย มีเวลาไปวัดหรือไปเข้าคอร์สอบรมที่ไหน เพราะต้องทำงานนอกบ้านด้วย และต้องทำงานบ้านเป็นแม่บ้านด้วย เพราะมีลูก 2 คนยังเล็กอยู่ เผอิญดิฉันแต่งงานช้า เลยมีลูกช้า แต่ว่าดิฉันก็ชอบอ่านหนังสือธรรมะ เพราะรู้สึกว่าช่วยให้สบายใจ เพราะบางทีก็เครียดมากทั้งจากที่ทำงานและที่บ้าน พอจะมีเวลาหายใจได้สงบๆก็ช่วงดึกๆที่ลูกๆนอนกันแล้ว ดิฉันก็ใช้เวลามานั่งสมาธิบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำทุกวัน ดิฉันเลยอยากถามว่าถ้าหากเราไม่ได้ไปปฏิบัติธรรมที่วัด แต่ปฏิบัติธรรมที่บ้านแทน จะได้หรือไม่ แล้วต้องปฏิบัติอย่างไร แล้วการเจริญสติเบื้องต้นทำอย่างไรคะ ขอวิธีง่ายๆนะคะ เพราะยากไปกลัวทำไม่ได้ค่ะ
สุดท้ายนี้ขอขอบพระคุณที่ท่านกรุณาตอบข้อปุจฉาให้ค่ะ...............................................................................ภัทรพร
วิสัชนา : การปฏิบัติธรรมที่บ้านก็คือ ทำอย่างไรก็ได้ให้คุณผ่อนคลายสบายใจ และกายเป็นสุข
คำว่าผ่อนคลาย คือ ผ่อนคลายจากตาเห็นรูป หูฟังเสียง จมูกได้กลิ่น ลิ้นรับรส กายถูกต้องสัมผัส และใจรู้อารมณ์ เพราะอารมณ์ในตัวเราก็ต้องผ่อนคลายด้วย จิต ใจโปร่งเบาสบาย
แล้วกายเป็นสุขก็คือเมื่อใจผ่อนคลายแล้ว เราก็พยายามทำกายให้เป็นสุข อย่าบังคับกายให้เป็นทุกข์ บางคนคิดว่าการเจริญสติ ทำสมาธิภาวนาอยู่กับบ้าน คือต้องนั่งอย่างเดียว แต่จริงๆแล้วพระพุทธเจ้าทรงสอนในหลักมหาสติปัฏฐาน 4 มีทั้งยืน เดิน นั่ง นอน คือการเจริญสติ
วิธีเจริญสติง่ายๆในชีวิตประจำวันสำหรับฆารวาสก็คือ สนใจและใส่ใจในสิ่งที่ตัวเองกำลังทำ คำที่กำลังพูด และสูตรที่กำลังคิด อย่างตั้งมั่น จดจ่อ และจริงจัง
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 100 มี.ค. 52 โดยหลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม)