ทำการตอกเสาเข็มไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับ ‘หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ’ หรือ ‘สวนโมกข์กรุงเทพ’ หลังจากที่ริเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 โดยความเห็นชอบของสวนโมกขพลาราม วัดธารน้ำไหล และ คณะธรรมทาน อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ร่วมกับ คณะบุคคล องค์กร ตลอดจนหน่วยงานจำนวนมาก ทั้งจากภาค รัฐ ภาคเอกชน ชุมชน ท้องถิ่น ฯลฯ ผู้ได้รับอานิสงส์แห่งความดีจากการเผยแพร่ธรรมของท่านพุทธทาสภิกขุ
เพื่อเป็นการประกาศเชิญชวนให้ผู้มีจิตศรัทธาได้เข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนด้านงบประมาณในก่อสร้างสวนโมกข์ กรุงเทพ ให้สำเร็จลุล่วง ตามงบประมาณที่ตั้งไว้ 185 ล้านบาท มูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ และภาคีกัลยาณมิตร จึงได้ร่วมกันจัดงาน ‘เปิดประตู... สวนโมกข์กรุงเทพ’ ขึ้น ณ หอประชุมมหิศร ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ถ.รัชดาภิเษก กทม. อันถือเป็นกิจกรรมนำร่องที่จะมีการจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าสวนโมกข์กรุงเทพจะยังสร้างไม่แล้วเสร็จก็ตาม
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ เกษม วัฒนชัย ประธานคณะกรรมการจัดตั้งหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินปัญโญ คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม ประธานคณะกรรมการสนับสนุนทุนจัดตั้งฯ นายแพทย์บัญชา พงษ์พานิช กรรมการและเลขานุการฯ นายพันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ และนายธวัชชัย สุทธิประภา กรรมการและรองประธานอาวุโส บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด ได้ร่วมกันแถลงถึงหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ ว่า
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้สร้างสวนโมกข์กรุงเทพ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในมหามงคลสมัยครองราชย์ครบ 60 ปีและเฉลิมพระชนมายุ 80 พรรษา สวนโมกข์แห่งนี้จะสร้างขึ้นกลางสระน้ำใหญ่ด้านทิศเหนือ ของสวนวชิรเบญจทัศ หรือสวนรถไฟจตุจักร อันเป็นสถานที่พักผ่อนและออกกำลังกายของคนกรุงเทพฯ คณะทำงานจึงปรารถนาอยากให้สวนโมกข์กรุงเทพ เป็นศูนย์เรียนรู้และบริการด้านศาสนธรรม (Spiritual Fitness & Edutainment Center)
สวนโมกข์กรุงเทพ จะเป็นที่รวบรวมเอกสารการศึกษา ค้นคว้า ตลอดจนสื่อการเผยแพร่ของท่านพุทธทาส ที่มีมากกว่า 20,000 รายการ ทั้งที่เป็นหนังสือ บันทึก ลายมือต้นฉบับ จดหมาย กว่า 600,000 หน้า ภาพกว่า 50,000 ภาพ เสียงบันทึกกว่า 1,900 กิกะไบต์ ตลอดจนอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งสวนโมกขพลาราม และคณะธรรมทาน อ.ไชยา ได้มอบให้มูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ รับผิดชอบ รักษาและก่อให้เกิดประโยชน์แก่สาธารณะ
นั่นคือนอกจากสวนโมกข์กรุงเทพจะถูกใช้เพื่อเป็นสถานที่รวบรวม ดูแลรักษา และจัดระบบบริการการศึกษา ค้นคว้าเอกสารต้นฉบับและสื่อการศึกษาและเผยแพร่ต่างๆของท่านพุทธทาสแล้ว ยังจะใช้เป็นสถานที่ให้บริการ ร่วมมือ สนับสนุนการศึกษา ค้นคว้าวิจัยพัฒนา เผยแพร่และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านศาสนธรรม และการจัดกิจกรรม เพื่อเสริมสร้างสติปัญญาและจิตใจของผู้คนให้เจริญเติบโตจนกล้าแข็งในความถูกต้องดีงามอย่างรื่นรมย์ จนสามารถเป็นผู้ที่อยู่เย็นและเป็นประโยชน์ต่อสังคมยิ่งขึ้นไปอีก
หน้าตาของหอจดหมายเหตุพุทธทาสอินทปัญโญ หรือสวนโมกข์กรุงเทพ จะมีลักษณะคล้ายหอไตรขนาดใหญ่ เนื้อที่ประมาณ 8,000 ตารางเมตร แบ่งพื้นที่ภายในเพื่อใช้เป็นคลังเอกสารและสื่อ ห้องบริการหนังสือและสื่อธรรม ห้องค้นคว้าศึกษาวิจัยและพัฒนา ลานหินโค้ง และโถงใหญ่ โรงมหรสพทางวิญญาณเพื่อนิพพานชิมลอง ห้องประชุมสัมมนา สถานกิจกรรมและฝึกฝนปฏิบัติสมถวิปัสสนา สระมะพร้าวนาฬิเกร์ ห้องปฏิบัติการจดหมายเหตุและห้องบริการจัดการประสานภาคีกัลยาณมิตร
นายแพทย์บัญชา พงษ์พานิช กรรมการและเลขาธิการ มูลนิธิฯ กล่าวถึงความคืบหน้าในการก่อสร้างว่าขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการก่อสร้าง โดยจะใช้เวลาประมาณ 12 เดือน ซึ่งมูลนิธิฯยังมีความต้องการงบสนับสนุนในการก่อสร้างให้แล้วเสร็จ
“ขณะนี้มีผู้สมทบทุนการก่อสร้างแล้ว 11 ราย เป็นเงิน ประมาณ 140 ล้านบาท แต่งบประมาณที่วางไว้คือ 185 ล้านบาท คาดว่าจะมีผู้ที่เห็นความสำคัญ และร่วมสมทบทุนให้ครบตามงบประมาณที่ตั้งเอาไว้”
ด้านงานต้นฉบับที่สำคัญของท่านพุทธทาส ที่จะย้ายจากสวนโมกขพลาราม อ.ไชยา มาไว้ที่สวนโมกข์กรุงเทพนั้น ได้ผ่านการทำความสะอาดและซ่อมแซมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ตัวงานต้นฉบับจะถูกเก็บรักษาไว้ให้ดีที่สุด ตอนนี้กำลังทำทะเบียน และสแกนเพื่อนำเข้าสู่ระบบดิจิตอลไฟล์ ต่อไป การสืบค้นเพื่อนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ด้านต่างๆ จะไม่ทำให้งานต้นฉบับของท่านพุทธทาสเกิดการเสียหาย เพราะทุกคนสามารถสืบค้นผ่านระบบฐานข้อมูลได้” นายแพทย์บัญชากล่าว
สำหรับผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมสมทบทุนสร้างสวนโมกข์กรุงเทพได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสำนักรัชโยธิน บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 111-2-92043-5 และ ธนาคารกรุงไทย สาขาสำนักนานาเหนือ บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 000-0-20267-3 ชื่อบัญชี “เงินทุนก่อตั้งหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ”
นอกจากนี้ผู้ที่เคารพศรัทธาท่านพุทธทาสยังสามารถสมัครเป็นอาสาสมัคร เพื่อสนับสนุนกิจกรรมต่างๆที่กำลังดำเนินการและจะเกิดขึ้นในอนาคต ด้วยการเป็นอาสาสมัครงานจดหมายเหตุ อาสาสมัครงานฐานข้อมูลดิจิตอล อาสาสมัครงานอินเตอร์เน็ต อาสาสมัครบริการหนังสือและสื่อธรรมะ อาสาสมัครจัดกิจกรรม ณ ลานหินโค้งและโถงใหญ่ อาสาสมัครโรงมหรสพทางวิญญาณเพื่อนิพพานชิมลอง อาสามัครจัดประชุมสัมมนาและกิจกรรม อาสาสมัครกิจกรรมฝึกฝนปฏิบัติสมถวิปัสสนา อาสาสมัครบริการค้นคว้า ศึกษา วิจัยและพัฒนา อาสาสมัครถอดเสียงคำบรรยายเพื่อการเผยแพร่ อาสามัครแปลงานเพื่อการเผยแพร่ อาสาสมัครจัดทำต้นฉบับหนังสือเพื่อการเผยแพร่ อาสาสมัครการบริหารจัดการ อาสาสมัครประสานงานภาคีกัลยาณมิตร อาสาสมัครการสื่อสารประชาสัมพันธ์ และอาสาสมัครจัดการอาคารสถานที่
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานชั่วคราวมูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ ชั้น 11 อาคารสำนักงานเมืองไทยภัทร ตึก 1 เลขที่ 252/6 ถ.รัชดาภิเษก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310 โทร. 0-2305-9589-90, 08-5960-9555 โทรสาร 0-2305-9589 หรือ www.bia.or.th หรือ email : buddhadasa_archives@yahoo.com
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 95 ก.ย. 51 โดยพรพิมล)
เพื่อเป็นการประกาศเชิญชวนให้ผู้มีจิตศรัทธาได้เข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนด้านงบประมาณในก่อสร้างสวนโมกข์ กรุงเทพ ให้สำเร็จลุล่วง ตามงบประมาณที่ตั้งไว้ 185 ล้านบาท มูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ และภาคีกัลยาณมิตร จึงได้ร่วมกันจัดงาน ‘เปิดประตู... สวนโมกข์กรุงเทพ’ ขึ้น ณ หอประชุมมหิศร ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ถ.รัชดาภิเษก กทม. อันถือเป็นกิจกรรมนำร่องที่จะมีการจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าสวนโมกข์กรุงเทพจะยังสร้างไม่แล้วเสร็จก็ตาม
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ เกษม วัฒนชัย ประธานคณะกรรมการจัดตั้งหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินปัญโญ คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม ประธานคณะกรรมการสนับสนุนทุนจัดตั้งฯ นายแพทย์บัญชา พงษ์พานิช กรรมการและเลขานุการฯ นายพันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ และนายธวัชชัย สุทธิประภา กรรมการและรองประธานอาวุโส บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด ได้ร่วมกันแถลงถึงหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ ว่า
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้สร้างสวนโมกข์กรุงเทพ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในมหามงคลสมัยครองราชย์ครบ 60 ปีและเฉลิมพระชนมายุ 80 พรรษา สวนโมกข์แห่งนี้จะสร้างขึ้นกลางสระน้ำใหญ่ด้านทิศเหนือ ของสวนวชิรเบญจทัศ หรือสวนรถไฟจตุจักร อันเป็นสถานที่พักผ่อนและออกกำลังกายของคนกรุงเทพฯ คณะทำงานจึงปรารถนาอยากให้สวนโมกข์กรุงเทพ เป็นศูนย์เรียนรู้และบริการด้านศาสนธรรม (Spiritual Fitness & Edutainment Center)
สวนโมกข์กรุงเทพ จะเป็นที่รวบรวมเอกสารการศึกษา ค้นคว้า ตลอดจนสื่อการเผยแพร่ของท่านพุทธทาส ที่มีมากกว่า 20,000 รายการ ทั้งที่เป็นหนังสือ บันทึก ลายมือต้นฉบับ จดหมาย กว่า 600,000 หน้า ภาพกว่า 50,000 ภาพ เสียงบันทึกกว่า 1,900 กิกะไบต์ ตลอดจนอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งสวนโมกขพลาราม และคณะธรรมทาน อ.ไชยา ได้มอบให้มูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ รับผิดชอบ รักษาและก่อให้เกิดประโยชน์แก่สาธารณะ
นั่นคือนอกจากสวนโมกข์กรุงเทพจะถูกใช้เพื่อเป็นสถานที่รวบรวม ดูแลรักษา และจัดระบบบริการการศึกษา ค้นคว้าเอกสารต้นฉบับและสื่อการศึกษาและเผยแพร่ต่างๆของท่านพุทธทาสแล้ว ยังจะใช้เป็นสถานที่ให้บริการ ร่วมมือ สนับสนุนการศึกษา ค้นคว้าวิจัยพัฒนา เผยแพร่และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านศาสนธรรม และการจัดกิจกรรม เพื่อเสริมสร้างสติปัญญาและจิตใจของผู้คนให้เจริญเติบโตจนกล้าแข็งในความถูกต้องดีงามอย่างรื่นรมย์ จนสามารถเป็นผู้ที่อยู่เย็นและเป็นประโยชน์ต่อสังคมยิ่งขึ้นไปอีก
หน้าตาของหอจดหมายเหตุพุทธทาสอินทปัญโญ หรือสวนโมกข์กรุงเทพ จะมีลักษณะคล้ายหอไตรขนาดใหญ่ เนื้อที่ประมาณ 8,000 ตารางเมตร แบ่งพื้นที่ภายในเพื่อใช้เป็นคลังเอกสารและสื่อ ห้องบริการหนังสือและสื่อธรรม ห้องค้นคว้าศึกษาวิจัยและพัฒนา ลานหินโค้ง และโถงใหญ่ โรงมหรสพทางวิญญาณเพื่อนิพพานชิมลอง ห้องประชุมสัมมนา สถานกิจกรรมและฝึกฝนปฏิบัติสมถวิปัสสนา สระมะพร้าวนาฬิเกร์ ห้องปฏิบัติการจดหมายเหตุและห้องบริการจัดการประสานภาคีกัลยาณมิตร
นายแพทย์บัญชา พงษ์พานิช กรรมการและเลขาธิการ มูลนิธิฯ กล่าวถึงความคืบหน้าในการก่อสร้างว่าขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการก่อสร้าง โดยจะใช้เวลาประมาณ 12 เดือน ซึ่งมูลนิธิฯยังมีความต้องการงบสนับสนุนในการก่อสร้างให้แล้วเสร็จ
“ขณะนี้มีผู้สมทบทุนการก่อสร้างแล้ว 11 ราย เป็นเงิน ประมาณ 140 ล้านบาท แต่งบประมาณที่วางไว้คือ 185 ล้านบาท คาดว่าจะมีผู้ที่เห็นความสำคัญ และร่วมสมทบทุนให้ครบตามงบประมาณที่ตั้งเอาไว้”
ด้านงานต้นฉบับที่สำคัญของท่านพุทธทาส ที่จะย้ายจากสวนโมกขพลาราม อ.ไชยา มาไว้ที่สวนโมกข์กรุงเทพนั้น ได้ผ่านการทำความสะอาดและซ่อมแซมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ตัวงานต้นฉบับจะถูกเก็บรักษาไว้ให้ดีที่สุด ตอนนี้กำลังทำทะเบียน และสแกนเพื่อนำเข้าสู่ระบบดิจิตอลไฟล์ ต่อไป การสืบค้นเพื่อนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ด้านต่างๆ จะไม่ทำให้งานต้นฉบับของท่านพุทธทาสเกิดการเสียหาย เพราะทุกคนสามารถสืบค้นผ่านระบบฐานข้อมูลได้” นายแพทย์บัญชากล่าว
สำหรับผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมสมทบทุนสร้างสวนโมกข์กรุงเทพได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสำนักรัชโยธิน บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 111-2-92043-5 และ ธนาคารกรุงไทย สาขาสำนักนานาเหนือ บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 000-0-20267-3 ชื่อบัญชี “เงินทุนก่อตั้งหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ”
นอกจากนี้ผู้ที่เคารพศรัทธาท่านพุทธทาสยังสามารถสมัครเป็นอาสาสมัคร เพื่อสนับสนุนกิจกรรมต่างๆที่กำลังดำเนินการและจะเกิดขึ้นในอนาคต ด้วยการเป็นอาสาสมัครงานจดหมายเหตุ อาสาสมัครงานฐานข้อมูลดิจิตอล อาสาสมัครงานอินเตอร์เน็ต อาสาสมัครบริการหนังสือและสื่อธรรมะ อาสาสมัครจัดกิจกรรม ณ ลานหินโค้งและโถงใหญ่ อาสาสมัครโรงมหรสพทางวิญญาณเพื่อนิพพานชิมลอง อาสามัครจัดประชุมสัมมนาและกิจกรรม อาสาสมัครกิจกรรมฝึกฝนปฏิบัติสมถวิปัสสนา อาสาสมัครบริการค้นคว้า ศึกษา วิจัยและพัฒนา อาสาสมัครถอดเสียงคำบรรยายเพื่อการเผยแพร่ อาสามัครแปลงานเพื่อการเผยแพร่ อาสาสมัครจัดทำต้นฉบับหนังสือเพื่อการเผยแพร่ อาสาสมัครการบริหารจัดการ อาสาสมัครประสานงานภาคีกัลยาณมิตร อาสาสมัครการสื่อสารประชาสัมพันธ์ และอาสาสมัครจัดการอาคารสถานที่
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานชั่วคราวมูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ ชั้น 11 อาคารสำนักงานเมืองไทยภัทร ตึก 1 เลขที่ 252/6 ถ.รัชดาภิเษก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310 โทร. 0-2305-9589-90, 08-5960-9555 โทรสาร 0-2305-9589 หรือ www.bia.or.th หรือ email : buddhadasa_archives@yahoo.com
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 95 ก.ย. 51 โดยพรพิมล)