แบงก์กรุงไทยตั้งเป้ารับงานภาครัฐเพิ่มกว่า 100,000 ล้านบาท รวมที่จะขอเอี่ยวจากโครงการปล่อยกู้รัฐวิสาหกิจ 50,000 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้ารายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่ม 20% ล่าสุดจับมือกระทรวงยุติธรรมให้บริการสหกรณ์ออนไลน์เป็นแห่งแรก และมีแผนจะขยายบริการอีก 10 สหกรณ์ แย้มแผนเคทีบี ลิสซิ่งปีนี้เลิกจับลูกค้าเอกชนหลังความเสี่ยงพุ่ง
นายปรีชา ภูขำ รองกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารสายงาน สายงานธุรกิจภาครัฐ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB และประธานกรรมการ บริษัทเคทีบี ลิสซิ่ง จำกัด เปิดเผยว่า การปล่อยสินเชื่อภาครัฐในปีนี้ธนาคาร คาดว่า จะสามารถประมูลได้ไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท จากปีก่อนมียอดที่ประมูลได้อยู่ที่ 120,000-130,000 ล้านบาท ส่วนเป้าหมายการเติบโตสินเชื่อรวมของธนาคารอยู่ที่ 60,000-70,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เป้าหมายดังกล่าวธนาคารได้รวมในส่วนที่ธนาคารจะทำการยื่นประมูลโครงการปล่อยกู้รัฐวิสาหกิจวงเงิน 200,000 ล้านบาทแล้ว ทั้งนี้โดยในโครงการดังกล่าว ธนาคารจะทำการยื่นซองประมูลในวันที่ 13 มีนาคมนี้ ซึ่งคาดว่าจะได้ส่วนแบ่งประมาณ 50,000 ล้านบาท ส่วนของการบินไทยก็ถือเป็นรายชื่อหนึ่งทีทางกระทรวงการคลังได้นำเข้าร่วมโครงการดังกล่าวด้วย
“โดยส่วนใหญ่แล้วแบงก์กรุงไทยจะได้ส่วนแบ่งจากการยื่นประมูลอยู่ที่ประมาณ 40-50% ตอนนี้แชร์เรายังเป็นอันดับ 1 และเมื่อทางภาครัฐมีการเปิดประมูลเมื่อไหร่เราก็จะเข้าไปร่วมด้วยทุกครั้งเพื่อความโปร่งใส ส่วนปีนี้เราก็น่าจะประมูลได้ 100,000 ล้านบาทขึ้นไป หรืออาจถึง 200,000 ล้านบาทก็เป็นไปได้ ส่วนการเบิกใช้วงเงินนั้นก็เป็นแบบทยอยเบิกใช้ตามความจำเป็น”
สำหรับในปีนี้ธนาคารคาดว่าจะสามารถเพิ่มสัดส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมจากภาครัฐ 20% ส่วนปัจจุบันรายได้ค่าธรรมเนียมภาครัฐคิดเป็นไม่เกิน 10% ของรายได้ค่าธรรมเนียมรวม โดยล่าสุดธนาคารได้เข้าไปให้บริการสหกรณ์ออนไลน์กับกระทรวงยุติธรรม ซึ่งจะทำให้มีรายได้ค่าธรรมเนียมจากการทำธุรกรรมของสมาชิกสหกรณ์ เพราะสมาชิกสหกรณ์จะต้องเปิดบัญชีออมทรัพย์ของธนาคารกรุงไทยด้วย โดยภายในปีนี้ธนาคาร คาดว่าจะขยายการให้บริการสหกรณ์ออนไลน์ไปยังสหกรณ์อีก 10 แห่ง ซึ่งน่าจะมีสมาชิกสหกรณ์จำนวน 140,000 ราย เข้ามาเป็นลูกค้าของธนาคาร และในจำนวนนี้คาดว่าจะมีลูกค้ามาเปิดบัญชีออมทรัพย์กับธนาคาร 30% เพราะส่วนใหญ่เป็นลูกค้าอยู่แล้ว
นายปรีชา กล่าวว่า สำหรับการดำเนินงานของบริษัทเคทีบี ลีสซิ่ง ในขณะนี้ยังไม่สนใจที่จะซื้อพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อจากต่างชาติ โดยในปีนี้ตั้งเป้าการปล่อยสินเชื่อของเคทีบี ลิสซิ่งไว้ที่ 20% โดยจะเน้นการปล่อยสินเชื่อให้กับข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ และจะลดสัดส่วนลูกค้าเอกชนลงเหลือ 10% จากเดิมอยู่ที่ 40% ส่วนลูกค้าข้าราชการและรัฐวิสาหกิจเพิ่มเป็นกว่า 90% เพื่อลดความเสี่ยงจากการปล่อยสินเชื่อ หลังจากพบว่าบริษัทเอกชนมีการปิดตัวไปเป็นจำนวนมาก แต่ปัจจุบันปัญหาเรื่องหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ในระดับที่ไม่น่าเป็นห่วงมีเพียง 2% เท่านั้น ซึ่งในปีนี้การเน้นลูกค้าข้าราชการก็จะตัดปัญหาเรื่องนี้ไปได้ เพราะมีการชำระผ่านบัญชีเงินเดือนทำให้ธนาคารสามารถหักหนี้ได้ทันที
นอกจากนี้ จะหันมาเน้นการปล่อยสินเชื่อเครื่องใช้อุปโภคบริโภค เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าและโทรศัพท์มือถือ โดยจะลดสัดส่วนการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ลง เนื่องจากการปล่อยสินเชื่อเครื่องใช้อุปโภคบริโภคมีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าและมีมาร์จินดีกว่า
นายปรีชา ภูขำ รองกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารสายงาน สายงานธุรกิจภาครัฐ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB และประธานกรรมการ บริษัทเคทีบี ลิสซิ่ง จำกัด เปิดเผยว่า การปล่อยสินเชื่อภาครัฐในปีนี้ธนาคาร คาดว่า จะสามารถประมูลได้ไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท จากปีก่อนมียอดที่ประมูลได้อยู่ที่ 120,000-130,000 ล้านบาท ส่วนเป้าหมายการเติบโตสินเชื่อรวมของธนาคารอยู่ที่ 60,000-70,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เป้าหมายดังกล่าวธนาคารได้รวมในส่วนที่ธนาคารจะทำการยื่นประมูลโครงการปล่อยกู้รัฐวิสาหกิจวงเงิน 200,000 ล้านบาทแล้ว ทั้งนี้โดยในโครงการดังกล่าว ธนาคารจะทำการยื่นซองประมูลในวันที่ 13 มีนาคมนี้ ซึ่งคาดว่าจะได้ส่วนแบ่งประมาณ 50,000 ล้านบาท ส่วนของการบินไทยก็ถือเป็นรายชื่อหนึ่งทีทางกระทรวงการคลังได้นำเข้าร่วมโครงการดังกล่าวด้วย
“โดยส่วนใหญ่แล้วแบงก์กรุงไทยจะได้ส่วนแบ่งจากการยื่นประมูลอยู่ที่ประมาณ 40-50% ตอนนี้แชร์เรายังเป็นอันดับ 1 และเมื่อทางภาครัฐมีการเปิดประมูลเมื่อไหร่เราก็จะเข้าไปร่วมด้วยทุกครั้งเพื่อความโปร่งใส ส่วนปีนี้เราก็น่าจะประมูลได้ 100,000 ล้านบาทขึ้นไป หรืออาจถึง 200,000 ล้านบาทก็เป็นไปได้ ส่วนการเบิกใช้วงเงินนั้นก็เป็นแบบทยอยเบิกใช้ตามความจำเป็น”
สำหรับในปีนี้ธนาคารคาดว่าจะสามารถเพิ่มสัดส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมจากภาครัฐ 20% ส่วนปัจจุบันรายได้ค่าธรรมเนียมภาครัฐคิดเป็นไม่เกิน 10% ของรายได้ค่าธรรมเนียมรวม โดยล่าสุดธนาคารได้เข้าไปให้บริการสหกรณ์ออนไลน์กับกระทรวงยุติธรรม ซึ่งจะทำให้มีรายได้ค่าธรรมเนียมจากการทำธุรกรรมของสมาชิกสหกรณ์ เพราะสมาชิกสหกรณ์จะต้องเปิดบัญชีออมทรัพย์ของธนาคารกรุงไทยด้วย โดยภายในปีนี้ธนาคาร คาดว่าจะขยายการให้บริการสหกรณ์ออนไลน์ไปยังสหกรณ์อีก 10 แห่ง ซึ่งน่าจะมีสมาชิกสหกรณ์จำนวน 140,000 ราย เข้ามาเป็นลูกค้าของธนาคาร และในจำนวนนี้คาดว่าจะมีลูกค้ามาเปิดบัญชีออมทรัพย์กับธนาคาร 30% เพราะส่วนใหญ่เป็นลูกค้าอยู่แล้ว
นายปรีชา กล่าวว่า สำหรับการดำเนินงานของบริษัทเคทีบี ลีสซิ่ง ในขณะนี้ยังไม่สนใจที่จะซื้อพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อจากต่างชาติ โดยในปีนี้ตั้งเป้าการปล่อยสินเชื่อของเคทีบี ลิสซิ่งไว้ที่ 20% โดยจะเน้นการปล่อยสินเชื่อให้กับข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ และจะลดสัดส่วนลูกค้าเอกชนลงเหลือ 10% จากเดิมอยู่ที่ 40% ส่วนลูกค้าข้าราชการและรัฐวิสาหกิจเพิ่มเป็นกว่า 90% เพื่อลดความเสี่ยงจากการปล่อยสินเชื่อ หลังจากพบว่าบริษัทเอกชนมีการปิดตัวไปเป็นจำนวนมาก แต่ปัจจุบันปัญหาเรื่องหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ในระดับที่ไม่น่าเป็นห่วงมีเพียง 2% เท่านั้น ซึ่งในปีนี้การเน้นลูกค้าข้าราชการก็จะตัดปัญหาเรื่องนี้ไปได้ เพราะมีการชำระผ่านบัญชีเงินเดือนทำให้ธนาคารสามารถหักหนี้ได้ทันที
นอกจากนี้ จะหันมาเน้นการปล่อยสินเชื่อเครื่องใช้อุปโภคบริโภค เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าและโทรศัพท์มือถือ โดยจะลดสัดส่วนการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ลง เนื่องจากการปล่อยสินเชื่อเครื่องใช้อุปโภคบริโภคมีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าและมีมาร์จินดีกว่า