ปุจฉา
อะไรทำให้คนจิตเสื่อม
ปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นอยู่ในเวลานี้เป็นเพราะคนมีจิตใจเสื่อมทรามลงใช่หรือไม่ ถ้าใช่อะไรทำให้จิตใจคนเสื่อมทราม เราจะทำอย่างไรเพื่อให้สังคม น่าอยู่ขึ้นขอรับ
วิสัชนา
เพราะใจคนปัจจุบันขาดศีลธรรมขัดล้างชำระใจ ใจซึ่งมี รัก โลภ โกรธ หลง คอยเข้าครอบงำประจำอยู่แล้ว จึงสกปรกเป็นมลพิษกาย ชีวิต ทำพูดคิด ก็มากไปด้วยอารมณ์ดังกล่าว
วิธีแก้ ให้ความสนใจ ใส่ใจศึกษา ฝึกหัด ปฏิบัติในศีลธรรมเพื่อนำมาชำระล้างจิตใจ
ปุจฉา
ขอเทคนิคควบคุมจิต
กราบนมัสการหลวงปู่ที่เคารพรักอย่างสูงสุด ตามที่ทราบแล้วว่าเรื่องของจิตเป็นสิ่งที่ สำคัญมากที่สุด และควรจะดูแล ระวังรักษาจิตของตนให้คิดแต่สิ่งดีๆ จึงขอกราบเรียนถามหลวงปู่ว่า
1. มีเทคนิควิธีการอย่างไรที่จะควบคุมจิตไม่ให้รับเอาอารมณ์ต่างๆ เข้ามา หรือทำอย่างไรจึงจะไม่ให้เกิดการปรุงของจิต เพราะเมื่อสังเกตจิตของตน แล้วจะควบคุมไม่ทัน มีการ แสดงออก บอกว่าชอบ หรือไม่ชอบทันที ทำอย่างไรจิตจึงจะมีอาการเพียงรับรู้ รับทราบเฉยๆ ตามที่หลวงปู่เคยสอนไว้
2. อาการของจิตที่ปล่อยวาง จิตที่ตั้งมั่น และจิตที่หลุดพ้น มีความเหมือนหรือแตกต่างกันในส่วนใดบ้าง และต้องเป็นไปตามขั้นตอนอย่างไรจิตจึงจะหลุดพ้นจากวัฏสงสาร
3. ความดับของจิตมีลักษณะอย่างไร ถ้ายังไม่ถึงขั้นบรรลุอรหันต์สามารถมีความดับของจิตได้หรือไม่
ขอกราบขอบพระคุณหลวงปู่มา ณ ที่นี้ และด้วยดวงจิตของข้าพเจ้า มีความปรารถนา ให้หลวงปู่มีสุขภาพแข็งแรง มีพลัง มีอำนาจ มีตบะ และมีชัยชนะต่อสิ่งทั้งปวง เป็นผู้นำทางวิญญาณให้แก่ลูกหลานตลอดไปนานๆ ค่ะ
วิสัชนา
1.มีสติ ฝึกสติ เจริญสติ แล้วสติ จะช่วยคุณได้
2.จิตที่ปล่อยวาง คือจิตรู้ทันตาม ความเป็นจริงแล้วไม่ตกเป็นทาส
3.จิตที่ตั้งมั่น คือ จิตที่ไม่โยกโคน สั่นคลอนไปตามอารมณ์ปรุง ทั้งปวง
4.จิตหลุดพ้นคือจิตที่ปราศจากกิเลสและปราศจากทุกข์ทั้งปวง
5.ต้องตั้งมั่นก่อน แล้วจึงปล่อยวาง จนหลุดพ้น
6.จิตทุกดวงมีลักษณะเกิดแล้วดับอยู่ตลอดเวลา ผู้ที่บรรลุพระอรหันต์มีจิตเกิดดับ แต่ไม่ปรุงเป็นอารมณ์
ปุจฉา
การรับรู้
กราบนมัสการครับ
1.อาการรับรู้ที่ปรากฏทางใจบางครั้งจริงบ้าง บางครั้งไม่จริงบ้าง เรียกว่าอะไรครับ
2. การรู้ที่แท้จริง คือการรู้ตามความเป็นจริงกับสิ่งที่มากระทบ โดยมิต้องกำหนดจิต เป็นเช่นนั้นหรือไม่ครับ
3. การรับรู้เรื่องภายนอกได้อย่าง ถูกต้อง แสดงว่าต้องมีพื้นฐานมา จากศีลที่ดีขึ้นตามลำดับ ประกอบกับรู้จักตนเองมากขึ้นใช่หรือไม่ครับ
วิสัชนา
1.เรียกว่า เจตสิก เครื่องปรุงจิต เรียกมายาขจิต เครื่องล่อหลอกจิต
2.การรับรู้ที่แท้จริงคือการรับรู้เจตสิก เครื่องปรุงจิต และการรับรู้ความเป็นไปแห่งกาย
3.ที่คุณว่ามามันก็ถูก แต่ที่ถูกที่สุดคือการได้พัฒนาตัวรู้ ให้พร้อมรับรู้ นั่นก็คือสติสัมปชัญญะนั่นเอง
ปุจฉา
นั่งสมาธิแล้วหลังค่อม
หลวงปู่ครับ ผมเพิ่งเริ่มหัดนั่งสมาธิ ได้พบปัญหาเกี่ยวกับการนั่งครับ คือว่าผมได้ ขยับนั่งให้รู้สึกกระดูกสันหลังตั้งตรงแล้ว แต่พอผ่อนคลายลง มันก็กลายเป็นหลังค่อมหน่อยๆ ครับ คือถ้าทำให้กระดูกสันหลังตั้งตรง มันต้องเกร็งส่วนขาและหลังเอาไว้น่ะครับ พอเกร็งไว้ก็กลายเป็นไม่ผ่อนคลายอีก เลยไม่รู้จะทำอย่างไรครับหลวงปู่ ช่วยชี้แนะด้วยครับ
วิสัชนา
แรกๆคุณลองนอนกับพื้นราบๆยกขาพาดไว้กับเก้าอี้หรือเตียงนอนแล้วเจริญสติ ต่อมาก็ลองหัดนั่งหลังตรงๆ ทำสลับกันเช่นนี้ทุกครั้งที่คุณรู้สึกเกร็งหลังและขา และที่คุณว่าพอนั่งๆ แล้วอยู่ดีๆหลังกลับโค้งลงอีก แสดงว่าคุณขาดสติปล่อยตัวตาม ความเคยชิน
อะไรทำให้คนจิตเสื่อม
ปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นอยู่ในเวลานี้เป็นเพราะคนมีจิตใจเสื่อมทรามลงใช่หรือไม่ ถ้าใช่อะไรทำให้จิตใจคนเสื่อมทราม เราจะทำอย่างไรเพื่อให้สังคม น่าอยู่ขึ้นขอรับ
วิสัชนา
เพราะใจคนปัจจุบันขาดศีลธรรมขัดล้างชำระใจ ใจซึ่งมี รัก โลภ โกรธ หลง คอยเข้าครอบงำประจำอยู่แล้ว จึงสกปรกเป็นมลพิษกาย ชีวิต ทำพูดคิด ก็มากไปด้วยอารมณ์ดังกล่าว
วิธีแก้ ให้ความสนใจ ใส่ใจศึกษา ฝึกหัด ปฏิบัติในศีลธรรมเพื่อนำมาชำระล้างจิตใจ
ปุจฉา
ขอเทคนิคควบคุมจิต
กราบนมัสการหลวงปู่ที่เคารพรักอย่างสูงสุด ตามที่ทราบแล้วว่าเรื่องของจิตเป็นสิ่งที่ สำคัญมากที่สุด และควรจะดูแล ระวังรักษาจิตของตนให้คิดแต่สิ่งดีๆ จึงขอกราบเรียนถามหลวงปู่ว่า
1. มีเทคนิควิธีการอย่างไรที่จะควบคุมจิตไม่ให้รับเอาอารมณ์ต่างๆ เข้ามา หรือทำอย่างไรจึงจะไม่ให้เกิดการปรุงของจิต เพราะเมื่อสังเกตจิตของตน แล้วจะควบคุมไม่ทัน มีการ แสดงออก บอกว่าชอบ หรือไม่ชอบทันที ทำอย่างไรจิตจึงจะมีอาการเพียงรับรู้ รับทราบเฉยๆ ตามที่หลวงปู่เคยสอนไว้
2. อาการของจิตที่ปล่อยวาง จิตที่ตั้งมั่น และจิตที่หลุดพ้น มีความเหมือนหรือแตกต่างกันในส่วนใดบ้าง และต้องเป็นไปตามขั้นตอนอย่างไรจิตจึงจะหลุดพ้นจากวัฏสงสาร
3. ความดับของจิตมีลักษณะอย่างไร ถ้ายังไม่ถึงขั้นบรรลุอรหันต์สามารถมีความดับของจิตได้หรือไม่
ขอกราบขอบพระคุณหลวงปู่มา ณ ที่นี้ และด้วยดวงจิตของข้าพเจ้า มีความปรารถนา ให้หลวงปู่มีสุขภาพแข็งแรง มีพลัง มีอำนาจ มีตบะ และมีชัยชนะต่อสิ่งทั้งปวง เป็นผู้นำทางวิญญาณให้แก่ลูกหลานตลอดไปนานๆ ค่ะ
วิสัชนา
1.มีสติ ฝึกสติ เจริญสติ แล้วสติ จะช่วยคุณได้
2.จิตที่ปล่อยวาง คือจิตรู้ทันตาม ความเป็นจริงแล้วไม่ตกเป็นทาส
3.จิตที่ตั้งมั่น คือ จิตที่ไม่โยกโคน สั่นคลอนไปตามอารมณ์ปรุง ทั้งปวง
4.จิตหลุดพ้นคือจิตที่ปราศจากกิเลสและปราศจากทุกข์ทั้งปวง
5.ต้องตั้งมั่นก่อน แล้วจึงปล่อยวาง จนหลุดพ้น
6.จิตทุกดวงมีลักษณะเกิดแล้วดับอยู่ตลอดเวลา ผู้ที่บรรลุพระอรหันต์มีจิตเกิดดับ แต่ไม่ปรุงเป็นอารมณ์
ปุจฉา
การรับรู้
กราบนมัสการครับ
1.อาการรับรู้ที่ปรากฏทางใจบางครั้งจริงบ้าง บางครั้งไม่จริงบ้าง เรียกว่าอะไรครับ
2. การรู้ที่แท้จริง คือการรู้ตามความเป็นจริงกับสิ่งที่มากระทบ โดยมิต้องกำหนดจิต เป็นเช่นนั้นหรือไม่ครับ
3. การรับรู้เรื่องภายนอกได้อย่าง ถูกต้อง แสดงว่าต้องมีพื้นฐานมา จากศีลที่ดีขึ้นตามลำดับ ประกอบกับรู้จักตนเองมากขึ้นใช่หรือไม่ครับ
วิสัชนา
1.เรียกว่า เจตสิก เครื่องปรุงจิต เรียกมายาขจิต เครื่องล่อหลอกจิต
2.การรับรู้ที่แท้จริงคือการรับรู้เจตสิก เครื่องปรุงจิต และการรับรู้ความเป็นไปแห่งกาย
3.ที่คุณว่ามามันก็ถูก แต่ที่ถูกที่สุดคือการได้พัฒนาตัวรู้ ให้พร้อมรับรู้ นั่นก็คือสติสัมปชัญญะนั่นเอง
ปุจฉา
นั่งสมาธิแล้วหลังค่อม
หลวงปู่ครับ ผมเพิ่งเริ่มหัดนั่งสมาธิ ได้พบปัญหาเกี่ยวกับการนั่งครับ คือว่าผมได้ ขยับนั่งให้รู้สึกกระดูกสันหลังตั้งตรงแล้ว แต่พอผ่อนคลายลง มันก็กลายเป็นหลังค่อมหน่อยๆ ครับ คือถ้าทำให้กระดูกสันหลังตั้งตรง มันต้องเกร็งส่วนขาและหลังเอาไว้น่ะครับ พอเกร็งไว้ก็กลายเป็นไม่ผ่อนคลายอีก เลยไม่รู้จะทำอย่างไรครับหลวงปู่ ช่วยชี้แนะด้วยครับ
วิสัชนา
แรกๆคุณลองนอนกับพื้นราบๆยกขาพาดไว้กับเก้าอี้หรือเตียงนอนแล้วเจริญสติ ต่อมาก็ลองหัดนั่งหลังตรงๆ ทำสลับกันเช่นนี้ทุกครั้งที่คุณรู้สึกเกร็งหลังและขา และที่คุณว่าพอนั่งๆ แล้วอยู่ดีๆหลังกลับโค้งลงอีก แสดงว่าคุณขาดสติปล่อยตัวตาม ความเคยชิน