xs
xsm
sm
md
lg

ปุจฉา-วิสัชนา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นอนหันศีรษะทิศไหนดี
ปุจฉา :
เรียนหลวงปู่ที่เคารพและนับถือ ดิฉันมีเรื่องอยากเรียน ถามหลวงปู่ว่าการให้ชีวิตสัตว์เป็นทาน โดยการไปซื้อปลาที่ตลาดมาปล่อยในแม่น้ำ ซึ่งดิฉันมักทำเป็นประจำ (แต่ไม่ชอบซื้อปลาที่เขาเอามาขายให้ปล่อย) จะมีอานิสงส์มากน้อยเพียงใดคะ และการทำแบบนี้จะสามารถอุทิศกุศลให้สัตว์อื่นๆได้หรือไม่คะ อ้อ มีอีกคำถามหนึ่งค่ะ (พี่สาวฝากถาม) คนเราควรจะนอน หันศีรษะไปทางทิศไหนดีคะ เพราะมีหลายคน บอกว่าต้องนอนทิศนั้นทิศนี้ นอนหันศีรษะไปทางทิศตะวันตกไม่ดี เพราะเป็นทิศของคนตาย ต้องหันไปทางทิศตะวันออก และหันไปทางทิศใต้ก็สู้ทิศเหนือไม่ได้ แต่ว่าพี่สาวบอกว่าบ้านเขาเป็นทาวน์เฮ้าส์ จัดลำบาก ทุกวันนี้ต้องนอนหันศีรษะไปทางทิศใต้ ไม่ทราบว่าถ้านอนผิดทิศจะมีโทษอย่างไรไหมคะ ขอขอบพระคุณล่วงหน้าที่หลวงปู่กรุณาตอบให้หายข้องใจค่ะ....
....................................................................................ปิยาภา
วิสัชนา : 1. ได้ เพราะผู้ให้ชีวิตย่อมเป็นเจ้าของชีวิต ผู้ให้ความสุขย่อมเป็นเจ้าของความสุข คนกำลังจะโดนฆ่า แล้วเราไปปลดปล่อยชีวิตเขา แน่นอน เขาย่อมรู้สึกสำนึกใน บุญคุณของเรา เมื่อมีโอกาสก็ต้องตอบแทนบุญคุณเรา เป็นเรื่องธรรมดา
2. ฉันเองก็นอนไปรอบทิศก็หลับดีไม่มีอะไร มันอยู่ที่คน ไม่ได้อยู่ที่ทิศ ให้นอนทิศที่เขาว่าดี ก็เห็นนอนไม่หลับเยอะแยะไป ทิศเหนือ ใต้ ออก ตก ไม่ได้ทำให้คนดีหรือไม่ดี เพราะคนจะดีหรือไม่ดี มันอยู่ที่ตัวเอง ทิศไม่ได้ทำให้ใครอัปรีย์หรือไม่อัปรีย์

นั่งสมาธิแล้วน้ำตาไหล
ปุจฉา :
นมัสการหลวงปู่พุทธะอิสระ ดิฉันไม่ค่อยมีเวลาไปปฏิบัติธรรมที่อื่น เลยใช้วิธีปฏิบัติเองที่บ้าน ศึกษาจากหนังสือ ฟังธรรม และวิธีปฏิบัติจากพระสงฆ์หลายๆรูป แต่บางครั้งทำไป แล้วก็ไม่รู้ว่าทำถูกหรือไม่ อย่างเช่นเวลานั่งสมาธิตอนดึกๆ ดิฉันจะรู้สึกสงบมาก นั่งไปเรื่อยๆแล้ว รู้สึกว่าน้ำตาไหลทุกครั้ง แม้กระทั่งเวลาฟังธรรม (จากเทป) น้ำตาก็ไหลเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ร้องไห้นะคะ มันไหลออกมาเอง ก็เลยอยากรู้ว่าการที่เกิด น้ำตาไหลนี้ มาจากสาเหตุอะไรคะ หรือว่าดิฉันได้ เข้าถึงธรรมแล้ว ถ้าอย่างนั้นดิฉันควรจะทำอย่างไร ต่อไปคะ..................................................................
......................................................................อรุณี
วิสัชนา
: น้ำตาไหลไม่ใช่ผลสำเร็จของการฟังธรรมหรือนั่งสมาธิ มันเป็นแค่ความรู้สึกเล็กๆ น้อยๆที่ซาบซึ้งต่อการปฏิบัติธรรม เป็นสภาวธรรม ชนิดหนึ่ง โดยอาการน้ำตาไหลนี้เกิดจากปีติ ความปีติซาบซ่าน ขนพองขนลุก น้ำตาไหล เป็นหนึ่งในปีติทั้ง 5 ก็เป็นเรื่องดี แต่อย่าไปหลงกับมัน เพราะถ้าหลงกับมันจะทำให้เราเมาอยู่อย่างนั้น ไม่ไปไหน ไม่พ้นจากองค์คุณแห่งปีติ 5 ไม่เข้าถึงองค์ฌานสมาบัติ ไม่เข้าถึง ความหมายของธรรมเบื้องสูง ก็นำมันเป็นแค่บรรทัดฐานที่จะยังให้สติตั้งมั่น สมาธิปรากฏ และปัญญาเกิดก็พอ
รักษา สร้างเสริม แต่ไม่สะสม
ปุจฉา : กราบพระคุณเจ้าหลวงปู่ ผมเองเพิ่งเริ่มปฏิบัติธรรม เพราะเกษียณจาก การงานแล้ว เลยมีเวลาว่างมาก ใจก็ไม่ต้อง กังวลกับการงานอะไร เท่าที่ผมได้ศึกษาและรับรู้จากการฟัง พระท่านจะสอนให้เรา มีสติอยู่กับปัจจุบัน โดยระลึกรู้อยู่ตลอดเวลาทั้งเดิน ยืน นั่ง นอน ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ ผมก็พยายามฝึกหัดปฏิบัติให้มี สติเท่าที่จะทำได้ในแต่ละวัน ทีนี้ผมก็เลยอยากจะทราบว่าถ้าทำไปเรื่อยๆอย่างนี้ จิตจะพัฒนาสูงขึ้นไปได้หรือไม่ครับ................
.........................................................สุชาติ
วิสัชนา
: ได้แน่นอน การพัฒนาจิตก็ เหมือนการพัฒนาวัตถุ เช่น การตัดหญ้า ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณหยุดตัดหญ้า หญ้ามันก็จะรกขึ้น แต่ถ้าคุณตัดไม่หยุด ตัดไม่เลิก หญ้ามันก็จะสั้นลงหรือคงเดิมที่เคยเป็น จิตก็เหมือนกัน มีสภาพที่จะต้องรักษา สร้างเสริม แต่ไม่ใช่สะสม รักษาก็คือรักษาสภาวะแท้ของจิต นั่นก็คือ ตัวรู้บริสุทธิ์ที่ต้องดำรงไว้ สร้างเสริมสติสำหรับกำกับจิตหรือกำกับตัวรู้นั้น ว่าอย่าให้รู้ผิด ให้รู้แต่เรื่องถูกต้อง เป็นกุศลมูลจิต เป็นส่วนกุศลคือความฉลาด รู้อย่างฉลาด อย่ารู้ด้วยความโง่เขลา เหล่านี้เรียกว่ารักษาและสร้างเสริม เป็นระบบบริหารและพัฒนาจิตอย่างหนึ่งที่เราต้องทำทุกขณะที่จิตเกิดดับ

(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 89 เม.ย. 51 โดย หลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม)
กำลังโหลดความคิดเห็น