xs
xsm
sm
md
lg

ปุจฉา-วิสัชนา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เป็นวิปัสสนาหรือเปล่า?
ปุจฉา :
นมัสการหลวงปู่ที่เคารพอย่างสูง ลูกได้เริ่ม ฝึกปฏิบัติการหายใจตามที่หลวงปู่สอน(จากการอ่านในหนังสือค่ะ) แล้วตอนนี้ลูกก็เริ่มทำสมาธิลองหัดพิจารณา ซากศพ โดยสมมติว่าตัวเองตายแล้ว พิจารณาร่างกายที่ ค่อยๆเปลี่ยนสภาพไปเรื่อยๆจากที่มีเนื้อหนัง จนกลายเป็นโครงกระดูก และสุดท้ายกลายเป็นเศษผุยผงป่นลงกับดิน ไม่เหลืออะไรเลย ลูกก็เลยอยากจะทราบว่าการพิจารณาแบบนี้ถือว่าเป็นวิปัสสนากรรมฐานหรือไม่ และอานิสงส์ที่ได้รับคืออะไรคะ.....................................................................................................................วรรณพร
วิสัชนา : วิปัสสนาทำให้เห็นแจ้ง เห็นวิเศษ เห็นต่าง เห็นแจ้งคือเห็นแจ้งตามความเป็น จริง เห็นวิเศษคือความเห็นนั้นมันทำให้เราลดการยึดถือการมีตัวตน ลดตัณหาอุปาทาน มานะทิฐิ ความทะยานอยาก และกามคุณทั้งปวงและอุปกิเลสทั้งหลาย เห็นต่างคือเห็นต่าง จากคนอื่นที่เห็นว่ามีตัวมีตนมีสวยงาม เพราะฉะนั้นเห็นแจ้ง เห็นวิเศษ เห็นต่าง เป็นคุณสมบัติของวิปัสสนา ผู้ที่ได้เห็นเช่นนี้ก็เป็นนักเจริญวิปัสสนา
การที่ได้มีโอกาสเห็นรูปร่างจากตัวตนกลายเป็นผุกร่อนย่อยสลายเป็นผุยผง เห็นสภาพ ตามเป็นจริงเช่นนี้ ทำให้เราเกิดปัญญาญาณ เกิดนิพพิทาญาณ คือความเบื่อหน่าย จิตก็คลายกำหนัด พ้นจากอาสวะที่ร้อยรัด เมื่อจิตคลายกำหนัด พ้นจากเครื่องร้อยรัดแล้วมันก็เป็นผลแห่งการเจริญปัญญาหรือวิปัสสนานั่นเอง

ทำบุญอย่างไรถึงได้เกิดเป็นมนุษย์
ปุจฉา :
กราบเรียนถามพระคุณเจ้าหลวงปู่พุทธะอิสระ ดิฉันเป็นคนชอบทำบุญสุนทาน สร้างกุศลผลบุญ ตายไปจะได้ไม่ลำบาก ชาติหน้าจะได้สบาย แต่ดิฉันก็มีข้อสงสัยอยากจะขอปุจฉาหลวงปู่สัก 2 ข้อ คือ 1.ดิฉันทราบว่าการเกิดเป็นมนุษย์ สามารถสร้างบุญกุศลได้มากกว่าเทวดา และยังบรรลุธรรมได้ด้วย ดิฉันคิดว่าชาตินี้ตัวเองคงยังไม่มีโอกาสบรรลุธรรม ดังนั้น หากว่าดิฉันจะต้องกลับมาเกิดอีก ดิฉันก็อยากเกิดเป็นมนุษย์ เลยอยากทราบว่าจะต้องทำบุญอย่างไรถึงจะได้เกิดเป็นมนุษย์ และข้อ 2.สมมติว่าวันนี้ดิฉันทำบุญด้วยการบริจาคเงินร่วมสร้างโบสถ์ สร้างพระ แต่ยังไม่ได้อุทิศบุญกุศล รุ่งเช้าจะสามารถอุทิศได้หรือไม่คะ และถ้าตอนเย็นอยากอุทิศอีกจะทำได้ไหม เพราะเคยได้ยิน บางคนบอกว่า ไม่จำเป็นต้องอุทิศบ่อยๆ และการอุทิศผลบุญนี้จะได้อานิสงส์อย่างไร ขอความเมตตาหลวงปู่ช่วยวิสัชนาให้ด้วยค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะ...............................................................................................................................กัญญา
วิสัชนา
: 1. รักษาศีล 5 เจริญภาวนา แผ่เมตตา และปฏิบัติธรรม เหล่านี้เป็นเหตุปัจจัยของการเกิดเป็นคน
2. อุทิศทั้งปีก็ได้ ถ้าคุณนึกขึ้นมาได้ หรือเห็นคนอื่นเขาทำ คุณก็ช่วยเขาอุทิศก็ได้ เพราะการอุทิศผลบุญเป็นเรื่องดี เจริญได้ทุกนาทียิ่งดีใหญ่ เพราะถือเป็นการเจริญเมตตา พระศาสดาสอนให้เราเจริญเมตตาแค่ ชั่วลัดนิ้วมือเดียวก็มีอานิสงส์มากมายมหาศาล เพราะเงินที่ว่าได้มายากแล้ว กว่าที่จะได้มา ต้องเสียหยาดเหงื่อแรงงาน เรายังกล้าสละให้เพื่อแลกมาซึ่งคำว่าบุญ เมื่อได้บุญมาแล้วก็กล้าที่จะสละแบ่งปันบุญที่ได้มายากนั้นให้กับผู้คนและสรรพสัตว์ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ให้ได้ยาก ทำได้ยาก เมื่อทำได้ก็ถือเป็นเรื่องดี พระพุทธเจ้าทรงยกย่องสรรเสริญ ผู้รู้ทั้งหลายก็นิยมชมชอบ
ผู้ที่เจริญบุญ แบ่งบุญ แล้วก็แผ่เมตตา รวมทั้งอุทิศส่วนบุญให้กับคนทั้งหลาย ผิวหน้า จะผ่องใส แววตาจะสดใส ปัญญาจะเจริญงอกงาม ทำต่อไปก็แล้วกัน ไม่ต้องคิดว่าเราทำน้อย แล้วมาอุทิศทั้งวันทั้งคืน เพราะการมีมีจิตที่เป็นพื้นฐานในส่วนกุศล เรียกว่ากุศลมูลจิต ดีกว่ามีจิตที่เป็นโลภะ โทสะ โมหะ

ขอวิธีแก้เครียดเพราะงาน
ปุจฉา :
นมัสการหลวงปู่พุทธะอิสระ ดิฉันมีเรื่องอยากขอกราบเรียนถามหลวงปู่ว่า ดิฉันเป็นคนที่ชอบทำอะไรให้มันเสร็จเร็วๆไม่ค้างคาไว้ จึงทำให้เครียดเสมอๆ ทั้งที่งาน บางชิ้นไม่จำเป็นต้องให้เสร็จในวันนั้นๆก็ได้ การทำแบบนี้จัดเป็นกิเลสประเภทโลภะ ผสมโทสะใช่หรือไม่คะ และทำอย่างไรจึงจะแก้นิสัยนี้ได้...........................................................................................................................................พลอย
วิสัชนา
: มันไม่เกี่ยวกับโลภะผสมโทสะ เพราะการที่คุณพยายามทำทุกอย่างให้สำเร็จ เสร็จสิ้นโดยเร็วพลัน ก็ถือว่าเป็นคนที่มีความเพียร ตั้งมั่น อดทนอดกลั้น เป็นคนที่มีธรรมะ แต่คุณใช้ธรรมะไม่เป็น การเครียดกับการทำงานก็เพราะว่าคุณวางใจไม่เป็น มันก็เลยต้อง ไปรับวิถีทางแห่งการร้อนรน ขมึงทึง จนทำให้กลายเป็นความเครียด
ฉันมักจะสอนลูกหลานว่า อย่าเอาใจไว้กับงาน แต่จงเอาใจไว้กับตัว เมื่องานได้จะได้ไม่ได้ใจ เวลางานเสียจะได้ไม่เสียใจ ในขณะที่มีใจอยู่กับตัวเรา เราจะมากมีไปด้วยสติ และพร้อมตั้งมั่นที่จะเผชิญต่อสถานการณ์ที่เฉพาะหน้า และแก้ไขมันได้อย่างฉับพลัน ความ เครียดก็ไม่มี และถ้าคิดจะทำงานให้มันไม่เครียด ทำให้เป็นระบบสบายๆก็คือ คุณต้องมีสติในขณะที่ดำเนินกิจกรรมการงานในเรื่องที่ทำ คำที่พูด สูตรที่คิด ถ้าคุณมีสติคุณก็จะรู้ว่า อะไรเป็นมลภาวะก็จะไม่รับมาเก็บไว้ในใจ


(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 88 มี.ค. 51 โดยหลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม)
กำลังโหลดความคิดเห็น