ความผ่อนคลายบำบัดโรค
(ต่อจากฉบับที่แล้ว)
ต่อมาที่สถาบันวิจัยทางกายและจิต (Mind-Body Medical Institute) ได้ทำการศึกษาในคนไข้ โดยสร้างโปรแกรมการฝึกหัดแก่คนไข้ให้เกิดความผ่อนคลาย โดยการใช้อาหาร การออกกำลังกาย การผ่อนคลายวิธีต่างๆ ดังที่กล่าวมาแล้ว การที่คนไข้ได้รับการฝึกหัดอยู่ติดต่อกันเป็นเวลา นานพอสมควร ช่วยให้ ผู้ป่วยหายจากโรคต่างๆ ได้ ดร. ริดชาร์ด เฟดแมน (Richard Friedman Phd.) ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยแห่งนี้ ได้สร้างผลงานอันน่าทึ่งอย่างมากมาย เช่น
การศึกษาในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง พบว่า ความดันโลหิต ลดลงมาก ผู้ป่วยไม้ต้องกินยา หรือใช้ยาลดลงอย่างมากทั้งชนิดและขนาด โดยใช้เวลาศึกษาอยู่ 3 ปี
การศึกษาผู้ป่วยที่มีอาการปวดเรื้อรัง พบว่าอาการปวดลดลง เคลื่อนไหวได้มากขึ้น ความเครียดน้อยลง อาการซึมเศร้าน้อยลง ผู้ป่วยต้องมาพบแพทย์เพื่อรับการดูแลลดลง
การศึกษาในผู้ป่วยที่นอนไม่หลับ พบว่า ร้อยละ 58 ของผู้ป่วย นอนหลับดีขึ้น หลังจากฝึกไปแล้ว 6 เดือน ร้อยละ 91 ใช้ยาลดลงหรือหยุดยาได้
การศึกษาในสตรีมีบุตรยากโดย ไม่ทราบสาเหตุ พบว่า ร้อยละ 42 ตั้งครรภ์และร้อยละ 38 คลอดบุตร ออกมาปกติ ผู้ป่วยมีความเครียดลดลง ซึมเศร้าลดลงในระหว่างตั้งครรภ์
การศึกษาในผู้ป่วยที่มีโรคทางกาย ซึ่งมีสาเหตุทางจิตใจ (Psychosomatic disorders) ซึ่งต้อง ไปพบแพทย์บ่อยๆ เมื่อมีอาการ พบว่าสามารถลดการไปพบแพทย์ลงได้ ร้อยละ 50
การศึกษาในสตรีที่มีอาการก่อนมีประจำเดือน (Premen-strualsyndrome)พบว่า อาการลด ลงร้อยละ 57 คนไข้ที่มีอาการมาก จะได้ผลดีในการฝึกการผ่อนคลาย
การศึกษาในผู้ป่วยโรคหัวใจเต้นไม่ปกติ (Cardiac arrhy-thmias) พบว่า อาการเต้นผิดปกติ ของหัวใจน้อยลง
การศึกษาในผู้ป่วยที่มีความ เครียดและอาการซึมเศร้า พบว่า อาการต่างๆ ลดน้อยลง
การศึกษาในผู้ป่วยที่ต้องได้รับการตรวจเอ็กซเรย์ ซึ่งก่อให้เกิดความเจ็บปวด ผู้ป่วยจะมีอาการปวดและมีความกังวลใจน้อยลง การใช้ยาระงับอาการปวดหรือระงับความเครียดน้อยลงหนึ่งในสาม
การศึกษาผู้ป่วยผ่าตัดเปิดหัวใจ (Open-heart surgery)พบว่า ผู้ป่วยเกิดอาการหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะน้อยลง และมีความวิตกกังวลในการผ่าตัดน้อยลง
การศึกษาในผู้ป่วยปวดศีรษะแบบไมเกรนและแบบกลุ่ม (Cluster Headaches) พบว่า ผู้ป่วยเกิดอาการปวดศีรษะจำนวนครั้งน้อยลง และความรุนแรงก็ลดลง
จะเห็นได้ว่า โรคต่างๆ ที่มีสาเหตุมาจากความเครียด หรือความเครียดทำให้โรคต่างๆ เหล่านั้นเลวลง จะสามารถแก้ไขได้โดย ใช้การฝึกความผ่อนคลาย ซึ่งการ ศึกษาที่ได้แสดงมานี้เป็นการศึกษา ของ ดร.เบนสัน และคณะ ได้ ศึกษาที่โรงพยาบาลเดคอนเนต (Deaconess Hospital) ซึ่งเป็นโรงพยาบาลในเครือมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด โดยสร้างศูนย์วิจัยทาง การแพทย์กายและจิต (Mind-Body Medical institute) ขึ้นที่นี่
ดังนั้น การเรียนรู้เรื่องการฝึก หัดการผ่อนคลายจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนรุ่นใหม่ในการดูแลสุขภาพตนเอง ป้องกันไม่ให้เกิดโรค และรักษาโรคที่เราเป็นอยู่ ซึ่ง ดร.เบนสัน แสดงให้เห็นแล้วว่า สามารถรักษาโรคให้หายได้โดยไม่ต้องใช้ยา หรือทำให้ใช้ยาน้อยลง เป็นการดูแลตนเองร่วมกับการ รักษาของแพทย์ โรคบางอย่างที่รักษาให้หายขาดไม่ได้ ก็มีอาการดีขึ้น คุณภาพชีวิตดีขึ้น
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 90 พ.ค. 51 โดยนพ.แพทย์พงษ์ วรพงศ์พิเชษฐ)
(ต่อจากฉบับที่แล้ว)
ต่อมาที่สถาบันวิจัยทางกายและจิต (Mind-Body Medical Institute) ได้ทำการศึกษาในคนไข้ โดยสร้างโปรแกรมการฝึกหัดแก่คนไข้ให้เกิดความผ่อนคลาย โดยการใช้อาหาร การออกกำลังกาย การผ่อนคลายวิธีต่างๆ ดังที่กล่าวมาแล้ว การที่คนไข้ได้รับการฝึกหัดอยู่ติดต่อกันเป็นเวลา นานพอสมควร ช่วยให้ ผู้ป่วยหายจากโรคต่างๆ ได้ ดร. ริดชาร์ด เฟดแมน (Richard Friedman Phd.) ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยแห่งนี้ ได้สร้างผลงานอันน่าทึ่งอย่างมากมาย เช่น
การศึกษาในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง พบว่า ความดันโลหิต ลดลงมาก ผู้ป่วยไม้ต้องกินยา หรือใช้ยาลดลงอย่างมากทั้งชนิดและขนาด โดยใช้เวลาศึกษาอยู่ 3 ปี
การศึกษาผู้ป่วยที่มีอาการปวดเรื้อรัง พบว่าอาการปวดลดลง เคลื่อนไหวได้มากขึ้น ความเครียดน้อยลง อาการซึมเศร้าน้อยลง ผู้ป่วยต้องมาพบแพทย์เพื่อรับการดูแลลดลง
การศึกษาในผู้ป่วยที่นอนไม่หลับ พบว่า ร้อยละ 58 ของผู้ป่วย นอนหลับดีขึ้น หลังจากฝึกไปแล้ว 6 เดือน ร้อยละ 91 ใช้ยาลดลงหรือหยุดยาได้
การศึกษาในสตรีมีบุตรยากโดย ไม่ทราบสาเหตุ พบว่า ร้อยละ 42 ตั้งครรภ์และร้อยละ 38 คลอดบุตร ออกมาปกติ ผู้ป่วยมีความเครียดลดลง ซึมเศร้าลดลงในระหว่างตั้งครรภ์
การศึกษาในผู้ป่วยที่มีโรคทางกาย ซึ่งมีสาเหตุทางจิตใจ (Psychosomatic disorders) ซึ่งต้อง ไปพบแพทย์บ่อยๆ เมื่อมีอาการ พบว่าสามารถลดการไปพบแพทย์ลงได้ ร้อยละ 50
การศึกษาในสตรีที่มีอาการก่อนมีประจำเดือน (Premen-strualsyndrome)พบว่า อาการลด ลงร้อยละ 57 คนไข้ที่มีอาการมาก จะได้ผลดีในการฝึกการผ่อนคลาย
การศึกษาในผู้ป่วยโรคหัวใจเต้นไม่ปกติ (Cardiac arrhy-thmias) พบว่า อาการเต้นผิดปกติ ของหัวใจน้อยลง
การศึกษาในผู้ป่วยที่มีความ เครียดและอาการซึมเศร้า พบว่า อาการต่างๆ ลดน้อยลง
การศึกษาในผู้ป่วยที่ต้องได้รับการตรวจเอ็กซเรย์ ซึ่งก่อให้เกิดความเจ็บปวด ผู้ป่วยจะมีอาการปวดและมีความกังวลใจน้อยลง การใช้ยาระงับอาการปวดหรือระงับความเครียดน้อยลงหนึ่งในสาม
การศึกษาผู้ป่วยผ่าตัดเปิดหัวใจ (Open-heart surgery)พบว่า ผู้ป่วยเกิดอาการหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะน้อยลง และมีความวิตกกังวลในการผ่าตัดน้อยลง
การศึกษาในผู้ป่วยปวดศีรษะแบบไมเกรนและแบบกลุ่ม (Cluster Headaches) พบว่า ผู้ป่วยเกิดอาการปวดศีรษะจำนวนครั้งน้อยลง และความรุนแรงก็ลดลง
จะเห็นได้ว่า โรคต่างๆ ที่มีสาเหตุมาจากความเครียด หรือความเครียดทำให้โรคต่างๆ เหล่านั้นเลวลง จะสามารถแก้ไขได้โดย ใช้การฝึกความผ่อนคลาย ซึ่งการ ศึกษาที่ได้แสดงมานี้เป็นการศึกษา ของ ดร.เบนสัน และคณะ ได้ ศึกษาที่โรงพยาบาลเดคอนเนต (Deaconess Hospital) ซึ่งเป็นโรงพยาบาลในเครือมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด โดยสร้างศูนย์วิจัยทาง การแพทย์กายและจิต (Mind-Body Medical institute) ขึ้นที่นี่
ดังนั้น การเรียนรู้เรื่องการฝึก หัดการผ่อนคลายจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนรุ่นใหม่ในการดูแลสุขภาพตนเอง ป้องกันไม่ให้เกิดโรค และรักษาโรคที่เราเป็นอยู่ ซึ่ง ดร.เบนสัน แสดงให้เห็นแล้วว่า สามารถรักษาโรคให้หายได้โดยไม่ต้องใช้ยา หรือทำให้ใช้ยาน้อยลง เป็นการดูแลตนเองร่วมกับการ รักษาของแพทย์ โรคบางอย่างที่รักษาให้หายขาดไม่ได้ ก็มีอาการดีขึ้น คุณภาพชีวิตดีขึ้น
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 90 พ.ค. 51 โดยนพ.แพทย์พงษ์ วรพงศ์พิเชษฐ)