xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวสารบ้านเรา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เผยพระโกศจันทน์ใช้เวลาสร้าง 3 เดือน สรุปใช้‘ลายใบเทศ’ประดับ
• กรุงเทพฯ :
นายอารักษ์ สังหิตกุล หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) และประธานวิศวกรรมโครงสร้างพระเมรุ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ กล่าวว่า โครงสร้างพระโกศจันทน์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ จะใช้ลวดโลหะไร้สนิม ดัดตามรูปร่าง และขนาดสถาปัตยกรรมที่ น.อ.อาวุธ เงินชูกลิ่น ประธานคณะทำงานออกแบบฯ ได้กำหนดไว้ เพื่อนำมาเชื่อมต่อกันขึ้นเป็นรูป แล้วจึงนำลวดตาข่าย บุทับโครงภายนอกอีกชั้นไว้ติดแผ่น ไม้จันทน์ที่ฉลุลวดลายไทยแต่ละแผ่นมาประกบติดกัน ซึ่งการจัดโครงสร้างและประดับไม้จันทน์ลายไทยพระโกศจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน
ด้าน นายนิยม กลิ่นบุปผา นายช่างศิลปกรรม 9 ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ (ชช.) ประธานกลุ่มช่างพระโกศจันทน์ และส่วนประกอบพระเมรุ กล่าวว่า การตบแต่งลวดลายศิลปกรรมไทยพระโกศจันทน์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ จะต้องฉลุลายไทย ได้แก่ ลายใบเทศ ซึ่งถือว่าเป็น ลายต้นตระกูลสูงของลายศิลปะไทย ที่มีอยู่ เช่น ลายกระหนก ลายก้านแย่ง ลายเครือเถา ลายกลีบบัว ลายก้านขด ลายเทพพนม ลายพุดตาล และลายกระจังแบบต่างๆ
“ลายใบเทศจะเหมือนลายกนก เปลวหรือขนของปีกครุฑ มีความอ่อนช้อยกว่า และลายใบเทศส่วนใหญ่จะใช้เกี่ยวข้องกับเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน เมื่อครั้งสร้างพระโกศจันทน์สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 ก็ได้ประดับลายใบเทศ”

โปรดเกล้าฯสถาปนาพระเกียรติยศพระพี่นางฯ
• กรุงเทพฯ :
เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2551 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินพร้อมพระบรมวงศานุวงศ์ ไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวัง ในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุประทาน 7 วัน พระราชทานพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นาง เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้อาลักษณ์อ่านประกาศสถาปนาพระเกียรติยศ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ดังนี้
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร์ สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ประกาศว่า
โดยที่ทรงพระอนุสรณ์ถึงสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 2 มกราคม พุทธศักราช 2551 ว่า เป็นสมเด็จพระโสทรเชษฐภคินี ที่ทรงเคารพนับถือในฐานะที่ทรงมีอุปการคุณมาแต่หนหลัง อีกทั้งทรงพระคุณแก่บ้านเมืองเป็นอเนกปริยาย เป็นที่ประจักษ์แก่ตาแก่ใจของมหาชนทั่วไป เมื่อเสด็จสิ้นพระชนม์ เป็นเหตุให้พระองค์ และประชาชนทุกชนชั้นอาลัย ระลึกถึงพระคุณเป็นอันมาก
ทรงพระราชดำริว่า สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ พระองค์นั้น ทรงพระเกียรติคุณ เป็นที่เชิดชูแห่งพระราชวงศ์ ควรได้รับพระเกียรติยศใหญ่ยิ่งโดยอนุโลมตามโบราณราชประเพณี จึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เจ้าพนักงานจัดเศวตฉัตร 7 ชั้น กางกั้นพระโกศพระราชทานเป็นเครื่องเฉลิมพระเกียรติยศให้ปรากฏสืบไป
ประกาศ ณ วันที่ 9 มกราคม พุทธศักราช 2551 เป็นปีที่ 63 ในรัชกาลปัจจุบัน

ทูลเกล้าฯถวายแบบร่างพระเมรุ ‘สมเด็จพระพี่นางฯ’
• กรุงเทพฯ :
นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุ และบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถ และพระยานมาศ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งมี นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า
น.อ.อาวุธ เงินชูกลิ่น ประธานคณะทำงานออกแบบและจัดสร้างพระเมรุ ได้เสนอรายละเอียดการก่อสร้างพระเมรุ และอาคารประกอบ การซ่อมราชรถ ราชยาน ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ประกอบด้วย การก่อสร้างพระเมรุ และอาคารภายในมณฑลพิธี ท้องสนามหลวง โดยมีรายละเอียด ประกอบด้วย 1.พระเมรุ 2.ซ่าง 4 หลัง สำหรับพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม 3. พระที่นั่งทรงธรรม ประกอบด้วย ห้องที่ประทับพักพระอิริยาบถ อาสนะพระ ที่ประทับเวลามีพระราชพิธี ที่ประทับพระบรมวงศานุวงศ์ ที่นั่งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ห้องน้ำ 2 ห้อง (สำหรับพระสงฆ์ 1 ห้อง) ลิฟต์ 2 ที่ (ด้านหน้าและด้านหลัง) 4.ศาลาลูกขุน ที่นั่งสำหรับข้าราชการผู้มาเข้าเฝ้า 5.ทับเกษตร 8 หลัง ที่นั่งข้าราชการฟังสวดพระอภิธรรม 6.ทิม 6 หลัง ประกอบด้วย ทิมเครื่องประโคม ทิมสำหรับพระสงฆ์ ทิมเจ้าพนักงาน 7.ห้องสุขา 2 หลัง 8.หอเปลื้อง 1 หลัง และเสาฉนวน 9.รั้วราชวัตร 10. ภูมิสถาปัตยกรรม ประกอบด้วย เสาไฟฟ้า ต้นไม้ ดอกไม้ ตกแต่งบริเวณ เครื่องตกแต่งอื่นๆ เช่น เสาหงส์ เสาตุง 11.เครื่องประกอบพระเมรุ ประกอบด้วย จิตกาธาน ฉัตร รูปเทวดาเชิญฉัตร และเครื่องสูง สัตว์หิมพานต์ พระโกศจันทน์ ฉากบังเพลิง ม่าน สะพานเกริน และลิฟต์
นายเกรียงไกร กล่าวต่อไปว่า ส่วนสิ่งก่อสร้างนอกมณฑลโดยรอบพิธีท้องสนามหลวง ประกอบด้วย 1.เกยลา หน้าพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท 2.พลับพลายกหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม สำหรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ส่งพระศพขึ้นราชรถ 3.พลับพลายกที่หน้าพระที่นั่งสุทไธสวรรค์ปราสาท สำหรับเจ้านายฝ่ายในประทับส่งพระศพ 4.พลับพลายกที่ท้องสนามหลวง สำหรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับรับพระศพลงจากราชรถ 5.โรงมหรสพ 3 โรง หากมีการโปรดเกล้าฯ ให้ก่อสร้างเพิ่มเติม 6.ที่สำหรับประชาชนวางดอกไม้จันทน์ 7.โรงขยายแบบ 8.โรงปฏิบัติงานด้านศิลปกรรม 2 โรง 9.ก่อสร้างถนนทางเดิน ทางเท้า พื้นลาน 10.รื้อ ถอน ย้าย ติดตั้ง ระบบไฟฟ้า ประปา และทำรั้วใหม่ 11.ทำรั้วชั่วคราว 12.ซ่อม รื้อ เกาะกลางถนน สายไฟฟ้า สายโทรศัพท์ และอื่นๆ
“ขณะนี้ทราบว่าทางสำนักนายกรัฐมนตรีได้นำแบบพระเมรุขึ้นทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ต้องรอพระบรมราชวินิจฉัยก่อนที่จะดำเนินการต่อไป” ทั้งนี้ การดำเนินงานจัดสร้างพระเมรุ และซ่อมแซมราชรถ ราชยานทั้งหมด จะแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน อย่างช้าที่สุดไม่เกินวันที่ 10 ตุลาคมนี้ เช่นเดียวกับการออกแบบและก่อสร้างพระโกศจันทน์ก็จะอยู่ในช่วงระยะเวลาเดียวกัน
สำหรับฤกษ์บวงสรวงเพื่อลงเสาเอกในการก่อสร้างพระเมรุที่ท้องสนามหลวงนั้น จะอยู่ ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ตั้งแต่ 1-15 กุมภาพันธ์ โดยต้องรอกำหนดฤกษ์จากสำนักพระราชวัง
น.อ.อาวุธ เงินชูกลิ่น เปิดเผยว่า สถาปัตยกรรมพระเมรุสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ยึดแนวความคิดจำลองรูปเขาพระสุเมรุและสะท้อนพระอุปนิสัยและพระจริยวัตรที่นุ่มนวล สง่างามของพระองค์ไว้ในองค์ประกอบพระเมรุ และแต่ละชั้นของพระเมรุมีความหมายแฝง อยู่ ตั้งแต่หน้าบันมุขพระเมรุ 4 มุข หรือด้านประดับพระลัญจกร เหนือขึ้นเป็นกร 5 ชั้นบันแถลง (หมายถึงวิมานของแต่ละชั้น) ถัดขึ้นไปเป็นบัวกลุ่ม 5 ชั้นแสดงถึงความอ่อนโยน เมื่อดูโครงสร้างพระเมรุจะเบา คล้ายๆ ดอกบัวดอกไม้รองรับยอดปลี ถัดขึ้นไปอีกจะมีเม็ด เล็กๆ เรียกว่า เม็ดน้ำค้าง ประดับคั่นกลางปลีอยู่ก่อนถึงยอดเศวตฉัตร 7 ชั้น เม็ดน้ำค้าง ในความหมายสถาปัตยกรรมไทย ไม่ว่าจะเป็นยอดปราสาท มณฑป ยอดเกี้ยว คือเป็นที่สุดยอดของทุกอย่างของความบริสุทธิ์ ความงามเทียบได้กับสีขาว ในทางคติความเชื่อพุทธศาสนาหมายถึงขั้นสุดท้ายหรือสิ่งท้ายสุดขึ้นสวรรค์ เช่นเดียวกับคติความเชื่อเรื่องบัวในพุทธประวัติ ชาดก ตำนาน และพระสูตรต่างๆ ที่คนไทยนำมาเป็นดอกไม้มงคล
น.อ.อาวุธ กล่าวอีกว่า นักสถาปัตยกรรมไทยตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันนำเม็ดน้ำค้างมาเป็นองค์ประกอบรูปแบบสถาปัตยกรรมไทยบนยอดปลีปลายแหลม เวลามองไกลๆ เหมือนปลายแหลมจะขาด แต่มีเม็ดน้ำค้างมาคั่น จะทำให้เห็นมีจุดต่ออยู่ของปลายแหลม ถัดจาก เม็ดน้ำค้างขึ้นไปบนยอดสุดปักสัปตปฎลเศวตฉัตร 7 ชั้นเป็นเครื่องราชูปโภคประดับพระราชอิสริยยศ สำหรับความสูงของพระเมรุจากฐานถึงยอดอยู่ราวประมาณ 35 เมตร

เมืองคอนเตรียมพร้อม‘แห่ผ้าขึ้นธาตุ’ วันมาฆบูชา
• นครศรีธรรมราช :
นายสุนทร ประทุมทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานในการประชุมผู้ทรงคุณวุฒิและหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดงานประเพณีมาฆบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุ ประจำปี 2551 ซึ่งในปีนี้มีกำหนดจัดงานขึ้นระหว่างวันที่ 19-21 กุมภาพันธ์ 2551 ณ บริเวณวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช โดยรูปแบบการจัดงานจะเน้นกิจกรรมเพื่อการส่งเสริมพระพุทธศาสนา การปฏิบัติธรรม และบรรยาย ธรรมเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล กิจกรรมนั่งสมาธิสวดพระพุทธมนต์ภายในพระวิหารหลวง การจัดกิจกรรมวาดภาพและระบายสีภาพพระพุทธประวัติ และการจัดนิทรรศการวิถีไทย วิถีพุทธ
นอกจากนี้ในส่วนของกิจกรรมพิธีกวนข้าวมธุปายาสหรือข้าวยาคู ซึ่งถือเป็นกิจกรรมที่สำคัญในงานประเพณีมาฆบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุ จะมีขึ้นในเวลา 17.30 น. ของวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 255 ขณะที่พิธี สมโภชผ้าพระบฏพระราชทาน จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะมีขึ้นในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2551 ณ บริเวณศาลาประชาคม อำเภอปากพนัง ก่อนจะมีการตั้งขบวนแห่และประกอบพิธีอัญเชิญ ผ้าพระบฏพระราชทานดังกล่าวมายังศาลาประดู่หก สนามหน้าเมือง แล้วเคลื่อนขบวนไปตามถนนราชดำเนิน ไปยังวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เพื่อประกอบพิธีอัญเชิญผ้าพระบฏขึ้นห่มองค์พระพระบรมธาตุเจดีย์ ในเวลา ประมาณ 17.30 น. ของวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2551

ทำบุญ 50 วัน 100 วัน พระพี่นาง พร้อมกันทั่วประเทศ
• กรุงเทพฯ :
นายแก้วขวัญ วัชโรทัย เลขาธิการพระราชวัง ในฐานะรองประธานกรรมการฝ่ายจัดการพระราชพิธีพระราชทาน เพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ กล่าวว่า คณะกรรมการฯ ได้เห็นชอบให้จัดพิธีทำบุญตักบาตร ถวายเป็นพระราชกุศลในโอกาสครบ 50 วัน ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2551 และครบ 100 วัน ในวันที่ 11 เมษายน 2551 ในกรุงเทพมหานครได้มอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เตรียมจัดพิธีที่ท้องสนามหลวง หรือพระลานพระราชวังดุสิต ส่วนในต่างจังหวัด มอบให้กระทรวงมหาดไทยแจ้งให้ทุกจังหวัดจัดพิธีตามความเหมาะสมพร้อมกับที่กรุงเทพมหานคร โดยเชิญชวนหน่วยงานภาคเอกชน และประชาชนทั่วไปร่วมในพิธีด้วย

ศรีลังกามอบหน่อต้นพระศรีมหาโพธิ์ถวายเป็นพระกุศลแด่ ‘พระพี่นางฯ’
• ศรีสะเกษ :
เมื่อเร็วๆนี้ ณ สำนักสงฆ์ดำรงพุทธธรรม ต.หนองหญ้าลาด อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พระธรรมฐิติญาณ เจ้าคณะภาค 10 (ธรรมยุต) รับประทานหน่อต้นพระศรีมหาโพธิ์จากสมเด็จพระสังฆราช อุตุกะมะ ศรีพุทธรักขิตะ รัตนะ ปาล มหานายกะ เถระ แห่งประเทศศรีลังกา เพื่อถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และเพื่อให้สำนักสงฆ์ดำรงพุทธธรรม เป็นลานบุญลานธรรมและเป็นศูนย์รวมการบำเพ็ญกุศลบารมีต่างๆรวมถึงการประพฤติปฏิบัติพระกรรมฐานเจริญจิตภาวนา ฝึกสติ สมาธิ ปัญญา เพื่อมรรคผล
พร้อมกันนี้ พระพรหมวชิรญาณ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา กรรมการมหาเถรสมาคม พร้อมพระราชกิตติรังสี รองเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ และนายไมตรี อินทุสุต รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ รวมทั้งข้าราชการและประชาชนร่วมในพิธีปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์ ซึ่งเป็นหน่อจากต้นปฐมตรัสรู้ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ประเทศศรีลังกา ซึ่งมีอายุกว่า 2,500 ปี
พระธรรมฐิติญาณ กล่าวว่าต้นพระศรีมหาโพธิ์หากแตกหน่อ หรือแตกเมล็ดออกมา ทางการของประเทศศรีลังกาจะขึ้นทะเบียนไว้ ก่อนนำไปแจกให้กับพุทธสถานทั่วประเทศ สำหรับประเทศไทยนั้น ได้รับมอบหน่อพระศรีมหาโพธิ์มา 2 หน่อ แบ่งไปปลูกที่วัดในอ.แก่งคอย จ.สระบุรี และที่สำนักสงฆ์ดำรงพุทธธรรมแห่งนี้

สมเด็จพระเทพฯโปรด ใช้ไม้จันทน์ล้ม ทำพระโกศ
• ประจวบคีรีขันธ์ :
เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 51 นายสรรชัย เทียมทวีสิน ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักพระราชวัง ฝ่ายพระราชพิธี พร้อมด้วยนายเฉลิมศักดิ์ วานิชสมบัติ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และนายประสงค์ พิทูรกิจจา ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เดินทางไปที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี เพื่อประกอบพระราชพิธีตัดไม้จันทน์หอมที่ยืนต้นตายจำนวน 3 ต้น ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่โปรดฯให้เลือกไม้จันทน์ที่ล้มขอน คือ ไม้ที่ตายแล้ว เพื่อใช้ในการจัดสร้างพระโกศ งานพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ ฯ
นายฉัตรชัย ปิ่นเงิน ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าฝ่ายโหรพราหมณ์ สำนักพระราชวัง เป็นเจ้าพิธีอ่านประกาศบวงสรวง อัญเชิญพระแก้วมรกต พระสยามเทวาธิราช สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพระบรมมหาราชวัง เชิญเทพยดาฟ้าดิน เพื่อประกอบพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ ในการประกอบพระราชพิธี ตัดต้นไม้ในป่า และทำการสวดมนต์อธิษฐานจิต ก่อนที่จะประกอบพิธีตัดไม้จันทน์หอมจำนวน 3 ต้น
สำหรับไม้จันทน์หอมทั้ง 3 ต้น เนื้อไม้เป็นแก่นสีดำ มีกลิ่นหอม ซึ่งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จะประสานงานกับกรม ศิลปากร เพื่อทำการแปรรูปให้ตามความต้องการในการใช้อีกครั้งหนึ่ง

พศ.เตรียมทำโปสการ์ด ‘มาฆบูชา’ แจก แทรกหลักธรรม กระตุ้นปฏิบัติบูชา
• นครปฐม :
นายอำนาจ บัวศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานเลขาธิการมหาเถรสมาคม(สถ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคม(มส.) ครั้งที่ 2/2551 ว่า ที่ประชุม มส.ได้มอบ หมายให้พระพรหมวชิรญาณ กรรมการ มส. เจ้าอาวาสวัดยานนาวา เป็นประธานฝ่ายบรรพชิตในการจัดงานวันมาฆบูชา ในภาพรวมที่ท้องสนามหลวงในปีนี้
สำหรับในส่วนของพุทธมณฑล ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-21 กุมภาพันธ์ 51 จะมีกิจกรรมการปฏิบัติบูชา ในหลายรูปแบบ และกิจกรรมพิเศษ เช่น การแข่งขันตอบปัญหาหลักธรรมทางพุทธศาสนา จากทั่วประเทศ โดยอาจจะให้รางวัลผู้ชนะในการไปเยือนสังเวชนียสถาน เพื่อให้ตระหนักถึงวันสำคัญของวันมาฆบูชาให้มากขึ้น นอกจากนี้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) จะจัดทำโปสการ์ดวันมาฆบูชา แจกจ่ายไปยังส่วนราชการ โรงเรียน และประชาชนทั่วไป
“เราจะทำรูปแบบให้ดูสวยงามเก๋ไก๋ พร้อมคติธรรมที่ควรจะยึดถือปฏิบัติ อาจมีหลายแบบ เพื่อเป็นการเผยแพร่หลักธรรมไปด้วยในตัว นอกจากนี้อาจจะมีการประกวดจัดทำเวปไซต์ทางพุทธศาสนา ที่ให้แง่คิดดีๆในการปฏิบัติธรรม เราอยากทำให้วันมาฆบูชา เป็นจุดบันดาลใจ มิใช่แค่เป็นงานประเพณีที่มาเวียนเทียนกันเท่านั้น เพื่อให้เกิดกระแสของ การปฏิบัติบูชากันมากขึ้น”
สำหรับโปสการ์ดดังกล่าว ผอ.สถ.กล่าวว่า หากเริ่มต้นจุดกระแสได้ดีในวันมาฆบูชา ก็อาจจะมีต่อเนื่องไปเรื่อยๆเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์และเผยแผ่ศาสนา และอาจจัดทำเป็นโปสเตอร์เพิ่มขึ้นด้วย

(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 87 ก.พ. 51 โดยมรรคา)
กำลังโหลดความคิดเห็น