xs
xsm
sm
md
lg

บวงสรวงไม้จันทน์หอม คาดพระโกศ3เดือนเสร็จ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สำนักพระราชวังประกอบพระราชพิธีตัดไม้จันทน์หอมยืนต้นตายจำนวน 3 ต้นที่กุยบุรี เพื่อใช้ในการจัดสร้างพระโกศ งานพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ด้านกระทรวงวัฒนธรรมเผยการสร้างพระโกศจันทน์ใช้เวลาประมาณ 3 เดือน ส่วนการตบแต่งทางศิลปกรรมสรุปชัดใช้ “ลายใบเทศ” อันเป็นลายต้นตระกูลสูงของลายศิลปะไทย ระบุก่อนหน้านี้เคยใช้ในการสร้างโกศจันทน์สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 มาแล้ว

วานนี้ (20 ม.ค.) เวลา 07.05 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง เพื่อทรงประกอบพิธีถวายภัตตาหารเช้า ในการพระพิธีธรรมรับพระราชทานฉันเช้า แด่พระสงฆ์จำนวน 8 รูป จากวัดราชสิทธาราม และวัดสระเกศ ในพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล พระราชทานพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง

จากนั้นในช่วงค่ำ เวลา 18.50 น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จพร้อมด้วยทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี มายังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ในการทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสดับพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ โดยมีพระสงฆ์จากวัดอนงคาราม และระฆังโฆษิตาราม จำนวน 8 รูปเป็นพระผู้สวดพระพิธีธรรม

ทั้งนี้มีคณะบุคคลที่ขอเข้าร่วมฟังพระพิธีธรรมสวดอภิธรรมพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ วานนี้ระหว่างเวลา 06.00 -22.00 น. ทั้งหมด 7 คณะ ได้แก่กระทรวงศึกษาธิการ,สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้ง หรือ กกต.,สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา,ศาลยุติธรรม,คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล,สำนักงานเลขาธิการ สภาผู้แทนราษฎร และชมรม – สภาลูกเสือชาวบ้านกรุงเทพมหานคร

**บวงสรวงไม้จันทน์หอม
วันเดียวกันนายสรรชัย เทียมทวีสิน ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักพระราชวัง ฝ่ายพระราชพิธี พร้อมด้วยนายเฉลิมศักดิ์ วานิชสมบัติ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และนายประสงค์ พิทูรกิจจา ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เดินทางไปที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี เพื่อประกอบพระราชพิธีตัดไม้จันทน์หอมที่ยืนต้นตายจำนวน 3 ต้น เพื่อใช้ในการจัดสร้างพระโกศ งานพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ ฯ โดยมีการประกอบพิธีบวงสรวงเพื่อตัดไม้จันทน์หอม เมื่อเวลา 11.19 น.

สำหรับขั้นตอนนั้นเริ่มจากประธานในพิธีสรงน้ำ เจิมต้นจันทน์ทั้ง 3 ต้น โปรยดอกไม้ จากนั้นจุดธูปเทียนเครื่องบวงสรวง จุดธูปหางเพื่อปักบนเครื่องบวงสรวง จากนั้นจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย โหรหลวงลั่นฆ้องชัย เป่าสังข์ แกว่งบัณเฑาะว์

นายฉัตรชัย ปิ่นเงิน ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าฝ่ายโหรพราหมณ์ สำนักพระราชวัง เป็นเจ้าพิธีอ่านประกาศบวงสรวง อัญเชิญพระแก้วมรกต พระสยามเทวาธิราช สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพระบรมมหาราชวัง เชิญเทพยดาฟ้าดิน เพื่อประกอบพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ ในการประกอบพระราชพิธีตัดต้นไม้ในป่า และทำการสวดมนต์อธิษฐานจิต ก่อนที่จะประกอบพิธีตัดไม้จันทน์หอมจำนวน 3 ต้น

สำหรับไม้จันทน์หอมทั้ง 3 ต้น เนื้อไม้เป็นแก่นสีดำ มีกลิ่นหอม อย่างไรก็ดี วานนี้เป็นการประกอบพระราชพิธีตัดต้นจันทน์หอมเท่านั้น แต่ยังไม่ได้ทำการตัดจริง ซึ่งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จะประสานงานกับกรมศิลปากร เพื่อทำการแปรรูปให้ตามความต้องการในการใช้อีกครั้ง

**ใช้เวลาสร้างพระโกศ 3 เดือน
นายอารักษ์ สังหิตกุล หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) และประธานวิศวกรรมโครงสร้างพระเมรุ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ กล่าวว่า โครงสร้างพระโกศจันทน์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ จะใช้ลวดโลหะไร้สนิม ดัดตามรูปร่าง และขนาดสถาปัตยกรรมที่ น.อ.อาวุธ เงินชูกลิ่น ประธานคณะทำงานออกแบบฯ ได้กำหนดไว้ เพื่อนำมาเชื่อมต่อกันขึ้นเป็นรูป แล้วจึงนำลวดตาข่ายบุทับโครงภายนอกอีกชั้นไว้ติดแผ่นไม้จันทน์ที่ฉลุลวดลายไทยแต่ละแผ่นมาประกบติดกัน ซึ่งการจัดโครงสร้างและประดับไม้จันทน์ลายไทยพระโกศจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน เพราะมีความละเอียดอ่อน และเพื่อให้ได้ความสมบูรณ์ต้องใช้ช่างไม้ ช่างประดับลายประณีตศิลป์ที่มีฝีมืออย่างมาก สำหรับการใช้โกศไม้จันทน์ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระบรมศพ หรือพระศพเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน เป็นความเชื่อแต่โบราณ ถือเป็นการให้เกียรติแก่ผู้ล่วงลับไปแล้ว

**แกะ “ลายใบเทศ”ประดับพระโกศ
ด้าน นายนิยม กลิ่นบุปผา นายช่างศิลปกรรม 9 ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ(ชช.) ประธานกลุ่มช่างพระโกศจันทน์และส่วนประกอบพระเมรุ กล่าวว่า การตบแต่งลวดลายศิลปกรรมไทยพระโกศจันทน์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ จะต้องฉลุลายไทย ได้แก่ ลายใบเทศ ซึ่งถือว่าเป็นลายต้นตระกูลสูงของลายศิลปะไทยที่มีอยู่ เช่น ลายกระหนก ลายก้านแย่ง ลายเครือเถา ลายกลีบบัว ลายก้านขด ลายเทพพนม ลายพุดตาล และลายกระจังแบบต่างๆ

“ลายใบเทศจะเหมือนลายกนกเปลวหรือขนของปีกครุฑ มีความอ่อนช้อยกว่า และลายใบเทศส่วนใหญ่จะใช้เกี่ยวข้องกับเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ที่แสดงออกในเรื่องนั้นๆ เช่น วัดหลวง สามารถดูได้ที่พระอุโบสถวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือวัดโพธิ์ อีกทั้งยังเป็นลายเกี่ยวกับเครื่องพระอิสริยยศ เมื่อครั้งสร้างพระโกศจันทน์สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 ก็ได้ประดับลายใบเทศ เช่นเดียวกับพระโกศจันทน์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ก็ใช้ลายใบเทศเช่นกัน”นายนิยมกล่าว

**พระโกศทรง 8 เหลี่ยม
นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า พระโกศจันทน์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เป็นรูปทรง 8 เหลี่ยม และหลังจากที่โหรพราหมณ์พระราชวังทำพิธีบวงสรวงเทพยดาป่า ขออนุญาตนำไม้จันทน์มาสร้างพระโกศจันทน์แล้ว ขั้นตอนต่อไปทางผู้เกี่ยวข้องจะทำการแปรรูปไม้เป็นแผ่นให้เสร็จเรียบร้อย แต่คงจะให้เก็บไว้ที่เดิมก่อน เพราะขนย้ายมาที่สำนักช่างสิบหมู่หรือที่กรมศิลปากรคงจะไม่มีที่เก็บ ต้องรอให้กรมศิลปากรปลูกโรงขยายแบบพระเมรุที่สนามหลวงให้แล้วเสร็จก่อน ซึ่งสัปดาห์หน้าหรือปลายเดือนมกราคมกรมศิลปากรจะลงมือกั้นเขตทำรั้วและปลูกโรงขยายแบบพระเมรุ จากนั้นจึงจะนำไม้จันทน์แปรรูปมาเก็บไว้ที่โรงแบบ สำหรับการเคลื่อนย้ายไม้จันทน์แปรรูปที่กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์มาที่สนามหลวง ตนจะได้ทำหนังสือถึงคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ เพื่อขออนุญาตเคลื่อนย้ายไม้จันทน์ดังกล่าว

อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวอีกว่า ในวันนี้ (21 ม.ค.) จะมีการประชุมคณะ กรรมการฝ่ายสร้างพระเมรุสิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุ และการบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เวลา 09.00 – 12.00 น. ห้องประชุม 501 ชั้น 5 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล โดย น.อ.อาวุธ เงินชูกลิ่น ประธานคณะทำงานออกแบบพระเมรุฯ ได้สรุปงบประมาณไว้จำนวน 175 ล้านบาท เพื่อเสนอต่อนายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการฝ่ายสร้างพระเมรุฯ

จากนั้น น.อ.อาวุธ จะแถลงข่าวความคืบหน้าการจัดสร้างพระเมรุในเวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมกรมศิลปากร

**มจ.ภูริพันธ์ ยุคล ติงการแต่งกาย
สำหรับบรรยากาศการลงนามถวายสักการะพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ นั้น วานนี้(20 ม.ค.)พสกนิกรชาวไทยจากทั่วทุกสารทิศได้เดินทางมารอถวายสักการะพระศพ ตั้งแต่เวลา 05.00 น. โดยเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังได้เปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระศพได้ตั้งแต่เวลา 08.00 น.

มจ.ภูริพันธ์ ยุคล พระโอรสในพระบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้า ภาณุพันธ์ ยุคล ทรงนำพระสหายที่เป็นคนไทย และชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ ณ สหรัฐเมริกามาร่วมถวายสักการะพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ ฯ โดย มจ.ภูริพันธ์ ตรัสว่า การที่พระองค์ทรงนำพระสหายต่างชาติมาถวายสักการะพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เนื่องด้วยเห็นว่าพระราชพิธีครั้งนี้ นับเป็นโบราณราชพิธีที่เปิดให้ประชาชนได้เข้าร่วมพระราชพิธีอย่างใกล้ชิด ซึ่งไม่ได้มีขึ้นบ่อยครั้ง

พร้อมกันนี้ มจ.ภูริพันธ์ ได้ย้ำเตือนถึงการแต่งกายของผู้ที่ร่วมสักการะพระศพว่า ทรงต้องการให้ประชาชนทุกคนแต่งกายให้ถูกต้องตามกาลเทศะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สุภาพสตรี ที่แม้จะสวมกระโปรง ก็ควรเป็นกระโปรงที่มีความยาวคลุมเข่าลงมา สุภาพสตรีในหน่วยงานราชการที่สวมชุดปกติสีขาวก็ควรสวมกระโปรงยาวคลุมเข่าเช่นกัน ถ้าไว้ผมยาวก็ควรจะมวยผมให้สุภาพเรียบร้อยที่สุด เพื่อเป็นการถวายพระเกียรติอย่างสูงสุด

นอกจากนี้ยังตรัสด้วยว่า ในวันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ 2551 ราชสกุลทุกคนจะได้รับพระราชทานโอกาสในการเข้าร่วมเป็นเจ้าภาพพิธีสวดพระอภิธรรมพระศพพร้อมกันกับราชสกุลและราชินีกุลทุกมหาสาขา ที่สืบเชื้อสายตั้งแต่รัชกาลที่ 1 เป็นต้นมา

**ทูตอียิปต์ถวายสักการะพระศพ
ส่วนคณะบุคคลและบุคลสำคัญอื่นๆ ที่เดินทางเข้าถวายสักการะพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ ฯ เมื่อวานนี้ ยังมีบุคคลสำคัญเดินทางมาเป็นจำนวนมาก อาทิ นายอัชราฟ เอลโคลี เอกอัคราชทูตสาธารณรัฐอียิปต์ ประจำประเทศไทย,ดร.ซาฮี ฮาวาส เลขาธิการสภาโบราณคดีสูงสุด สาธารณรัฐอียิปต์และภรรยา ,พล.อ. ทวีป สุวรรณสิงห์ อดีตแม่ทัพภาคที่ 1 พร้อมครอบครัว,ประชาชนจาก จ.นครศรีธรรมราช และ จ.ชลบุรี,กลุ่มชาวไทใหญ่,นักเรียนจากโรงเรียนโนนไทย จ.นครราชสีมา,โรงเรียนวีรสุนทร เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร , คณะครู-นักเรียนจากโรงเรียนทองฉนวน ,โรงเรียนบ้านใต้ จ.สุราษฎร์ธานี และโรงเรียนบ้านคุ้งวัว จ. นครศรีธรรมราช

ด.ช.พีรยุทธ ดวงพิมาน นักเรียนชั้น ม.3 ของโรงเรียนวีรสุนทรกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยมาถวายสักการะพระศพแล้วครั้งหนึ่ง หลังจากที่ตนเองกลับบ้านไปและได้ชมข่าวทางโทรทัศน์ที่รายงานว่ามีผู้เดินทางมาถวายสักการะพระศพมากขึ้นเรื่อยๆ ตนจึงได้เสนอโครงการปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้ทางโรงเรียนได้รับทราบ ครั้งนี้ตนได้นำชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้นมาด้วย ตั้งใจว่าจะทำหน้าที่ปฐมพยาบาลช่วยเหลือประชาชนไปจนถึงช่วงเย็น จากนั้นจะขึ้นไปถวายสักการะพระศพอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะเดินทางกลับบ้าน

**หน่วยแพทย์ แนะ ปชช.เตรียมร่างกายให้พร้อม
ด้านหน่วยแพทย์ที่ให้บริการประชาชนในพระบรมราชวัง ซึ่งเป็นแพทย์จากกองแพทย์หลวงสวนจิตลดา,สภากาชาติไทย,โรงพยาบาลตำรวจ และหน่วยแพทย์หลวงของกองแพทย์หลวง สำนักพระราชวัง ซึ่งประจำการอยู่ ณ อาคารที่ทำการ ทุกหน่วยแพทย์และมีแพทย์มาสลับปรับเปลี่ยนให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ได้มีคำแนะมายังประชาชนว่า ช่วงนี้อากาศค่อนข้างร้อน ประชาชนที่จะเดินทางมาถวายสักการะพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ควรพักผ่อนให้เต็มที่และควรพกร่มติดมาด้วย

สำหรับท่านใดที่ป่วยเป็นโรคประจำตัวควรพกยา ติดมาด้วยทุกครั้งและควรทานอาหารให้ตรงเวลา และสำหรับท่านที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาล ควรพักฟื้นให้ร่างกายแข็งแรงเสียก่อน เนื่องจากอากาศร้อนมาก อาจทำให้ เป็นลมและไม่สบายอีกได้ และสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางไกลมาจากต่างจังหวัด ควรวางแผนการเดินทางมาเป็นอย่างดี เผื่อเวลาไว้สำหรับการพักผ่อน เพื่อให้ร่างกายอยู่ในสภาพที่พร้อม หากต้องมาเจอสภาพอากาศร้อนในขณะต่อแถวเข้าสักการะพระศพ ส่วนสำหรับใครที่อยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร หากสะดวกเดินทางมาร่วมสักการะพระศพในช่วงเย็น จะเป็นผลดีกับสุขภาพมากกว่า เพราะอากาศไม่ร้อนเท่าช่วงกลางวัน

สำหรับยอดประชาชนสักการะพระศพ เมื่อวานนี้ มีจำนวนทั้งสิ้น 133,313 คน พวงมาลา 12 พวง และยอดเงินทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัยจำนวน 735,567 บาท และยอดรวมเงินทั้งสิ้นตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2551 จนถึงวานนี้ จำนวนทั้งสิ้น 10825570.10 บาท
กำลังโหลดความคิดเห็น