"โสภณ องค์การณ์"
จำนวนเสียงห้าต่อสี่ของ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญกำหนดการสิ้นสุดตำแหน่งของนายเศรษฐาเศรษฐี หัวหน้ารัฐบาล หมดโอกาสเดินทางท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ
เป็นอวสานของเซลล์แมนแบบสมบูรณ์ สำหรับโครงการขายชาติต่างๆ ที่วางแผนไว้
เจ้าตัวประกาศรู้สึกเสียใจที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญตีตราประทับว่าเป็นผู้ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ คือไม่น่าไว้ใจในเรื่องความซื่อสัตย์นั่นเอง
ไม่ใช่เฉพาะในการบริหารประเทศ แต่ต้องรวมไปถึงการบริหารธุรกิจที่อยู่ภายใต้การดูแลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยด้วย
จะเอาหน้าไปไว้ไหน หลังจากพบผู้นำประเทศมากมาย ทั้งการโชว์แฟชั่นพิลึกกึกกืออวดชาวโลก
ลำพังการถูกตราหน้าว่าไม่ได้เป็นคนซื่อสัตย์สุจริตก็แทบจะต้องเอาหน้าแทรกแผ่นดินหนี จะอธิบายอย่างไรในการแก้ตัวแก้ต่างและผลที่ออกมาเจ้าตัวรู้ดีอยู่ว่าได้กระทำอะไรฟื้นสามัญสำนึกขั้นพื้นฐาน หรือไม่
ไม่รู้ว่าใครเขียนคำแก้ตัวให้แต่ดูแล้วเหมือน เป็นการดันหลังให้พ้นจากตำแหน่งมากกว่าจะเป็นความหวังดี นายเศรษฐาเศรษฐีผู้มีริยมการแต่งกาย ประหลาด จากผู้นำประเทศที่มีอีคิวปกติ
บอกว่าผมรู้สึกเสียใจ แต่ก็สายไปแล้ว
จะสู้หน้า ตากหน้าในสังคมในสถานภาพผู้ถูกกล่าวหาว่าไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ได้อย่างไร แต่สังคมการเมืองไทยที่ขาดศีลธรรม จริยธรรม มโนธรรม และยางอาย อาจจะไม่ใช่เรื่องยากเพราะนายเศรษฐาไม่ใช่คนแรกในประเทศไทย
เพราะนักโทษชายที่ถูกกักตัวอยู่ในบ้านยังกล้าหาญเรียกพรรคร่วมรับประทานเข้าไปปรึกษาหารือเพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่ในเร็ววัน ให้สภาจัดวาระการประชุมเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่วันศุกร์นี้ทันทีก่อนจะเสี่ยงโดนตัดหน้า
พรรคเพื่อไทยซึ่งก่อนหน้านี้ถูกรัฐประหารสองครั้ง ถูกสั่งยุบพรรคสองครั้ง และการถูกระงับการปฏิบัติหน้าที่ของนายเศรษฐาถือเป็นกรณีที่สาม
ประวัติศาสตร์ของพรรคการเมืองนี้มีแต่ความอัปยศด้วยข้อหาทุจริตคอรัปชั่นและพยายามสืบทอดเอาคนในตระกูลมาเป็นผู้นำประเทศโดยไม่จำเป็นต้องรู้สึกว่าต้องอายประชาชนหลังทำความผิดซ้ำซาก
การเมืองไทย เป็นสังคมที่ไร้อย่างหายขาดจิตสำนึกด้านดีมโนธรรมและจริยธรรมไม่เคยมี จะเห็นได้ว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเลิกเรียกขานพวกเดียวกันว่า “ท่านผู้ทรงเกียรติ” เพราะมีเหตุผลเนื่องจากไม่มีเกียรติเหลือให้ชาวบ้านยอมรับ
แม้จะยังไม่สิ้น สภาพความเป็นนักโทษ ความอัปยศผู้เป็นเจ้าของพรรคการเมืองเรียกพรรคร่วมร่วมรับประทานเข้าไปร่วมประชุมในสถานที่กักกันนักโทษเพื่อหาทางจัดตั้งรัฐบาลใหม่โดยกรมคุมประพฤติ เอาหูไปนา เอาตาไปไร่เหมือนกรณีที่ปล่อยให้นักโทษไปเพ่นพ่านที่ไหนตามใจสะดวก
ตอนนี้ข่าวช่วงแรกบอกว่าจะเอารองหัวหน้าพรรคผู้สูงอายุวัย 76 ปีนักกฎหมายมาเป็นแทน แต่ไม่น่าจะง่ายเพราะพฤติกรรมและประวัติการทำงานไม่ธรรมดา น่าจะมาเป็นเหยื่อนักร้องมากกว่า
เพราะเรื่องของนายถุง ท่านนักกฎหมายนี้ก็มีส่วนร่วมเกี่ยวโยงด้วยการไม่สั่งฟ้อง คดีอาญา และยังมีเรื่องราวอื่นๆ ที่นักขุดคุ้ยเอามาเล่นงาน ดูสภาพแล้วเปราะบางมากกว่านายขายาวถุงเท้าแดง ที่กลายเป็นเทพเทวดาตกสวรรค์
จะกลับไปเป็นซีอีโอบริษัทก็ขาดคุณสมบัติเสียแล้ว
จะเอามาดามซอฟพาวเวอร์เวอร์ มะม่วงจำบ่ม มาแทนก็จะเร็วเกินไป และจะไปเร็วด้วย เพราะประเทศไทยประชากร 70 ล้านคน จะให้เด็กเมื่อวานซืนมาเป็นผู้นำประเทศ มันดูน่าสมเพชเกินบรรยาย
แต่ก็มีข่าวว่าบรรดาขี้ข้าบริวารจะชูมาดามซอฟพาวเวอร์เวอร์เป็นผู้นำให้ได้ จะเอากันถึงขั้นนั้นเชียวหรือ จิตสำนึกของความเป็นคน ยังมีอยู่หรือไม่
นี่คือวิบากกรรมของผู้กระหายอำนาจไม่สิ้นสุดแม้ว่าแผ่นดินนี้จะเปิดโอกาสให้สร้างความมั่งคั่งร่ำรวยมหาศาลก็ยังไม่พอใจ คิดจะมีอำนาจและแสวงหาผลประโยชน์ไม่สิ้นสุด
บุญอาจจะมีอยู่เหลือ แต่คงไม่มากแล้วเพราะชะตากรรมที่เผชิญอยู่ก็ไม่ใช่จะแก้ไขได้ง่าย ทั้งเรื่องของกฎหมาย การแก้ปัญหาการเมือง และอาจทำให้ต้องอพยพไปอยู่ต่างประเทศ อาศัยแผ่นดินคนอื่นเขาอยู่ เป็นพลเมืองชั้นสองชั้นสามแม้จะมั่งคั่งอย่างไร
ดูชาวชมพูทวีปและคนจากทวีปอื่นที่ไปอาศัยแผ่นดินอังกฤษอยู่ทุกวันนี้ถูกรังเกียจเหยียดหยามขับไล่ให้กลับแผ่นดินที่จากมา
ถ้านักโทษชายยังไม่สำเหนียกถึงเวรกรรมที่ได้กระทำต่อแผ่นดินนี้ จุดจบคงจะไม่สวยพร้อมครอบครัว ถึงจะอยู่ในอำนาจก็จะไม่มีความสุข เมื่อถูกแช่งด่าทุกเย็นย่ำค่ำเช้า
ต่อให้มีบุญวาสนาอย่างไรก็ต้องมีทางตัน ไม่มีใครโชคดีตลอดกาล ความมั่งคั่งมหาศาล ตายไปแล้วก็เอาไปไม่ได้ ผลพวงของการหาเงินมาโดยวิธีไม่สุจริตก็ไม่ทำให้ลูกหลานมีความสุข มีชีวิตอยู่ท่ามกลางเสียงแช่งด่า
อีกไม่นานคงรู้ว่าจุดจบสุดท้ายจะเป็นอย่างไร ถ้าพรรคการเมืองนักโทษชายชนะ ให้มาดามซอฟพาวเวอร์เป็นผู้นำคณะรัฐมนตรี บ้านเมืองก็ไม่รอด สัญญาณร้ายปรากฏ และตัวแทรกซึ่งยังไม่รู้ว่าจะเป็นอะไรจะเป็นทางตันของการ ผยองอำนาจ
ถ้ามีเหตุต้องปิดเกม ใครจะมาสำนึกบาปขั้นสุดท้ายคงสายเกินไป