xs
xsm
sm
md
lg

สุดยอด‘นักขาย’จริงๆ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: โสภณ องค์การณ์



สภาพการเมืองไทยดูมีความเคลื่อนไหวคึกคักมากมายเกี่ยวโยงทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผู้นำรัฐบาลมีกิจกรรมทำเหมือนกับว่าวันหนึ่งมี 24 ชั่วโมงไม่เพียงพอ แต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงที่เป็นสาระ

เดินทางไปเหนือจรดใต้ ตะวันออกจรดตะวันตก อ้างว่าต้องการเดินทางไปศึกษาปัญหาทุกข์ร้อนความยากลำบากของประชาชน เพื่อแก้ไขให้ถูกจุด เกาให้ถูกที่คัน หรืออะไรทำนองนั้น

เป็นพลเมืองของประเทศนี้แท้ๆ กลับไม่รู้ว่าพื้นฐานของปัญหามีอะไรเป็นสำคัญ หรือมัวแต่สร้างตัวเองจนร่ำรวยเป็นเศรษฐีพันล้าน

ดูแล้วช่างมีความขยันขันแข็งตั้งใจบริหารประเทศอย่างมุ่งมานะอุตสาหะเสียสละถึงขั้นไม่ยอมรับเงินเดือนเพราะตั้งใจมาทำงานเพื่อประชาชน

ได้ฟังแบบนี้ชุมชนชาวบ้องตื้นแทบซึ้งน้ำตาไหลผวาเข้าไปปูผ้าขาวกราบทุกเย็นย่ำค่ำเช้าเลย ยิ่งสามารถติดตามจับตัวผู้ถูกกล่าวหาว่าไม่ซื่อต่อเงินของลูกค้าในธุรกิจการเงิน ยิ่งทำให้มองว่าประเทศนี้ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย

ในความเป็นจริงการเดินทางไปตามพื้นที่ต่างๆ ก็ถูกมองว่าหาแหล่งเหมาะสำหรับการลงทุนในธุรกิจต่างๆ ที่รัฐบาลนี้พยายามส่งเสริม อ้างว่าเป็นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ฟังดูแล้วดูเหมือนมีความจริงใจใสสะอาด ซื่อสัตย์สุจริต สามารถดมพิสูจน์ได้นั่นเลย

แต่ก็มีคนสงสัยว่าการเดินสายไปตามแหล่งต่างๆ อาจเป็นเพราะต้องการหาแหล่งการลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ตนเองและพรรคพวกมีกิจการใหญ่ระดับชาติ

ยิ่งช่วงนี้รัฐบาลมีโครงการพิลึกกึกกือเช่น เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ กาสิโน หลายจุดในประเทศ โครงการแข่งรถยนต์ฟอร์มูลาวัน โครงการเร่งสร้างสนามบิน เส้นทางรถไฟ เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวและการกระตุ้นเศรษฐกิจ

คนบ้องตื้น หน้าซื่อตาใสย่อมเป็นเหยื่อของนักต้มตุ๋นทุกยุคตามคำพูดของฝรั่งที่ว่า “โลกนี้มีคนโง่เกิดมาทุกนาที”

ผู้นำรัฐบาลขายาวถุงเท้าแดงได้ฉายาว่าเป็นสุดยอดนักขาย เซลส์แมนขึ้นหน้าปกนิตยสารไทม์ โดยไม่ทราบสาเหตุ ทั้งที่รับตำแหน่งได้ไม่กี่เดือน ไม่ได้พิสูจน์ความสามารถในการบริหารประเทศ

เป็นเหตุบังเอิญหรือต้องการพิสูจน์ความเป็นนักขายชั้นยอดก็ทำให้รัฐบาลคิดอ่านโครงการขายบ้านคอนโดมิเนียมและการถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินระยะยาวนาน 99 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้เคยลองมาแล้ว

แต่ถูกด่าระงมจากทั่วทิศว่าเป็นแผนขายชาติ ขายแผ่นดินสิ้นคิดและหวังผลประโยชน์ก้อนมหาศาลเพราะคนต่างชาติจะถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินประเทศไทยยาวนานชั่วลูกชั่วหลาน

ยิ่งยุคนี้คนชั่วทางการเมืองถืออำนาจจะทำอะไรก็ได้ ก็ยิ่งทำให้ประชาชนสงสัยว่าการเร่งกอบโกยความมั่งคั่งเพราะเกรงว่าจะอยู่ได้ไม่นาน ดังนั้นจึงไม่อยากจากไปแบบมือเปล่า

โครงการอสังหาริมทรัพย์ย่อมถูกมองว่ามันยิ่งกว่าเป็นผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะผู้นำถุงเท้าแดงมีกิจการอสังหาริมทรัพย์ เจ้าของพรรคแกนนำรัฐบาลก็เป็นเจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่เช่นกัน

ก่อนหน้านี้กลุ่มคนจีนมากว้านซื้อบ้านราคาแพงจากโครงการเหล่านี้ บางกลุ่มเป็นพวกสีเทาซื้อทั้งหมู่บ้าน จนเกิดปัญหาว่าเป็นกลุ่มอาชญากร

โครงการพิลึกกึกกือสารพัดโดยคณะของผู้นำรัฐบาลลีลาฉุยฉายฉาบฉวยเริ่มตั้งแต่โครงการซอฟต์เพาเวอร์เวอร์ จึงเป็นสิ่งที่ชาวบ้านทั่วไปและวิญญูชน มองว่าไม่ได้สร้างผลประโยชน์ให้ชาวบ้านโดยทั่วไป โดยเฉพาะโครงการกาสิโนตั้งบ่อนการพนันอย่างถูกกฎหมาย

แม้กระทั่งโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทต่อคนก็ยังไม่สามารถขับเคลื่อนได้เพราะมีปัญหาทางกฎหมายและความน่าสงสัยว่าผู้ที่ได้รับผลประโยชน์แท้จริงเป็นใครกันแน่ ปัญหาจึงค้างคาอยู่จนทุกวันนี้

ชาวบ้านกลุ่มเปราะบางยังต้องอ้าปากค้าง รอว่าเมื่อไหร่จะได้เงินฟรี 10,000 บาท ยิ่งรอนานไปความหวังกลายเป็นความฝันกลางแดด

ถ้าคนมีประสบการณ์ รู้ว่านักการเมืองย่อมโกหกพกลมได้ก็คงไม่ต้องหวังว่าจะได้อะไรนอกจากคำมั่นสัญญาแบบลมๆแล้งๆ ความเป็นจริงก็คือถ้านักการเมืองไม่ได้ผลประโยชน์ด้วยเค้าก็คงไม่ขับเคลื่อนเต็มที่

และยุคนี้ก็ไม่อยากเสี่ยงติดคุกด้วยเช่นกันเพราะมีตัวอย่างมาแล้วจากรัฐบาลของคนกลุ่มนี้ ซึ่งเคยถูกรัฐประหารสองครั้งและถูกสั่งให้ยุบพรรคการเมืองสองครั้งเช่นกัน

ประเทศไทยจึงน่าสงสารมาตั้งแต่ปี 2475 ความมั่งคั่งทรัพย์สินของแผ่นดินถูกปล้นด้วยกลุ่มผู้ที่อ้างว่าบ้านเมืองต้องการเปลี่ยนแปลงเป็นระบอบประชาธิปไตย แต่โดยความเป็นจริงพวกนี้ถ้าไม่เป็นพลเรือนก็เป็นกลุ่มบุคคลในเครื่องแบบกลุ่มอาวุธไม่ต่างจากโจรผู้ร้ายแต่มีกฎหมายคุ้มครอง

บ้านเมืองของเราจึงเหมือนคนกล้ามโตแต่ขาลีบไม่สามารถไปวิ่งสู้หรือเดินเร็วแข่งขันกับใครได้ แต่ละรัฐบาลล้วนมีบุคคลลักษณะโหงวเฮ้งโจรมีประวัติมัวหมองเรื่องความทุจริต

รัฐบาลปัจจุบันไล่นับหัวแล้วดูหน้าตาประวัติก็มีไม่น้อยเช่นกันระดับโหงวเฮ้งโจรตัวพ่อด้วยซ้ำ ดังนั้นการเมืองไทยจึงไม่มีอนาคต ต่อให้สุดยอดเซลส์แมนที่ไปวิ่งไล่ขายกิจการต่างๆ ในประเทศหลายรอบก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ

นั่นเป็นเพราะความอื้อฉาวเรื่องคอร์รัปชัน ยกทีมไปไหนชาวบ้านเห็นหน้านักกินเปอร์เซ็นต์นักงาบหัวคิว นักรอกินหุ้นลมในโครงการต่างๆ ที่พวกเสือหิวที่พยายามเร่งจัดการทุกวันนี้

มันเป็นการเขมือบที่เหนือกว่าซอฟต์เพาเวอร์เวอร์หลายเท่าตัว อย่างที่เคยพูดกันว่าเป็นการเขมือบแบบตัวไดโว่นั่นเลย

ดังนั้น เมื่อดูแนวโน้มของสภาพปัจจุบัน พฤติกรรมของคนที่มีอำนาจรัฐ และผลประโยชน์ที่รออยู่ คงจะไม่ผิดถ้าขอย้ำอีกครั้งว่า…

“ความมั่นคงของรัฐบาลนี้เป็นภัยร้ายแรงต่อความมั่นคงของประเทศไทย”


กำลังโหลดความคิดเห็น