ข่าวลึกปมลับ : ภัยการเมือง รุม “เศรษฐา” เดินหน้าไม่เต็มร้อย

“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APPสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม 2567 ตอน ภัยการเมือง รุม “เศรษฐา” เดินหน้าไม่เต็มร้อย



เงื่อนไขทางการเมืองชักจะเยอะ ทั้งที่ฝ่ายต้านยังไม่ได้ขยับอะไรรุนแรง แต่มีปัญหาให้รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ต้องเผชิญมากขึ้นเรื่อยๆ

บางปัญหาเกี่ยวข้องโดยตรง บางปัญหาไม่เกี่ยวแต่มีผลกระทบ ไม่ปล่อยให้ผู้นำ ซีอีโอ บริหารประเทศได้ด้วยความสบายใจเลย

เอาปัญหาที่เกี่ยวข้องโดยตรง ปม บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ดับเครื่องชนผู้นำ ยื่นฟ้อง เศรษฐา ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีแต่งตั้ง บิ๊กต่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็น ผบ.ตร. มิชอบด้วยกฎหมาย

รอบนี้ บิ๊กโจ๊ก พุ่งชนแบบตายเป็นตาย ไม่ยึกๆ ยักๆ ชักเข้าชักออก เหมือนหนก่อน ที่พอมีคนเข้าไปเคลียร์ วันรุ่งขึ้นก็ไปถอนเรื่องออกมา

ปมนี้ มองเผินๆ อาจดูไม่มีอะไร เพราะเรื่อง บิ๊กโจ๊ก ไล่ฟ้องคู่กรณีจนดูเป็นคนสติแตกในเวลานี้ก็เหมือนทุกครั้งเวลามีเรื่อง แต่ปัญหาคือ คนโดนฟ้องคือ เศรษฐา ผู้นำประเทศ

ที่สำคัญ ไปยื่นต่อ ป.ป.ช. ที่คนนินทาว่า มีบางคนในหน่วยงาน มีความสัมพันธ์ที่ดีกับ บิ๊กโจ๊ก และเป็นมือเป็นไม้ให้กับคนในป่า ที่ตกเป็นข่าวอยากจะล้มกระดานทางการเมืองอยู่เป็นระยะๆ

บอกตรงๆ ว่า ตราบใดคดีของ เศรษฐา ยังอยู่ในมือ ป.ป.ช. ไม่มีใครกล้าตอบ กล้าการันตีความปลอดภัยผู้นำได้เลย

เช่นเดียวกับ คดีในศาลรัฐธรรมนูญ ที่จนป่านนี้ศาลยังขอพยานหลักฐานเพิ่มเติมเรื่อยๆ ไม่รู้ว่า ศาลมีข้อติดขัด หรือคาใจในประเด็นไหน ถึงได้ยืดระยะออกไปไกลถึงเดือนกันยายน

การดองคดีที่เกี่ยวกับการอยู่หรือไปของผู้นำประเทศ ไม่ส่งผลดีด้วยประการทั้งปวง โดยเฉพาะเรื่องความเชื่อมั่นจากต่างประเทศ เรื่องหุ้นที่กระดานสีแดงมากกว่ากระดานสีเขียว

ตัว เศรษฐา เองก็ไม่พอใจกับสถานการณ์แบบนี้ เพราะมันเดินหน้าบริหารประเทศได้แบบไม่สบายใจ และเดินหน้าได้ไม่เต็มสูบ

ไม่รู้ว่า เกมที่ลากยาวออกไป มันมีนัยยะทางการเมืองอะไรหรือไม่ ฝ่ายอนุรักษ์นิยมกำลังคิด หรือทำอะไรกันอยู่

เพราะถ้ายังไว้วางใจ เศรษฐา และยังไว้วางใจพรรคเพื่อไทย ก็น่าจะทำให้คดีนี้มันสะเด็ดน้ำ ไม่มาถ่วง มาดึงขา ให้การบริหารราชการแผ่นดินมันเดินหน้าไม่เต็มร้อย กระทบความเชื่อมั่นกันไปหลายภาคส่วน

ยิ่งลาก มันยิ่งดูเหมือนไม่นิ่ง ในทางการเมืองถือว่าอันตราย

แล้วยิ่งไทม์ไลน์มันตีคู่ไปกับคดียุบพรรคก้าวไกลในชั้นศาลรัฐธรรมนูญ มันดูเหมือนมีความจงใจอะไรบางอย่าง ถ้ามองในแง่ร้าย คือ จงใจจะล้างกระดานการเมืองหรือไม่

เพราะถ้า เศรษฐา หลุดตำแหน่ง แล้วพรรคก้าวไกลถูกยุบ หน้ากระดานทางการเมืองจะเปลี่ยนไปทันที เกมนี้เข้าทางใครบางคนที่หวังจะกระโดดลงมาเสียบ นั่งเก้าอี้ผู้นำแทน

อย่างที่ทราบกัน เสือซุ่มตอนนี้มีเยอะ พร้อมจะเดินช้อป สส.พรรคส้ม หากแพแตก เพื่อแข่งกับพรรคเพื่อไทย ในการจัดตั้งรัฐบาล กรณีล้างกระดานการเมืองกันใหม่

บอกได้เลย การเมืองไทยไม่มีอะไรแน่นอน จนกว่าจะถึงเดือนกันยายนที่ศาลรัฐธรรมนูญขีดเส้นเอาไว้ว่าจะเสร็จทั้ง 2 คดี ไม่ว่าจะเป็นกรณีคุณสมบัติ เศรษฐา หรือกรณียุบพรรคก้าวไกล

ขณะที่อีกปมก็น่าเสียวไส้ กรณีเลือก สว. 200 คน แต่กติกาพิลึกกึกกือ เปิดช่องพวกนักการเมืองเขี้ยวลากดิน วางแผนพาคนของตัวเองเข้าไปในสภาสูงได้ถึง 130-140 คน

ทำเอาอลหม่านกันไปหมด สภาสูงที่ไว้ถ่วงดุลสภาล่าง กลายเป็นสภาสีน้ำเงิน เครื่องมือของฝ่ายการเมือง บางคนบอกหนักยิ่งกว่าสภาผัวเมียในอดีตเสียอีก

ตอนนี้ยังไม่รู้ว่า สว.ชุดนี้จะได้ปฏิบัติหน้าที่กันเมื่อไหร่ เพราะตอนนี้ทั้งโซเชียลมีเดีย ทั้งนักสืบ นักตรวจสอบ ไล่เช็กประวัติว่าที่ สว.กันแบบละเอียดยิบ เพื่อให้เห็นถึงความน่าเกลียด หรือสิ่งมีพิรุธ

ล่าสุดหนักถึงขั้นยื่นให้ศาลปกครองระงับการรับรอง สว.ออกไปก่อน เพราะมันเกินจะรับได้ ถ้าจะให้ 200 สว.ชุดนี้เข้าไปทำหน้าที่

แต่การล้มกระดานเลือก สว.ก็ไม่ได้ง่าย เพราะไม่ได้เรื่องข้อกฎหมายอย่างเดียว แต่มีเรื่องของแรงกระเพื่อมทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง

หลายฝ่ายกำลังอ่านใจพวกอนุรักษ์นิยม รับได้กับ สว.สีน้ำเงินหรือไม่ เพราะแม้ในใจจะไม่ชอบ ไม่ไว้วางใจ หรือยี้ แต่ก็ต้องชั่งใจเหมือนกัน หากล้มกระดานเลือก สว.กันใหม่ ระหว่าง สว.สายสีน้ำเงิน กับ สว.สายสีแดง สีส้ม อันไหน น่ากลัวกว่ากัน
เพราะใครก็รู้ว่ากลุ่มอนุรักษ์นิยมไม่ได้ไว้วางใจพรรคเพื่อไทยสักเท่าไหร่ ยังคอยถ่วงดุล ขัดแข้งขัดขา ไม่ให้บริหารประเทศได้ตามอำเภอใจเท่าไหร่

ในขณะที่พวกสีน้ำเงิน ถ้ามองอนาคตยังอาศัยเป็นเครื่องไม้เครื่องมือในการทำการเมือง เพราะรู้ว่า แก๊งสีน้ำเงินไม่ได้มักใหญ่ใฝ่สูง และไม่กล้างัดกับฝ่ายอนุรักษ์นิยม แต่หวังเพียงแค่ได้เข้ามาสู่อำนาจในทุกๆ รอบ ยังหวังมีราคา และอำนาจต่อรองในทางการเมืองเท่านั้น

ความอันตรายในแง่ของภาพรวมของประเทศยังดูน้อยกว่า ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ปล่อยมีอำนาจล้นไม่ได้

หลายฝ่ายคาดการณ์ คงไม่ถึงขั้นล้มกระดาน สว.หมดแผง แต่คนไหนที่เกินที่จะรับได้ ดูถูกอารมณ์ความรู้สึกของประชาชนเกินไป อาจจะไปไล่สอยทีละคนแล้วดันตัวสำรองขึ้นมาแทน

ดูแล้วงานนี้มีคนไม่ได้เข้าไป หรือเข้าไปก็น่าจะไปโดนสอยภายหลัง

แต่อีกภัยแทรกซ้อนที่ต้องจับตาคือ ชักมีข่าวหนาหูออกมาอีกว่า เจ้าป่าก็ไม่ได้นิ่งเฉย อยากจะรักษาอำนาจต่อรองเอาไว้เหมือนกัน ตามคิวที่ให้มีการไล่เกณฑ์ สว.นอกสายน้ำเงิน มาคุยกันหน่อย

ไม่ได้ช้อปแค่ สส.อย่างเดียว แต่เอา สว.ด้วย

------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android