ข่าวลึกปมลับ : จริงหรือไม่!? สถานะผู้ว่าฯ ธปท. รัฐอิสระ-ใครแตะไม่ได้

“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APPสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูปNEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจNEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันพุธที่ 8 พฤษภาคม 2567 ตอน จริงหรือไม่!? สถานะผู้ว่าฯ ธปท. รัฐอิสระ-ใครแตะไม่ได้



ถ้าไม่นับการปะทะฝีปากกันแบบรายวันระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านแล้ว ต้องยอมรับว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คือ คู่ขัดแย้งฝ่ายหนึ่งที่รัฐบาลออกมาต่อฝีปากด้วยแทบทุกวัน และไม่น่าเชื่อว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะเปิดศึกกับธปท.ตั้งแต่รุ่นพ่อจนถึงรุ่นลูก และแถมข้อขัดแย้งยังเป็นเรื่องคล้ายกันอีก

สมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทยที่มี 'ทักษิณ ชินวัตร' เป็นนายกรัฐมนตรี ก็เคยกดดันให้ธปท.ที่สมัยนั้นมีผู้ว่าฯธปท. ชื่อ หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล ทบทวนนโยบายทางด้านดอกเบี้ย เพื่อหวังให้เกิดการกระตุ้นทางเศรษฐกิจตามปรัชญาทักษิโณมิกส์ แต่หม่อมเต่าไม่ยอม เพราะมองว่าควรเน้นรักษาความยั่งยืนทางเศรษฐกิจเป็นสำคัญ ก่อนที่ผู้ว่าธปท.คนที่ 19 จะถูกปลดในเวลาต่อมา

จากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก ก็เริ่มมีถ่ายทอดดีเอ็นเอในเรื่องการวิวาทกับแบงก์ชาติอีก ภายหลัง 'แพทองธาร ชินวัตร' หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งยังไม่มีตำแหน่งอย่างเป็นทางการในคณะรัฐมนตรี ออกมาวิจารณ์กลางงานแสดงผลงานของพรรคเพื่อไทย เรื่องความเป็นอิสระและการเป็นอุปสรรคในการพัฒนาเศรษฐกิจของธปท.

เล่นเอาบรรดาลิ่วล้อของครอบครัวชินวัตร ต้องออกมาปกป้องนายหญิงว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นตามปกติเท่านั้น และแบงก์ชาติก็ไม่ได้เป็นหน่วยงานที่มีอภิสทธิ์ใดๆที่อยู่เหนือเสียงวิจารณ์ไปได้

แต่กระนั้นมีประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจ คือ ความเป็นไปได้ของการแก้ไขพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อลดความเป็นอิสระของผู้ว่าฯธปท.

แม้รัฐบาลจะบอกว่ายังไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ แต่จากสัญญาณที่ออกมาจากนายหญิงแห่งพรรคเพื่อไทย ก็ทำให้หลายฝ่ายแอบเหล่ถึงความเป็นไปได้ในเรื่องนี้เหมือนกัน เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่าในอนาคต หากพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง หรือมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีกลางคัน 'แพทองธาร' จะถูกดันขึ้นมาเป็นนายกฯหญิงคนที่สองในประวัติศาสตร์การเมืองไทยแน่นอน

และหากธปท.ยังคงสถานะความเป็นรัฐอิสระต่อไปเช่นนี้ การบริหารงานด้านเศรษฐกิจในระยะยาวอาจเจอตอขวางอยู่ ดังนั้น การเข้าไปล้วงธปท.ตั้งแต่เนิ่นๆ อาจเป็นการปูทางที่สำคัญให้นายหญิง

การที่พรรคเพื่อไทยอ้างว่าผู้ว่าฯธปท.มีความเป็นอิสระมากเกินไปนั้นหากมองไปที่พระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย ฉบับปัจจุบันที่มีการแก้ไขมาแล้วจำนวน 7 ครั้งตั้งแต่ปี 2485 จะพบว่าผู้ว่าฯธปท.ก็ไม่ได้มีอิสระเด็ดขาดจากรัฐบาลเสียทีเดียว

กล่าวคือ มาตรา 28/19 ซึ่งเป็นการแก้ไขกฎหมายในสมัยพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2551 ยังคงให้อำนาจคณะรัฐมนตรีมีมติให้ผู้ว่าฯธปท.พ้นจากตำแหน่ง หากมีการเสนอโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หรือ คณะกรรมการธปท. พร้อมกับอ้างเหตุผลที่สมควรให้ออกจากตำแหน่งถึงขนาดที่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความบกพร่องในหน้าที่อย่างร้ายแรง หรือ หย่อนความสามารถ โดยมติของคณะรัฐมนตรีต้องแสดงเหตุผลในการให้ออกอย่างชัดแจ้ง

ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าเงื่อนไขการปลดผู้ว่าฯธปท.ต่างจากเมื่อก่อนจะมีการแก้ไขในปี 2551 โดยก่อนหน้านั้นเป็นการให้อำนาจดุลพินิจแก่คณะรัฐมนตรีโดยไม่ต้องอธิบายเหตุผลถึงการให้ออกจากตำแหน่ง เรียกได้ว่าสามารถทำได้ตามอำเภอใจของฝ่ายการเมือง

จึงเป็นที่มาของการแก้ไขกฎหมายเพื่อไม่ให้ฝ่ายการเมืองเข้ามาแทรกแซงการทำงานธปท.ผ่านการปลดหรือแต่งตั้งผู้ว่าฯธปท. และเป็นหลักการที่คงอยู่มาเป็นเวลานาน

ดังนั้น หากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยคิดจะลองของ ใช้เสียงข้างมากแก้ไขเพื่อลดความเป็นอิสระของธปท.โดยการอ้างสารพัดเหตุผลว่าต้องการให้ธปท.มีความเชื่อมโยงและรับผิดชอบต่อประชาชน ก็อาจต้องชักแม่น้ำมากกว่า 5 สายมาแสดงให้เห็น เพื่อให้การเล่นกับไฟครั้งนี้คุ้มค่ามากที่สุด

------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android