เนวินจับมือทักษิณสู้ก้าวไกล

ผลการเลือกประธานวุฒิสภา และรอง 2 ตำแหน่ง เป็นบทพิสูจน์ว่า สว.สายสีน้ำเงินเป็นของจริง และมีเสียงในมือไม่น้อยกว่า 150 คน ต่อไปนี้ใครผ่านสรรหาองค์กรอิสระมาจะผ่านด่านวุฒิก็ต้องวิ่งไปหาเนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่บุรีรัมย์ ที่ถอดสมการการเลือกตั้ง สว.แบบนี้สำเร็จและสามารถพาคนของตัวเองเข้ามาได้จำนวนมาก ส่วนบ้านป่ารอยต่อที่เคยเป็นชุมทางของนักวิ่งต่อไปก็คงจะเงียบเหงา

ต้องยอมรับในความไม่ธรรมดาและใครต่อใครต้องคารวะ จะหาใครปราดเปรื่องในทางการเมืองในยุคนี้มาเทียบเคียงก็คงจะไม่ดี ต้องมีวิธีคิดและกลยุทธ์ลึกซึ้งสักแค่ไหนจึงกวาดสว.ที่มีกลวิธีในการเลือกที่ซับซ้อนเข้ามาอยู่ในมือได้ขนาดนี้ทักษิณ ชินวัตรที่ว่าแน่มาถึงยุคนี้ก็ไม่อาจเทียมทานได้เลย

แต่เชื่อว่าการเลือกตั้ง สว.แบบนี้น่าจะใช้แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว เพราะดูว่าอะไรต่ออะไรมันดูจะแปลกประหลาดไปหมดในการแบ่งสายอาชีพที่บางคนสามารถผ่านด่านกกต.มาได้อย่างชวนฉงน เช่น ช่างเชื่อม ช่างซ่อมรถยนต์ อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมแต่การเลือกตั้งจะเปลี่ยนไปเป็นแบบไหนก็ต้องย้อนดูบทเรียนในอดีตด้วย เพราะเมื่อเราเลือกตั้งที่มีที่มาแบบเดียวกับ สส.เราก็เคยได้สภาผัวเมียมาแล้ว

เมื่อ สว. 150 คนอยู่ในมือของครูใหญ่บุรีรัมย์แล้ว เราต้องดูว่าการเมืองไทยจากนี้จะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งต้องใช้เสียง สว.ถึง 1 ใน 3 นั่นหมายความว่า คนที่จะกำหนดเกมว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตราไหนหรือไม่ก็คือครูใหญ่แห่งบุรีรัมย์นั่นเอง

คำถามว่าหลังจากนี้สถานะของพรรคภูมิใจไทยที่อยู่ใต้ร่มเงาของครูใหญ่บุรีรัมย์จะเป็นอย่างไร พรรคภูมิใจไทยนั้นเป็นพรรคอันดับ 3 ของสภาฯ และเป็นพรรคอันดับ 2 ในพรรคร่วมรัฐบาล แต่หากมีการประชุมร่วมของรัฐสภาเมื่อไหร่ พรรคสีน้ำเงินก็จะกลายเป็นพรรคอันดับ 1 ทันที และยังได้บริหารกระทรวงสำคัญคือ กระทรวงมหาดไทยที่ดูองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอีกชั้นหนึ่งด้วย

วันนี้เนวินนั้นเล่นการเมืองอยู่หลังฉากหลังพบแล้วว่า สามารถทำอะไรได้คล่องตัวกว่า ส่งพี่น้องลงไปเป็นรัฐมนตรีแทน และต่อไปก็คงส่งลูกมาเป็นรัฐมนตรีเมื่ออายุครบเกณฑ์ เล่นการเมืองแบบนี้ปลอดภัยเพราะไม่ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินไม่ต้องถูกตรวจสอบจากฝ่ายไหนเลย แต่ถ้าใครต้องการอะไรภายใต้กระทรวงที่พรรคดูแลก็ต้องวิ่งไปบุรีรัมย์นี่แหละ

แท้จริงแล้วเนวินก็คือ เจ้าของพรรคนั่นเอง แม้เขาเคยประกาศว่าได้วางมือทางการเมืองไปแล้ว เนวินต้องใช้เงินมากเสียด้วย เพราะทำทีมฟุตบอลและทำสนามแข่งรถนี่อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาไม่สามารถวางมือทางการเมืองได้จริงๆ ดังนั้นเป้าหมายสำคัญที่สุดของเขาก็คือ การเป็นรัฐบาลนั่นเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรักษาที่ดินเขากระโดงเอาไว้

ภาพของเนวินเปลี่ยนไปจากอดีตมากจาก “ยี้ห้อยร้อยยี่สิบ” จากฉายาว่า ชื่อพม่า หน้าลาว เว้าเขมร วันนี้เนวินมาไกลมาก เพราะได้แสดงให้เห็นถึงการเป็นกุนซือทางการเมืองที่หาตัวจับยาก นอกจากนั้นความสำเร็จในทางกีฬาทำให้เขาเป็นไอดอลของคนหลายคนเพราะทีมฟุตบอลของเขาบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดสามารถกวาดแชมป์ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกมาได้หลายสมัย

ถามว่าเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคของเนวินจะได้รับเลือกเข้ามามากกว่านี้ไหม มีคนบอกว่า เนวินต้องการทำพรรคขนาดนี้ไม่ได้คาดหวังว่าจะเป็นพรรคอันดับ 1 เพราะพรรคระดับ 60-70 เสียง ไม่ว่าขั้วไหนมาก็ต้องเชิญเข้าร่วมรัฐบาลและมีอำนาจต่อรองที่จะเลือกกระทรวงสำคัญได้

ดูเหมือนว่าภารกิจต่อไปของเนวินก็คือการกลับมาจับมือกับทักษิณเพื่อสกัดกั้นพรรคก้าวไกล

ทักษิณกำลังจะได้ใบบริสุทธิ์กลับมาเป็นพลเมืองเต็มขั้น ไม่ต้องไปรายงานตัวกับกรมคุมประพฤติทุกเดือนซึ่งว่าไปแล้ว เราก็ไม่รู้หรอกว่า ทักษิณได้ทำตามกฎเกณฑ์ที่ต้องรายงานตัวกับกรมคุมประพฤติทุกเดือนหรือไม่ เพราะไม่ปรากฏเป็นข่าวคราวออกมานับจากนี้บทบาททางการเมืองของทักษิณคงจะแจ่มชัดมากยิ่งขึ้น

ไม่มีหรอกที่บอกว่าจะกลับเมืองไทยมาเลี้ยงหลาน เพราะจากปรากฏการณ์เป็นนักโทษคนเดียวที่ไม่ต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำแม้แต่วันเดียวอาจกลายเป็นเงื่อนไขที่ทักษิณปฏิเสธไม่ได้ที่ต้องเข้ามามีบทบาททางการเมืองเพื่อขับเคลื่อนรัฐบาลและพรรคเพื่อต่อสู้กับพรรคก้าวไกล เป็นเรื่องของข้อตกลงที่ทุกคนเชื่อว่ามี “ดีล” นั่นเอง

สถานการณ์การเมืองวันนี้บีบให้พรรคการเมืองทุกพรรคจับมือกันเพื่อต่อสู้กับพรรคก้าวไกลเพื่อสกัดกั้นไม่ให้พรรคก้าวไกลเข้ามาเป็นรัฐบาล เป็นการจับมือกันระหว่างแดง-เหลือง-น้ำเงินเพื่อต่อสู้กับสีส้ม มีคำถามว่าจะทัดทานพลังสีส้มที่กำลังร้อนแรงได้ตลอดไปไหม

ดูเหมือนเป้าหมายเดียวที่ตั้งเป้าไว้ก็คือ แม้ว่าพรรคก้าวไกลจะสามารถชนะเลือกตั้งมาเป็นอันดับ 1 ได้ แต่ต้องไม่ให้พรรคก้าวไกลได้เสียงเกินครึ่ง ซึ่งจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้เห็นได้ว่าโอกาสที่จะเกิดขึ้นนั้นไม่ได้ง่ายเลย

ในอดีตทักษิณกับเนวินนั้นเป็นนายกับบ่าว เนวินนั้นรับใช้ทักษิณสุดลิ่มแบบถวายชีวิตให้ เคยเห็นภาพทักษิณขี่ช้างแล้วเนวินเดินข้างเท้าช้างเป็นจตุรงคบาทใช่ไหม แต่ที่คงจำกันได้ก็คือ วลี “มันจบแล้วครับนาย” หลังจากเนวินพา สส.จำนวนหนึ่งออกจากพรรคพลังประชาชนของทักษิณมาเพื่อสนับสนุนอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี วันนี้สำหรับเนวินสถานะของเขากับทักษิณนั้นไม่ใช่ฐานะนายกับบ่าวแล้ว แต่เสมอกันในฐานะผู้มีบารมีทางการเมืองที่เป็นกุนซือผู้อยู่เบื้องหลังพรรค

ก็ต้องดูว่าบทบาทของทักษิณกับเนวินที่สถานการณ์พามาให้จับมือกันอีกครั้งเพื่อต้านทานพรรคก้าวไกลนั้นจะประสบความสำเร็จหรือไม่ท่ามกลางกระแสอันเชี่ยวกรากผ่านทุกโพลว่า ยิ่งนับวันกระแสของพรรคก้าวไกลยิ่งมาแรงเกินจะฉุดรั้ง และสังคมต้องการเปลี่ยนผ่านนักการเมืองจากคนหน้าเก่าเป็นคนรุ่นใหม่

ดูเหมือนว่า เป้าหมายแรกที่ต้องทำคือ การตัด สส.บัญชีรายชื่อออกจากรัฐธรรมนูญ เพราะพรรคก้าวไกลจะมีคะแนนของพรรคมาก แม้แต่การเลือกตั้งครั้งที่แล้วคะแนนพรรคของพรรคก้าวไกลในภาคใต้ซึ่งเป็นพื้นที่ของคนเสื้อเหลืองก็ยังปันใจให้พรรคก้าวไกลมากที่สุด พรรคก้าวไกลจึงได้ สส.บัญชีรายชื่อเยอะถึง 39 คนกลายเป็นพรรคอันดับ 1 ชนะพรรคเพื่อไทยที่ได้ 29 คนแม้ได้ สส.เขตเท่ากันก็ตาม

แน่นอนเมื่อ สว.อยู่ในมือของพรรคสีน้ำเงินก็จะกำหนดหน้าตาของรัฐธรรมนูญได้ว่าจะออกมาอย่างไร ส่วนเสียงข้างมากในสภาล่างของพรรคร่วมรัฐบาลนั้นท่วมท้นอยู่แล้ว ดังนั้นเชื่อว่าเลือกตั้งครั้งหน้ารัฐธรรมนูญจะออกแบบมาให้แย่งชิงสส.เขตกันเท่านั้นไม่มีบัญชีรายชื่อ

สถานการณ์วันนี้บีบให้พรรคการเมืองทุกพรรคในขั้วรัฐบาลต้องจับมือกันตลอดไป เชื่อไหมว่า ครั้งหน้าพรรคเหล่านี้ก็อาจจะต้องจับมือกันอีกโดยมีพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาร่วมด้วยเพื่อโดดเดี่ยวพรรคก้าวไกล

ต้องรอดูบทบาทของเนวินกับทักษิณที่จะกลายเป็นขุนพลของฝ่ายอนุรักษนิยมจะสามารถรับมือกับความร้อนแรงของพรรคก้าวไกลได้ไหม
 
ติดตามผู้เขียนได้ที่ https://www.facebook.com/surawich.verawan