กองทัพอิสราเอลยังคงปฏิบัติการโหดในฉนวนกาซาและฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดน แต่ละวันสังหารชาวปาเลสไตน์หลายสิบราย ไม่รวมผู้บาดเจ็บและถูกจับกุม
เป็นการกระทำอย่างที่นักการเมืองและทหารอิสราเอลเคยประกาศว่าชาวปาเลสไตน์ต่ำชั้นกว่าความเป็นคน ยิ่งมีลัทธิเหยียดผิวเหมือนที่ประเทศแอฟริกาใต้เคยกระทำก็ยิ่งทำให้ชาวปาเลสไตน์ถูกปฏิบัติเหมือนไม่ใช่คน
และสิ่งที่กองทัพอิสราเอลกระทำเป็นความโหดเหี้ยมเหลือเชื่อว่าชนชาติเก่าแก่กว่า 3,000 ปีและเคยถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มากถึง 6 ล้านคน โดยทหารนาซียุคสงครามโลกครั้งที่สอง จะกระทำต่อมนุษย์ด้วยกันด้วยความเลือดเย็นอำมหิต
กว่า 9 เดือนกองทัพอิสราเอลได้ทำลายทุกอย่างในฉนวนกาซาจนไม่สามารถเป็นพื้นที่อยู่อาศัยได้ ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตมากกว่า 38,000 ราย บาดเจ็บพิการมากกว่า 80,000 ราย และยอดการสูญเสียยังมีต่อเนื่อง
ความอำมหิตของทหารอิสราเอลคือการห้ามองค์กรบรรเทาทุกข์ต่างๆ ส่งอาหารและสิ่งของจำเป็นรวมทั้งน้ำดื่มเข้าไปในพื้นที่กาซาสร้างปัญหาความอดอยากให้คน 2.3 ล้าน ที่อาศัยในพื้นที่กาซา
ล่าสุดทหารอิสราเอลปฏิบัติการแบบโหดใช้ชายบาดเจ็บชาวปาเลสไตน์จับมัดพาด ขวางกระโปรงรถทหาร เพื่อเป็นโล่มนุษย์เข้าไปในพื้นที่เจนิน ในฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดนทั้งที่ชาวบ้านเรียกรถพยาบาล
ภาพนี้ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกท่ามกลางเสียงประณามถึงความไร้มนุษยธรรมของทหารอิสราเอล ทำให้ผู้นำทหารอิสราเอลอ้างว่าเป็นพฤติกรรมที่ยอมรับไม่ได้และต้องมีการสอบสวน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพฤติกรรมการใช้โล่มนุษย์ทำนองนี้ ทหารอิสราเอลได้กระทำมาก่อน โดยเอาชาวปาเลสไตน์ไว้ในรถเพื่อป้องกันการโดนโจมตีโดยกลุ่มฮามาส เพียงแต่ไม่เป็นข่าว เพราะการเซ็นเซอร์โดยกองทัพอิสราเอล
อิสราเอลกำลังถูกรังเกียจอย่างมากโดยประชาคมโลกเพราะถูกกล่าวหาในศาลโลกว่ามีพฤติกรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ก่ออาชญากรรมสงคราม และสงครามกับมนุษยชาติ รวมถึงการดำรงระบบเหยียดสีผิว
คดียังคาศาลโลกรอคำพิพากษาขั้นสุดท้าย แต่มีหลายประเทศหยุดความเป็นมิตรกับอิสราเอลเช่น โบลิเวียและโคลัมเบียได้ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอล
ประเทศจอร์แดน ชิลี และบราซิลตัดสินใจเรียกทูตกลับ ที่ Morocco และแอลจีเรียได้ร่วมเป็นโจทก์ฟ้องกับแอฟริกาใต้ในคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
นอกจากนั้นประเทศนอร์เวย์ สเปน ไอซ์แลนด์ และสโลวีเนียได้ประกาศรับรองรัฐปาเลสไตน์ให้เป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติ ซึ่งรวมกันแล้วเกือบ 150 ประเทศ
ล่าสุดพฤติกรรมโหดเหี้ยมของผู้นำและกองทัพอิสราเอลทำให้รัฐบาลอังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส และแม้กระทั่งสหรัฐฯ ก็มีความอึดอัดใจเช่นกัน
สถานการณ์จากนี้ไปทำให้อาจมีเหตุร้ายคือการขยายการสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มรายล้อมเช่น กองกำลังติดอาวุธในเลบานอน อิรัก ซีเรีย และเยเมน และจะมีอิหร่านเป็นผู้สนับสนุนด้านอาวุธและกำลังคน
ช่วงนี้อิสราเอลและกองกำลังเฮซบอลเลาะห์รบกันแทบทุกวัน ด้วยการยิงจรวดและขีปนาวุธรวมทั้งปืนใหญ่ข้ามชายแดน ทำให้ชาวอิสราเอลกว่า 50,000 คน และชาวเลบานอนกว่า 100,000 คน ต้องอพยพออกจากพื้นที่ชายแดน
สหรัฐฯ ถูกกล่าวหาว่าสมรู้ร่วมคิดและให้ความร่วมมือสนับสนุนอิสราเอล ทั้งอาวุธและเงินงบประมาณในปฏิบัติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ อาชญากรรมสงครามทำให้ทั้งสองประเทศถูกโดดเดี่ยวโดยประชาคมโลก
สหรัฐฯ ยังปกป้องอิสราเอลด้วยการวีโตมติของคณะมนตรีความมั่นคง และสหประชาชาติหลายครั้งและภายในประเทศสหรัฐฯ มีกลุ่มนักศึกษาเดินขบวนประท้วงสงครามทั่วประเทศ คนยิวรุ่นใหม่ก็ร่วมด้วย
นักศึกษาทุกระดับในฉนวนกาซาหมดโอกาสได้ศึกษาต่อเพราะกองทัพอิสราเอลได้ทำลายโรงเรียนและมหาวิทยาลัยทุกแห่งเพื่อไม่ให้ชาวปาเลสไตน์ได้รับการศึกษา
กองทัพอิสราเอลยังได้ทำลายโรงพยาบาลเกือบทั้งหมดในฉนวนกาซา เพื่อไม่ต้องการให้หญิงมีความสะดวกในการคลอดบุตร ขณะที่ปัจจุบันเหยื่อสังหารส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้หญิง
นายกรัฐมนตรีอิสราเอล นายเบนจามิน เนทันยาฮู มีกำหนดเยือนสหรัฐฯ และกล่าวสุนทรพจน์ต่อสภาคองเกรสวันที่ 24 เดือนหน้า ทำให้เกิดความหวาดระแวงในกลุ่มนักการเมืองอเมริกันว่าผู้นำยิวจะฉวยโอกาสโจมตีสหรัฐฯ โดยเฉพาะประธานาธิบดีโจ ไบเดน ว่าลดการช่วยเหลือด้านอาวุธแก่อิสราเอล
วันเสาร์ที่ผ่านมา ชาวอิสราเอลกว่า 150,000 คนเดินขบวนในกรุงเทลอาวีฟ ขับไล่ผู้นำรัฐบาลนายเนทันยาฮู ซึ่งถูกเรียกว่าเป็น Crime Minister หรือรัฐมนตรีอาชญากรรม
