มหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ขององค์การสหประชาชาติซึ่งมีสมาชิกมากกว่า 190 ประเทศ เป็นเวทีสำหรับแก้ไขความขัดแย้งของสมาชิก ก่อตั้งมาหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
เป็นสถานที่รับรองการสร้างรัฐอิสราเอลในดินแดนปาเลสไตน์ในปี 1948 และเป็นการเริ่มต้นของปัญหาเรื้อรัง ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตต่อเนื่องด้วยฝีมือของชาวอิสราเอลและกองทัพ
วันนี้อิสราเอลได้ทำตัวเป็นรัฐอยู่เหนือกฎหมายที่บังคับใช้โดยสหประชาชาติ ข้อตกลงอนุสัญญาต่างๆ และได้ยกระดับเป็นรัฐก่อการร้าย ด้วยอาวุธสงครามจากสหรัฐฯ
อิสราเอลเป็นรัฐที่มักอ้างพระเจ้าและศาสนาในการก่ออาชญากรรมสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ทั้งยังประกาศว่าชาวปาเลสไตน์ต่ำชั้นกว่ามนุษย์ อยู่ระดับเดียวกับสัตว์ เป็นรัฐที่มีการเหยียดผิวและเชื้อชาติ
รัฐอิสราเอลมีประชาชนประมาณ 8 ล้านคน ได้รับการสนับสนุนโดยชาวยิวรุ่นเก่าในสหรัฐอเมริกา ซึ่งให้นักการเมืองอเมริกันหาเสียงทุกยุค ผู้นำรัฐบาลทุกคนต้องสนับสนุนอิสราเอล ไม่ว่าจะทำผิดกฎหมายอย่างไรในอาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
สถานการณ์ในฉนวนกาซาซึ่งอิสราเอลได้ใช้สารพัดอาวุธและเครื่องบินรบสังหารชาวปาเลสไตน์ต่อเนื่องกว่า 8 เดือน ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตมากกว่า 36,000 ราย บาดเจ็บมากกว่า 80,000 ราย
เหยื่อโหดอำมหิต ล้วนเป็นผู้หญิงและเด็กประมาณ 70% ของผู้เสียชีวิต มีข้ออ้างและข้อแก้ตัวอย่างไร้ยางอาย ไม่เคยยอมรับผิดตั้งแต่ก่อตั้งประเทศมา
อาคารสิ่งก่อสร้างทุกประเภทแม้แต่โรงพยาบาลและเต็นท์ผู้ลี้ภัยถูกทำลายโดยการทิ้งระเบิดโดยไม่เลือกเป้าหมาย แต่ละวันชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตหลายสิบคน
เป็นอาชญากรรมสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และภัยพิบัติต่อมนุษยชาติโดยฝีมือของกองทัพอิสราเอลและผู้นำรัฐบาล ซึ่งได้แสดงให้เห็นความกระหายเลือด โหดเหี้ยมอำมหิต ผิดมนุษย์
องค์การสหประชาชาติกำลังอยู่ในสภาพเป็นเสือกระดาษชัดเจน และศาลโลกซึ่งเป็นส่วนหนึ่งขององค์การนี้ก็ไร้อำนาจในการบังคับอิสราเอลให้หยุดยิงและหยุดฆ่าชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะสหรัฐอเมริกาให้ท้ายอิสราเอลทุกอย่างทั้งการส่งอาวุธต่างๆ ให้กองทัพอิสราเอลสังหารชาวปาเลสไตน์ ระเบิดบรรทุกเครื่องบินไปทิ้งเพื่อถล่มกาซา จนพินาศย่อยยับ
รวมทั้งการวีโตมติคณะมนตรีความมั่นคงทุกครั้งที่มีผลกระทบต่ออิสราเอล และคัดค้านการให้ความไร้สไตล์เป็นรัฐอิสระและสมาชิกองค์การสหประชาชาติ
กองทัพอิสราเอลภายใต้คำสั่งผู้นำรัฐบาลและรัฐมนตรีสงครามกระหายเลือดกำลังระบายความแค้นด้วยการสังหารชาวปาเลสไตน์ไม่เลือกหน้า ทั้งกลางวันและกลางคืน ล่าสุดส่งรถถังบุกเข้าในพื้นที่ราฟาห์ โดยไม่แยแสคำสั่งของศาลโลก
ความโกรธแค้นของผู้นำอิสราเอลเป็นเพราะประเทศกำลังถูกโดดเดี่ยวโดยประชาคมโลก เพราะมีหลายประเทศรับรองปาเลสไตน์ให้เป็นสมาชิกของสหประชาชาติ
ล่าสุดรัฐบาลสเปน ไอร์แลนด์ และนอร์เวย์รับรองปาเลสไตน์เมื่อวันที่ 28 ที่ผ่านมา ทำให้รัฐบาลอิสราเอลตอบโต้ด้วยการจำกัดบทบาทของสถานกงสุลและหน่วยงานของ 3 ประเทศในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดน
ความโกรธแค้นยังมีต่อคำสั่งของศาลโลกที่หยุดยิงในฉนวนกาซาและศาลอาญาระหว่างประเทศที่ขอให้ออกหมายจับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล
สภาพที่ถูกโดดเดี่ยวโดยประชาคมโลกทำให้อิสราเอลเคียดแค้น ทุกประเทศและทุกคนที่สนับสนุนให้ปาเลสไตน์เป็นรัฐอิสระ
นักศึกษาและประชาชนเดินขบวนในหลายเมืองทั่วโลกเพื่อสนับสนุนปาเลสไตน์ ต่อเนื่องไม่สนใจกับการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ซึ่งสิ้นสภาพความเป็นรัฐอิสระมีเสรีภาพและประชาธิปไตย
ยังคงเหลือสหรัฐฯ และกลุ่มประเทศยุโรปตะวันตกที่ยังคงสนับสนุนอิสราเอล แต่เยอรมนีและฝรั่งเศสประกาศว่าจะจับกุมนายกรัฐมนตรีอิสราเอลและรัฐมนตรีกลาโหมถ้าเข้าไปในประเทศ
สหรัฐฯ ยังคงไม่ยอมรับว่าอิสราเอลได้ก่ออาชญากรรมสงครามและตัวเองเป็นผู้สนับสนุนด้านอาวุธและการเงินเป็นที่รู้กันทั่วโลก
สภาพที่เป็นอยู่ เวรกรรมกำลังไล่ตามล่าอิสราเอลและผู้นำมือเปื้อนเลือด ประเทศมีปัญหาทางเศรษฐกิจและการเมืองรุนแรงและอยู่ในสภาพรัฐหมาหัวเน่า ยากที่จะฟื้นฟู
ดูว่าพระเจ้าจะช่วยได้หรือไม่หลังจากสร้างเวรกรรม อาชญากรรมสังหารเด็กผู้หญิง ชาวปาเลสไตน์มาตลอด 75 ปี