สหรัฐอเมริกา ชาติมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลกมาตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 รับบทบาทเป็นตำรวจโลก สร้างกฎกติกาต่างๆ อยู่เหนือองค์การสหประชาชาติ
เป็นชาติมหาอำนาจที่มีแสนยานุภาพที่ทุกประเทศต้องยอมรับ โดยเฉพาะหลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต และการสิ้นสุดขององค์กรสนธิสัญญาวอร์ซอ ของประเทศยุโรปตะวันออก
สหรัฐฯ และผู้นำสหภาพโซเวียตได้ลงนามสัญญาสันติภาพโดยฝ่ายสนธิสัญญานาโตจะไม่ขยายสมาชิกไปยังกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก ซึ่งจะเป็นการคุกคามรัสเซียหลังจากระบอบคอมมิวนิสต์ล่มสลาย
หลังจากสิ้นสุดยุคของประธานาธิบดีจอร์จ บุช ผู้ทำข้อตกลงกับนายมิคาอิล กอร์บาชอฟ คนที่เป็นผู้นำทำเนียบขาวต่อมาคือนายบิล คลินตัน ซึ่งเป็นผู้ไม่รักษาสัญญาว่านาโตจะขยายสมาชิก
จากนั้นเป็นคิวของจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ตัวลูก และบารัก โอบามา ก็ขยายพื้นที่สมาชิกนาโต จนล่าสุดคือยูเครน และจอร์เจียแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ เพราะรัสเซียบุกเข้าจอร์เจีย และยึดแหลมไครเมียจากยูเครน
ช่วงการเปลี่ยนผ่านอำนาจในยูเครนจากการปฏิวัติสีส้มวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2014 ทำให้ผู้นำยูเครนมาจากตัวตลกบนจอทีวีชื่อโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ซึ่งจะเป็นผู้ที่นำประเทศเข้าสู่สงครามกับรัสเซีย โดยมีสหรัฐฯ และยุโรปและพันธมิตรอื่นๆ รวม 54 ประเทศร่วมด้วย
การสู้รบหลังจากรัสเซียบุกเข้ายูเครนวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2021 และเกือบจะครบสองปีทำให้ทหารยูเครนเสียชีวิตกว่า 300,000 นายและบาดเจ็บพิการในจำนวนพอๆ กัน
การสู้รบทำให้เกิดการสูญเสียอย่างมากเพราะหลายเมืองของยูเครนถูกทำลาย และถูกยึดพื้นที่ไปประมาณ 20% ด้านตะวันออก
สหรัฐฯ และพันธมิตรได้ช่วยเหลือยูเครนเป็นเงินมากถึง 2.04 แสนล้านดอลลาร์ เป็นทั้งเงินช่วยเหลือและยุทโธปกรณ์สารพัดจนทำให้สต๊อกในคลังสรรพาวุธของนาโตและสหรัฐฯ พร่องแต่ยูเครนยังไม่มีแววจะชนะ
แม้จะถูกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการยึดเงินทรัพย์สินต่างๆ โดยกลุ่มชาติตะวันตก ผู้นำรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน สามารถยืนหยัดต่อสู้สงครามรูปแบบผสมจนรัสเซียอยู่ในสภาพแข็งแกร่งด้านเศรษฐกิจโดยไม่ต้องพึ่งโลกตะวันตกอีกต่อไป
แต่ยุโรปและสหรัฐฯ ได้รับผลกระทบอย่างแรงทำให้เศรษฐกิจถดถอยและยุโรปกำลังสิ้นสภาพความเป็นชาติอุตสาหกรรม เงินเฟ้อสูง ประชาชนยากจนลง
ล่าสุดสหรัฐฯ บอกยูเครนว่าไม่มีเงินช่วยเหลือให้แล้วเพราะงบประมาณ 6 หมื่นล้านดอลลาร์ ไม่ผ่านสภาผู้แทนฯ ซึ่งพรรครีพับลิกันกุมเสียงข้างมาก
ทางด้านประชาคมยุโรปก็ไม่สามารถให้เงินช่วยเหลือ 5.5 หมื่นล้านดอลลาร์ เพราะประเทศฮังการีไม่ยอมอนุมัติ เพราะโครงการจะต้องได้รับความเห็นชอบโดยมติเอกฉันท์โดยสมาชิก
ดังนั้นเงินก้อนใหญ่จากสหรัฐฯ และยุโรปจึงไม่ถึงยูเครนทำให้สิ้นสภาพที่จะสู้รบกับรัสเซีย ซึ่งแข็งแกร่งขึ้นทุกวันโดยอาวุธสารพัดเหนือกว่านาโตและสหรัฐฯ
อาจจะเป็นการดีสำหรับสหรัฐฯ และยุโรปในการเลิกสนับสนุนยูเครนซึ่งถูกปล่อยให้หาทางช่วยตัวเองและจุดจบคงจะเดาได้ไม่ยากว่าผู้นำและประเทศยูเครนจะเป็นอย่างไร
สหรัฐฯ เคยทิ้งเวียดนาม กัมพูชา ลาว อิรัก ซีเรีย และอัฟกานิสถาน หลังจากสู้รบในสงครามแล้วไม่ชนะทิ้งให้ประเทศเหล่านี้อยู่ในสภาพบ้านแตกสาแหรกขาดประชาชนเสียชีวิตและพิการ
และเหตุการณ์แบบเดียวกันกำลังจะเกิดขึ้นกับปาเลสไตน์ซึ่งสหรัฐฯ ได้สนับสนุนให้รัฐบาลและกองทัพอิสราเอลสังหารประชาชนไปแล้วมากกว่า 22,000 ราย เป็นเด็กประมาณ 8,000 และผู้หญิงประมาณ 7,000 ราย
ทั้งสหรัฐฯ และอิสราเอลถูกสังคมโลกประณามว่าประกอบอาชญากรรม ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และกฎบัตรเจนีวา
อิสราเอลถูกกล่าวหาว่าได้ดำเนินนโยบายแบ่งแยกสีผิวร้ายแรงกว่าที่เคยเกิดขึ้นในประเทศแอฟริกาใต้ และปัจจุบันรัฐบาลแอฟริกาใต้ได้ฟ้องผู้นำอิสราเอลในศาลอาญาระหว่างประเทศ ด้วยข้อหาอาชญากรรมสงคราม
โอกาสที่อิสราเอลจะชนะสงครามในปาเลสไตน์ ไม่ใช่เรื่องง่ายเว้นแต่ต้องสังหารหรือขับไล่ประชาชนมากกว่า 2,000,000 คนออกนอกประเทศซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะประชาคมโลก ชาวอาหรับมุสลิมไม่ยอม
ความเสื่อมของสหรัฐฯ ด้านเกียรติภูมิและผู้นำกำลังถึงจุดตกต่ำอย่างแรงเพราะผู้นำทำเนียบขาวอยู่ในกระบวนการถูกถอดถอน คู่ชิงทั้งคู่คือ โจ ไบเดนและโดนัลด์ ทรัมป์ ต่างอยู่ในวัยชราและมีปัญหากับกฎหมาย
กลุ่มบริกส์ ซึ่งมีจีนและรัสเซียเป็นแกนนำและสมาชิกเพิ่มขึ้นอีกมากในปีนี้ และส่งผลให้อิทธิพลของค่าเงินดอลลาร์จะลดลงเมื่อหลายประเทศลดการใช้เงินดอลลาร์และเงินยูโร
นั่นหมายความว่าอิทธิพลทางด้านการเมืองระหว่างประเทศและการเงินของสหรัฐฯ เริ่มตกต่ำอย่างรวดเร็ว ความเป็นชาติมหาอำนาจเริ่มไม่ได้รับการยอมรับในกลุ่มประเทศต่างๆ ในโลกที่ 3
สหรัฐฯ กำลังอ่อนแอด้านการเมือง ภาระหนี้สินปัญหาสารพัดเรื่องคนเข้าเมืองและเงินเฟ้อ ถ้าอิสราเอลไม่สามารถชนะสงครามได้ก็หมายถึงว่าสหรัฐฯ ต้องพ่ายสงครามทั้งในยูเครนและในตะวันออกกลาง
ยุคของความเป็นชาติมหาอำนาจหนึ่งเดียวอาจจะสิ้นสุดพร้อมกับคุณภาพผู้นำประเทศสหรัฐฯ ที่ด้อยค่าลง