xs
xsm
sm
md
lg

แค่ทำลายล้างแย่งดินแดนจากปาเลสไตน์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: อ.สุดาทิพย์ จารุจินดา อินทร



น่าจะอยู่ในดีเอ็นเอของผู้ล่า ซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์ที่ชอบล่าดินแดน, ล่าทรัพยากร, ปล้นชิงทรัพย์สิน; ที่จะใช้กลเม็ดทุกๆ อย่างเพื่อได้มาซึ่งสิ่งของของผู้อื่น เพื่อสร้างความมั่นคงและยั่งยืนแก่ตนเองและครอบครัว (เหมือนคนที่อยู่ชั้น 14 นั่นแหละ) โดยไม่ไยดีต่อความทุกข์ยากหรือแม้แต่เอาชีวิตของฝ่ายที่เสียเปรียบ

ดูประวัติศาสตร์ของชาวตะวันตกจะเห็นชัดจักรวรรดิแล้วจักรวรรดิเล่า อย่างไม่น่าเชื่อว่า อินโดนีเซียตกเป็นอาณานิคมของฮอลแลนด์ถึง 400 ปี แม้จะอยู่กันคนละฟากฟ้า; โปรตุเกสเป็นเจ้าอาณานิคมไกลมากถึงบราซิลในอเมริกาใต้; สเปน ก็ล่าได้อาณานิคมในอเมริกาเหนือ, กลาง, ใต้ ไปหลายประเทศ, ฝรั่งเศสก็ครอบครองอาณานิคมทั้งอเมริกาเหนือ (แคนาดา), (รัฐลุยเซียนา), อเมริกากลางและใต้ก็หลายประเทศ รวมทั้งในแอฟริกา (ทั้งไนเจอร์, กาบอง, กินี, แอลจีเรีย, มาลี ฯลฯ)

อังกฤษนั้น ขนาดประเทศใหญ่โตแบบอินเดีย ยังต้องเป็นอาณานิคมของอังกฤษอยู่ถึง 200 ปี (อย่างเป็นทางการ) และชาวภารตะต้องถูกกราดยิงตายครั้งเดียวเป็นหมื่นคนในการสู้กับเจ้าอาณานิคมอังกฤษ; และเข้าครอบครองพม่า ถึงขับกษัตริย์พระองค์สุดท้ายต้องโยกย้ายไปตายที่อินเดีย ทั้งยังทิ้งมรดกบาปให้ชาวพม่า บ้านเมืองต้องแตกแยกเป็นชนกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะกับกลุ่มโรฮิงญาที่อังกฤษจงใจวางยาเอาไว้เพื่อให้พม่าต้องเข่นฆ่ากันถึงทุกวันนี้

ในคาบสมุทรสุวรรณภูมิของเรา ก็ได้เห็นฤทธิ์เดชของทั้งอังกฤษและฝรั่งเศสที่จ้องจะตะครุบประเทศไทย ประหนึ่งหมาป่าน้ำลายสอที่เห็นประเทศไทยเป็นแกะที่จ้องจะขม้ำ...ถ้าไทยไม่มีพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่และทรงพระปรีชาสามารถดังเช่นสมเด็จพระปิยมหาราช ป่านนี้ก็คงเป็นลูกแกะที่อยู่ในอาณานิคมของฝรั่งเศสและอังกฤษ ดังเช่นเพื่อนบ้านรอบๆ ของเรา...แต่เพราะการทรงดำเนินวิเทโศบายด้านต่างประเทศอันลึกซึ้ง เราจึงยอมสละนิ้วเพื่อรักษาชีวิต...สละภาคใต้ตั้งแต่ปีนังจนถึงปลายแหลมมลายูให้อังกฤษ และบางส่วนของกัมพูชาให้ฝรั่งเศส จนทำให้พวกเราพูดได้อย่างยืดอกว่า ไทยไม่เคยตกเป็นเมืองขึ้นของตะวันตก ต่างกับประเทศกำลังพัฒนาในแทบทุกทวีปที่ถูกครอบครองและกลืนกินโดยตะวันตก

สำหรับประเทศสหรัฐฯ นั้น เห็นชัดในภาพยนตร์เรื่อง How the West Was Won ที่กองทัพสหรัฐฯ รุกคืบปราบปรามเจ้าของถิ่นคือ ชาวอินเดียนแดงหลายเผ่า-ที่ต้องอพยพละทิ้งแผ่นดินเกิด…หนีไปทางตะวันตก...ทั้งถูกเข่นฆ่าล้มตายทุกข์ทรมานแสนสาหัส...จนถูกจัดให้ไปอยู่ในค่ายกักกันอินเดียนแดงที่แถบเนวาดา, ไอดาโฮ โดยปราศจากการดูแลทั้งชีวิตความเป็นอยู่ และต้องเสียชีวิตจากโรคระบาด จนขณะนี้แทบจะไม่เหลือเผ่าพันธุ์ลูกหลานเลย...รวมทั้งการถูกกลืนชาติโดยบังคับให้ทิ้งวัฒนธรรมดั้งเดิม, ห้ามพูดภาษาดั้งเดิม...จนไม่นานมานี้เองที่เพิ่งมีกฎหมายให้ชาวอินเดียนแดงได้รับโอกาสในการศึกษา และการสาธารณสุข ซึ่งก็น่าจะสายเกินไปด้วยซ้ำ

ปรากฏการณ์ทำลายล้างแย่งชิงดินแดนจากเจ้าของถิ่นชาวอินเดียนแดงนี้ ก็เกิดเช่นเดียวกับในแถบแคนาดา จนพบหลุมฝังศพเด็กๆ อินเดียนแดงจำนวนมากเป็นร้อยๆ แห่งในโบสถ์คริสต์ ที่เจ้าอาณานิคมได้กวาดต้อนบังคับช่วงชิงเด็กๆ อินเดียนแดงมาจากพ่อแม่ เพื่อมาสั่งสอนในโรงเรียนคริสต์ เพื่อให้ลืมภาษาของตนและเรียนรู้วิธีทำงานเป็นทาสให้คนผิวขาวเจ้าอาณานิคม

ปรากฏการณ์ทำลายล้างแย่งชิงดินแดนจากเจ้าของถิ่นชาวเกาะเมารีที่ทวีปออสเตรเลีย ก็เช่นเดียวกันกับที่อเมริกาเหนือ, กลาง, ใต้ จนเมื่อไม่นานมานี้ในสมัยรัฐบาลนายเควิน รัตต์ จากพรรคเลเบอร์ได้ออกมากล่าวขอโทษจากรัฐบาลออสเตรเลีย ที่ได้ทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กับชนพื้นเมือง

ที่ประเทศแอฟริกาใต้ เกิดปรากฏการณ์รัฐบาลผิวขาวได้กวาดต้อนคนผิวดำเจ้าของถิ่นไปอยู่ในค่ายกักกัน Soweto โดยจงใจให้เจ้าของถิ่นเดิมต้องยากจนข้นแค้นแสนสาหัส, ไร้การศึกษาและการสาธารณสุข เพื่อให้ล้มตายหมดพืชพันธุ์...รวมทั้งการแบ่งแยกเหยียดผิวอย่างรุนแรง (Apartheid)...การเดินทางออกมาทำงาน (ระดับล่าง) นอก Soweto ต้องมีใบผ่านยังกะกำลังเดินทางออกนอกประเทศปานนั้น!! ถ้าคนผิวดำคิดต่อสู้ก็จะถูกทรมาน...บางทีจับนอนลากด้วยรถไปตามถนน เพื่อประจานจนถึงแก่ความตายแบบ Steve Biko น่าอเนจอนาถใจนักที่มนุษย์ทำกับเพื่อนมนุษย์ โดยเฉพาะกับเจ้าของดินแดนท้องถิ่นเดิม

จึงไม่น่าแปลกใจที่ปธน.รามาโฟซาแห่งแอฟริกา ได้ออกมาประณามอิสราเอลที่ทำการยิงถล่มกาซาในครั้งนี้ว่าเป็น Genocide

ที่ดินแดนปาเลสไตน์ ก็เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก่อนนี้ ทั้งที่สหรัฐฯ ออสเตรเลีย รวมทั้งแอฟริกาใต้ เป็นต้น

ตลอด 75 ปีตั้งแต่ 1948 ที่อังกฤษ-เป็นเจ้าอาณานิคมแถบตะวันออกกลาง ได้มอบดินแดนบางส่วนของปาเลสไตน์ให้เป็นประเทศของชาวยิว (ซึ่งกลายเป็นคนผิวขาวเต็มตัวหลังตั้งรกรากอยู่ในยุโรปและสหรัฐฯ เป็นเวลาร้อยๆ ปี...ดังพระราชนิพนธ์ของร. ๖ ที่ได้เค้าเรื่องมาจากเชกสเปียร์ ที่เขียนไว้เมื่อกว่า 400 ปีมาแล้ว-ถึงชาวยิวในเวนิสที่เป็นพ่อค้าพาณิชย์ที่มั่งคั่งในยุโรปมาช้านาน) ท่ามกลางความไม่พอใจของเจ้าของถิ่นเดิมคือ ชาวปาเลสไตน์ที่เป็นชนเผ่าอาหรับ ที่ได้ต่อสู้มาตลอดจากการตัดสินของสหประชาชาติในครั้งนั้น

การรุกคืบขยายปล้นชิงดินแดนของชาวยิวในเขตปาเลสไตน์เกิดขึ้นตลอดเวลา โดยการสนับสนุนของรัฐบาลตะวันตก ซึ่งได้รับเงินสนับสนุนผ่านพรรคการเมืองจากเงินของนักการธนาคาร, นักการเงิน, เจ้าของสื่อยักษ์, เจ้าของบริษัทน้ำมัน, เจ้าของบริษัทยา, บริษัทโฆษณา, สำนักกฎหมาย รวมทั้งบริษัทผลิตอาวุธซึ่งทั้งเจ้าของกิจการ, ผู้ถือหุ้นใหญ่ รวมทั้งซีอีโอมักเป็นชาวยิว ที่บางทีมี 2 สัญชาติคือ อเมริกากับอิสราเอล หรืออังกฤษกับอิสราเอล

ดังคำกล่าวล่าสุดของเลขาธิการสหประชาชาติ (เดิมได้กล่าวประณามกลุ่มฮามาสอย่างรุนแรงในปฏิบัติการถล่มอิสราเอลเมื่อ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา) และได้เห็นถึงการกระทำผิดกฎหมายระหว่างประเทศ ที่นายกฯ เนทันยาฮูประกาศลั่นจะกำจัดฮามาส (และชาวปาเลสไตน์) ให้สิ้นซาก...ว่า

“การโจมตีของฮามาสเมื่อรุ่งสางของวันที่ 7 ตุลาคม ไม่ได้เกิดจากอากาศธาตุ” หมายถึงมันมีที่มาว่าทำไมฮามาสจึงระเบิดปฏิบัติการสายฟ้าแลบแบบนั้น เพราะต้องทนทุกข์ทรมานแสนสาหัสจากการบดขยี้รุกคืบของอิสราเอลตลอด 56 ปีที่ผ่านมา


กำลังโหลดความคิดเห็น