การแข่งขันทางการเมืองไม่ว่าจะเป็นประเทศไหนขอเล่นกันถึงพริกถึงขิงและบางกรณีถึงเลือด นอกจากการแข่งขันระหว่างพรรคการเมืองแล้วยังมีการชิงดีชิงเด่นในพรรคเดียวกัน
การเมืองจึงเป็นเรื่องของการชิงความเป็นใหญ่เพื่ออำนาจและผลประโยชน์และยอมกันยาก ถ้าเป็นกรณีที่เดิมพันสูงแม้จะเอาอุดมการณ์และแนวนโยบายก็ตาม
ช่วงที่ผ่านมา เราได้เห็นการหักหลังทางการเมืองในบ้านเราทำกันอย่างซึ่งหน้า นำเสริมด้วยวาทกรรมที่ฟังแล้วดูดีเพื่อแหกตาชาวบ้านให้เชื่อ
การเมืองจึงเป็นเหมือนพาราสาวัตถีไม่มีใครปรานีใคร นอกจากได้อำนาจแล้วยังต่อสู้เพื่อความยั่งยืนเพื่อผลประโยชน์และหวังสืบทอดต่อไป
ไม่กี่วันเราเห็นการหักล้างอย่างเลือดเย็นในการเมืองของสหรัฐฯ คนในพรรครีพับลิกันเพียง 8 เสียงร่วมมือกับพรรคเดโมแครตซึ่งเป็นฝ่ายค้านลงคะแนนเสียงล้มประธานสภา ฯ สังกัดฝ่ายรีพับลิกัน
ประกาศให้รู้ล่วงหน้าด้วยว่ามีแผนจะล้มประธานสภาผู้แทนราษฎร นายเควิน แมคคาร์ธี ซึ่งดำรงตำแหน่งตั้งแต่เดือนมกราคมปีนี้หลังจากเลือกตั้ง
กว่าจะได้ตำแหน่งนี้มาต้องให้สภาผู้แทนลงคะแนนเสียงถึง 15 ครั้งกว่านายแมคคาร์ธี ซึ่งเป็น สส.จากมลรัฐแคลิฟอร์เนีย จะได้นั่งเก้าอี้ต่อจากนางแนนซี เพโลซี ซึ่งสังกัดพรรคเดโมแครตแต่มีเสียงข้างน้อยในสภาฯ
หัวโจกในการล้มประธานสภาผู้แทนครั้งนี้เป็น สส.แนวขวาจัดจากรัฐฟลอริดาชื่อ แมตต์ เกตซ์ ซึ่งสามารถระดมเสียงพวกเดียวกันได้ 8 เสียงบวกกับพรรคเดโมแครตฝ่ายค้าน ได้ 216 ต่อ 210
ทั้ง 210 เสียงเป็นพรรครีพับลิกันทั้งหมด แต่มีเสียงแตก 8 เสียงนำโดยนายเกตซ์ ถือว่าเป็นการหักหลังพวกเดียวกันอย่างซึ่งหน้า และก่อนหน้านี้ก็เป็นกลุ่มนี้ที่ไม่ยอมรับนายแมคคาร์ธีให้เป็นประธาน
ครั้งนี้มี สส.ซึ่งเคยสนับสนุนนายแมคคาร์ธี ยอมแหกคอกร่วมกับฝ่ายค้าน การล้มเก้าอี้ประธานสภาฯ ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐฯ เมื่อประธานสภาฯ ไม่ได้รับความไว้วางใจจากคนในพรรคเดียวกัน
นายแมคคาร์ธียอมรับความพ่ายแพ้และประกาศว่าจะไม่ลงชิงเก้าอี้ในศึกเลือกตั้งประธานสภาฯ ครั้งหน้า และยังไม่มีใครอาสาจะเป็นคู่ชิงในพรรคเดียวกัน
การล้มเก้าอี้ตำแหน่งประธานสภาฯ ครั้งนี้เป็นผลมาจากความพยายามผ่านงบประมาณเพื่อไม่ให้รัฐบาลต้อง Shut Down เพราะขาดงบประมาณซึ่งจะทำให้หน่วยงานของรัฐต้องหยุดงาน
ผลสุดท้ายจากการต่อรองทำให้สภาฯ ผ่านไปได้ด้วยมาตรการชั่วคราวซึ่งรัฐบาลจะมีงบประมาณใช้นาน 45 วันโดยทางฝ่ายนายแมคคาร์ธี ยอมตัดงบช่วยเหลือยูเครนออกไปแต่มีงบเพื่อใช้จ่ายกรณีภัยพิบัติฉุกเฉิน
เป็นการสมประโยชน์กันระหว่างพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันซึ่งหาทางออกร่วมกันชั่วคราวโดยที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดนอ้างว่าถึงอย่างไรก็จะต้องหางบประมาณมาสนับสนุนยูเครนต่อไป
การที่นายแมคคาร์ธี ยอมประสานผลประโยชน์ครั้งนี้ทำให้กลุ่มหัวรุนแรง 8 เสียงไม่พอใจและประกาศโค่นประธานสภาฯ ของตัวเอง
ประเด็นการช่วยเหลือยูเครนจึงเป็นเรื่องที่จะต้องต่อสู้กันในสภาผู้แทนและวุฒิสภาในบรรยากาศที่คนอเมริกันเริ่มถามว่าได้ประโยชน์อะไรจากการทุ่มเงินช่วยยูเครน โดยที่ไม่เห็นหนทางชนะสงครามกับรัสเซีย
สถานการณ์จากนี้ยังไม่แน่นอนว่าใครจะเป็นตัวชิงประธานสภาฯ ซึ่งมีอำนาจมากมาย และต้องหาทางทำให้ได้ก่อนที่จะหมดเวลา 45 วันเพื่อที่จะต้องผ่านงบประมาณเพื่อป้องกันการ Shut Down
ไม่ว่าใครจะมาเป็นตัวแทนของรีพับลิกันจะต้องเป็นผู้ประสานผลประโยชน์ให้ลงตัวระหว่างกลุ่มต่างๆ ให้ยอมรับและยังจะต้องต่อรองกับพรรคเดโมแครตซึ่งคุมเสียงข้างมากในวุฒิสภา
ปัญหาการเมืองอเมริกันยังมีอยู่ต่อไปโดยเฉพาะการเลือกผู้นำทำเนียบขาวซึ่งยังไม่รู้ว่าจะเป็นใครเพราะทั้ง โดนัลด์ ทรัมป์ ฝ่ายรีพับลิกันก็โดนคดีอาญานัวเนียและโจ ไบเดนก็อยู่ในกระบวนการถูกถอดถอนโดยสภาผู้แทนฯ