การเมืองไทยยังดูวังเวง ไม่รู้ว่าจะมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่เป็นใคร เมื่อไหร่ยังไม่มีการกำหนดวัน และพรรคนายห้างดูไบยังไม่ได้เจาะจงตัวคู่ชิงว่าจะเป็นใคร
จะรู้ว่ามีเลือกตั้งวันไหน ต้องรอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณีคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินก่อนว่าจะออกมาในรูปแบบไหน วันที่ 16 เดือนนี้
ดูท่าแล้ว คงจะเป็นพรรคนายห้างดูไบนั่นแหละที่จะต้องวัดความนิยมของประชาชน ที่ผ่านมาก็ทุลักทุเลกับการรวบรวมพรรคที่สรรหาคำอ้างมาอยู่ด้วยกัน
ตอนนี้เป็นการรวมตัวกันแบบไม่ต้องมีเอ็มโอยูเหมือนครั้งแรก เพราะถูกพิสูจน์แล้วว่าไม่มีความหมายอะไร ผูกมัดไม่ได้ ทำให้พรรคด้อมส้มกินแห้วทุกวันนี้
พรรคนายห้างดูไบยังต้องผ่านความไม่แน่นอนอีกหลายขั้นตอน แม้จะรวบรวมเสียงได้พอแล้ว ไม่เอาค่ายด้อมส้ม ค่ายสะตอ ค่ายหญิงหน่อย ก็ยังต้องลุ้นกับ ส.ว.
จะมีเสียง ส.ว.เพียงพอให้ตัวแทนพรรคนายห้างดูไบได้เป็นหัวหน้ารัฐบาลหรือไม่ ถ้าเป็นเศรษฐีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ต้องรู้สึกหวาดเสียวมาก
ตามรัฐธรรมนูญ ผู้เป็นนายกฯ ต้องเป็นผู้มีความซื่อสัตย์ สุจริต มีจริยธรรมเป็นที่ประจักษ์ ดังนั้นไม่ว่าคู่ชิงเก้าอี้นายกฯ จะมาจากพรรคใด จะต้องมีคุณสมบัติข้อนี้
ดูแล้ว ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็ผ่านข้อนี้ยาก ถ้ามีการแสดงวิสัยทัศน์และซักฟอกในรัฐสภาเหมือนกรณีตัวแทนพรรคขวัญใจด้อมส้มโดนมาแล้ว และไม่ผ่าน ส.ว.
ดังนั้นเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์พรรคนายห้างดูไบจะต้องขุดคุ้ยทั้งนอกและในสภาฯ พฤติกรรมก่อนหน้านี้ เรื่องการบริหารธุรกิจ ต้องผ่านการซักไซ้จนถึงแก่น
เสี่ยอ่างนักแฉเตรียมชุดใหญ่ไว้เปิดโปงพฤติกรรมน่าสงสัยของเศรษฐีร่างโย่งด้วย ข้อมูลชุดแรกไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ยังสามารถขุดประเด็นความโปร่งใส จริยธรรมและหลักธรรมาภิบาลในการบริหารงานว่าซื่อตรง น่าไว้ใจหรือไม่
ก็มีคำถามว่าถ้าบริหารบริษัทมหาชนในรูปแบบนี้ จะทำกับการบริหารงานรัฐบาลด้วยวิธีซิกแซ็ก ใช้เส้นทางลัด ลดเลี้ยวเคี้ยวคด ไม่สง่างามหรือไม่
ถ้าไม่ผ่าน ตัวเศรษฐีนักธุรกิจก็จะมีปัญหากับงานภาคเอกชน พรรคนายห้างดูไบก็ถูกมองว่าไม่รอบคอบในการประเมินบุคคลที่จะมาเป็นผู้นำประเทศ
เสี่ยอ่างก็อยู่ในสภาพโดนสงสัยว่ามีนอกมีในหรือไม่ ตัวเองประกาศว่าจะมีชีวิตอยู่อีกประมาณ 8 เดือนเพราะโรคมะเร็งในตับ ต้องไปรักษาตัวที่อังกฤษเดือนตุลาคม
ก่อนจะไป เสี่ยอ่างคงจะต้องไว้ลาย แม้จะมีคดีฟ้องร้องหมิ่นประมาทราคาแพง
ประธานสภาผู้แทน ซึ่งต้องเป็นประธานรัฐสภา ท่านวันนอร์ ก็ยังไม่กำหนดว่าจะเลือกนายกฯ วันไหน ระหว่าง 18 ถึง 22 เดือนนี้ ท่ามกลางเสียงบ่นว่าล่าช้า
อันที่จริง ถ้าจะได้รัฐบาลใหม่ช้า เป็นคุณบางประการ เช่นทำให้ถ่วงเวลาพวกเสือหิวกลุ่มใหม่เข้ามาจัดสรรปันส่วนเขมือบโครงการต่างๆ ที่เล็งไว้
ก่อนหน้านี้ มีความพิสดารเรื่องการรวมตัวตั้งรัฐบาล เลี่ยงข้อผูกมัดประกาศไว้ช่วงหาเสียง เช่น “มีลุงไม่มีเรา” “เราไม่เอา 2 ลุง” อะไรทำนองนั้น ทำกันเหมือนเป็นตัวน่ารังเกียจ เหมือนพรรคด้อมส้มซึ่งตอนนี้ไม่มีใครเอาด้วยเพราะเรื่อง มาตรา 112
เมื่อเสียงไม่ครบ ต้องหาทางทำลายคำมั่น แต่ต้องเสียคำพูดและให้ตัวเองดูดีด้วย ดังนั้นจึงมีวาทกรรมแหกตาชาวบ้าน อ้างว่าต้องรีบแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ประเทศต้องไปต่อ อะไรก็สุดแล้วแต่จะคิดว่ากล่อมชาวบ้านบ้องตื้นได้
ชาวบ้านยังไม่ว่าอะไร มีแต่ม็อบเครือข่ายด้อมส้มมาโชว์ถ่อยกับคนพรรคเสี่ยหนู และสร้างสิ่งปฏิกูลในพรรคนายห้างดูไบ ไม่เห็นด้วยกับการตั้งรัฐบาลกับพวกลุง
การมีม็อบเป็นเรื่องธรรมดา พรรคนายห้างดูไบก็เคยมีม็อบเสื้อแดงป่วนเมือง มีคนบาดเจ็บล้มตายหลายสิบคน ทำให้มีรัฐประหาร แช่เย็นประชาธิปไตยมาแล้ว
สุดท้ายลุงห้าวเป้งนักรัฐประหาร ก็เอาสมุนนายห้างดูไบมาเป็นฐานการเมือง มีตำแหน่งทำมาหากินได้จนอ้วนอิ่มนานครบ 4 ปี แต่ลุงห้าวเป้งอยู่ยาวถึง 9 ปีแล้ว
ฉะนั้น การเมืองจึงไม่มีมิตรแท้ ศัตรูถาวร มีแต่ผลประโยชน์ร่วมกันเป็นตัวเชื่อม
การเป็นรัฐบาลจึงเป็นเรื่องจำเป็น เสียหน้า เสียคำพูดเป็นเรื่องจ้อย เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น และด้วยความอยากเป็นพรรคร่วมรัฐบาล จึงมีคำพูดพิลึก เช่น “เข้ามาร่วมโดยไม่มีเงื่อนไข” โดยพรรคลุงใหญ่ และอีกพรรคลุงก็จะมาด้วย
แต่ไม่ยอมชี้ชัดว่า “ลุงป้อม” ซึ่งหมายมั่นว่าจะเป็นนายกฯ ยอมโอเคหรือไม่กับตำแหน่งที่ไม่ใช่นายกฯ จะให้น้องชายมากินตำแหน่งกระทรวงใหญ่หรืออย่างไร
เอาเป็นว่ามาถึงขั้นนี้แล้วก็ยังไม่มีความแน่นอน ถ้าเศรษฐีตัวแทนพรรคนายห้างดูไบเป็นตัวแทน สงสัยจะไม่ผ่านด่าน ส.ว.ด้วยปัญหาคุณสมบัติ พฤติกรรม
จากนั้นจะไล่ยาวไปทีละคน จนถึง “ลุงป้อม” หรือไม่ เมื่อนายห้างดูไบยังมีความเห็นต่างกับแม่ของลูกสาวที่จะเป็นคู่ชิง ว่าจะเผชิญแรงต้าน ปัญหาม็อบ
พรรคนายห้างดูไบมีตัวชิง 3 คน จากนั้นก็ถึง “เสี่ยหนู” พรรคหนุนกัญชา ก่อนถึง “ลุงป้อม” ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ถือว่าบ้านเมืองมีปัญหาเรื่องผู้นำขั้นวิกฤต
ตัวแทนชิงเก้าอี้นายกฯ แต่ละคน ไม่มีกลิ่นสะอาดจนดมพิสูจน์ได้ อย่างนั้นเลย
จากวันนี้ กว่าจะได้นายกฯ คนใหม่ น่าจะต้องใช้เวลาอีกจนถึงเกือบสิ้นเดือน หรือนานกว่านั้นถ้ามีสถานการณ์แปรผัน ท่านห้าวเป้งก็เต็มใจรักษาการไม่ย่อท้อ
พวกม็อบก็เย้วๆ กันต่อไป เพื่อสร้างผลงานเอาไปวางบิลกับผู้ว่าจ้าง เดินตามพวกที่สู้จนรวยแล้วหนีไปบวชเลื่อนเวลาเข้าคุก การเมืองไทยจึงทุลักทุเลต่อไป
บ่นมากๆ ไม่เป็นไร นี่เป็นจิตวิญญาณไทยแท้กับการเมืองน้ำเน่า