xs
xsm
sm
md
lg

จริงจังได้แล้ว! ก้าวไกลปล่อยมวลชนถ่อยเถื่อน ยิ่งฉุดพรรคดิ่งลง คิดจะเปลี่ยนแปลงประเทศ ต้องจัดการเรื่องนี้ก่อน!! ** “เพื่อไทย”ประกาศสลายขั้ว ไม่ปิดกั้นพรรคลุง “เสรีพิศุทธ์”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

**จริงจังได้แล้ว! ก้าวไกลปล่อยมวลชนถ่อยเถื่อน ยิ่งฉุดพรรคดิ่งลง คิดจะเปลี่ยนแปลงประเทศ ต้องจัดการเรื่องนี้ก่อน!!


ถ่อยเถื่อนเกินกว่าจะยอมรับได้ สำหรับ “ม็อบทะลุวัง” นำโดย “บุ้ง” เนติพร เสน่ห์สังคม ที่ไปขัดขวางแกนนำพรรคภูมิใจไทย ไม่ให้ออกจากพรรคเพื่อไทยหลังแถลงข่าวร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล เมื่อช่วงบ่ายแก่ๆ วันที่ 7 สิงหาคม ที่ผ่านมา เพราะไม่เพียงแค่ไปยืนขวางเฉยๆ แต่ยังตะโกนคำหยาบคายใส่หน้า “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ลงจากรถไปขอร้องให้ถอยออกไปก่อน ซ้ำยังจุดพลุแฟลร์ โยนเข้าใส่ ไม่สนใจว่าจะไปโดนใคร จนพลุแฟลร์ ไปเข้าตานักข่าวรายหนึ่ง เกือบได้มีเรื่องชกต่อยกัน

คิดดูว่าชาวบ้านชาวเมืองเขาจะเอือมระอาขนาดไหน คนกันเองอย่าง “สุนัย ผาสุก” ที่ปรึกษาฮิวแมนไรตส์วอตช์ ประจำประเทศไทย ที่เคยเข้าข้างการชุมนุมของกลุ่ม 3 นิ้วมาโดยตลอด ยังต้องออกมาฟาดแรงๆว่า นี่มันล้ำเส้นการใช้เสรีภาพแสดงออกอย่างสันติแล้ว ทำอย่างนี้มีแต่จะเสียแนวร่วม ซ้ำยังเสียความคุ้มครองภายใต้กติกาสากลที่เคยได้รับ

หรืออย่าง “อังคณา นีละไพจิตร” อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่สนับสนุนการเคลื่อนไหวของภาคประชาชนมาตลอด ก็ยังโพสต์เฟซบุ๊กเตือนว่า การใช้ความรุนแรงและคำพูดที่สร้างความเกลียดชัง มีแต่จะลดทอนความชอบธรรม และบดบังอุดมการณ์ที่มุ่งมั่น

รศ.เจษฎ์ โทณะวณิก
มีคำถามพุ่งตรงไปที่ “พรรคก้าวไกล” ว่า ม็อบที่ออกมาแสดงพฤติกรรมถ่อยๆ พวกนี้ พรรคก้าวไกลอยู่เบื้องหลังหรือไม่ เพราะเป้าหมายการเคลื่อนไหว ก็เห็นๆ กันอยู่ว่า ต้องการให้พรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล และให้ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เป็นนายกฯ

แต่เมื่อวันก่อน แกนนำพรรคก้าวไกล อย่าง “เจี๊ยบ” อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ที่เคยใช้ตำแหน่ง ส.ส.ประกันตัวแกนนำทะลุวัง และม็อบสามนิ้วมาแล้วหลายครั้ง ยังคงปฏิเสธคอเป็นเอ็นว่า พรรคก้าวไกลไม่ได้อยู่เบื้องหลัง อ้างว่าเยาวชนเหล่านี้โตๆ กันแล้ว ไปชี้นำหรือสั่งสอนไม่ได้ ถ้าเขาไม่เห็นด้วย ขนาดพ่อแม่เขายังไม่ทำตามเลย แล้วเราเป็นอะไร

ถึงแกนนำพรรคก้าวไกลจะปฏิเสธว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังอย่างไรก็ตาม แต่กูรูการเมืองอย่าง “รศ.เจษฎ์ โทณะวณิก”นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ ให้ความเห็นแบบฟันธงไปเลยว่า พรรคก้าวไกลเกี่ยวข้องแน่นอน!!

“อาจารย์เจษฎ์” มองว่า ในความเป็นพรรคก้าวไกล มันมีเรื่องของ “กลุ่มทะลุวัง” ที่กำลังเป็นประเด็นกันอยู่ ไปจนถึงเรื่องของคณะก้าวหน้า

นอกจากนี้แล้ว พรรคก้าวไกล ยังไม่ได้รับการยอมรับในสายตาของพรรคการเมืองด้วยกัน ยกเว้นกลุ่มที่ต้องเข้าไปจับมือด้วยความจำเป็น ซึ่งมีไม่มากนัก ขณะที่ภาพรวม พรรคการเมืองส่วนใหญ่ ไม่เอาด้วยกับก้าวไกล ด้วยประเด็นของการที่พรรคก้าวไกล มุ่งมั่นจะแก้ไข หรือยกเลิก ม.112 เรื่องนี้ หลายพรรคเขาไปต่อด้วยไม่ได้ เพราะมันกระทบกันหมด กระเทือนกันหมด

“บุ้ง”เนติพร เสน่ห์สังคม
พรรคก้าวไกลยังมี “คณะก้าวหน้า” และกลุ่มนั้นกลุ่มนี้เต็มไปหมด ซึ่งการทำงานของพรรคก้าวไกล คือการไม่ผูกมิตร สวนทางกับธรรมชาติการเมืองที่ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร แน่นอนเมื่อใครเห็นก้าวไกล ก็ไม่อยากทำงานด้วย

“อาจารย์เจษฎ์” ยังชี้ว่า มวลชนของพรรคก้าวไกล คือ “ตัวฉุดพรรค” ให้ดิ่งต่ำลง ยกตัวอย่าง ถ้าพรรคก้าวไกลมีความคิด มีชุดอุดมการณ์ เขาปรับแต่งได้เรื่องการทำงานกับฝ่ายต่างๆ ประสบการณ์จะสอนเขาเอง เรื่องท่าทีทางการเมืองเขาจะเข้าใจเมื่อมีพัฒนาการ เมื่อมีวุฒิภาวะ

แต่มวลชน ซึ่งไม่ว่าจะช่วงอายุไหน ก็เห็นความก้าวร้าว และไม่ย่อท้อในการสร้างเงื่อนไขไปสู่ความขัดแย้ง นี่คือสิ่งที่แบกก้าวไกลไปพร้อมๆ กับดึงรั้งพรรคก้าวไกล

มวลชนพรรคก้าวไกลมีความคิดดีๆ ก็มาก เช่น การปราบทุจริต การทำลายระบบทุนผูกขาด การทำลายเรื่องเส้นสาย แต่ปัญหาคือ วิธีที่เขามุ่งจะใช้ความรุนแรงในการทำลาย และสิ่งใหม่มาแทนที่ มันถึงได้เกิดการไล่ล่า

พรรคก้าวไกล คงหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบกับพฤติกรรมของมวลชนหรือไม่ แม้ว่าคนทำงานการเมืองเข้าไปนั่งในสภา คงไม่อยากไปไล่ล่าใคร เขาแค่ต้องการแบ่งแยก แล้วปกครอง แต่ที่สุดแล้วพรรคการเมืองหนึ่งจะต้องรับผิดชอบต่อกองเชียร์ของตน ในแง่ของการเข้าไปห้ามปราม ไม่ให้เกิดความก้าวร้าวรุนแรง

ซึ่ง “อาจารย์เจษฎ์” เชื่อว่า พรรคก้าวไกลต้องจัดการเรื่องนี้ก่อน

กลุ่มทะลุวังไปป่วนที่กระทรวงวัฒนธรรม
** “เพื่อไทย”ประกาศสลายขั้ว ไม่ปิดกั้นพรรคลุง “เสรีพิศุทธ์” เปรียบการทำศึก เมื่อแม่ทัพของศัตรูแพ้ ก็ควรกวาดต้อนไพร่พลมาใช้งาน ไม่ใช่ฆ่าทิ้งหมด!!
การตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย มีความคืบหน้าไปอีกนิดหน่อย โดยเมื่อวานนี้ (9 ส.ค.) “นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงว่าตอนนี้ได้มาเพิ่มอีก 6 พรรค มี พรรคประชาชาติ พรรคเสรีรวมไทย พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคเพื่อไทยรวมพลัง พรรคพลังสังคมใหม่ พรรคท้องที่ไทย รวมเป็น 8 พรรค 228 เสียง และจะไปเจรจา เชิญพรรคชาติไทยพัฒนา มาร่วมในวันนี้ (10 ส.ค.) ถ้าสำเร็จ ก็จะมี 238 เสียง ยังขาดอีก 13 ถึงจะเกินกึ่งหนึ่งของจำนวน ส.ส.ในสภาคือ 251 เสียง

ครั้งนี้ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่รับหน้าเสื่อเป็น “ผู้จัดการรัฐบาล” บอกว่าในท่ามกลางวิกฤต รธน. วิกฤตเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้อง วิกฤตความขัดแย้งในสังคม แบ่งฝักแบ่งฝ่าย แบ่งสี แบ่งขั้ว การที่จะแก้วิกฤตครั้งนี้ได้ ต้องสลายขั้วการเมือง ดึงความร่วมมือจากทุกพรรค ทุกฝ่าย ทุกกลุ่ม ทุกคน มาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทย และ นายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย เพื่อนำพาประเทศออกจากวิกฤต

เป็นการบอกถึงนัยยะว่า ไม่ปิดกัน “พรรคสองลุง” คือ พรรคพลังประชารัฐ และ พรรครวมไทยสร้างชาติ ขอเพียงนายกฯ ยังเป็นคนของพรรคเพื่อไทย

แพทอง ธารชินวัตร  พาแกนนำพรรคไปเจรจากับก้าวไกล
หลังแถลงข่าวเสร็จ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยแกนนำพรรค ก็เดินเท้า จากอาคารโอเอไอ ทาวเวอร์ (ที่ทำการพรรคเพื่อไทย) ไปอาคารไทยซัมมิท เพื่อเข้าเจรจากับ พรรคก้าวไกล ที่มี “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรค และแกนนำอีกหลายคนรออยู่ก่อนแล้ว โดยใช้เวลาหารือกันว่า 1 ชั่วโมง

ว่ากันว่าเป็นการไปขอโทษขอโพยกัน และขอให้ก้าวไกล ช่วยโหวตหนุนนายกฯของพรรคเพื่อไทย แบบไม่ต้องมาร่วมรัฐบาล เพื่อจะได้ไม่ต้องพึ่งเสียง ส.ว.และไม่ต้องพึ่งเสียงส.ส.ของพรรคสองลุง เมื่อโหวตเสร็จ ก้าวไกล ก็ไปทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน

ก่อนหน้านี้ มี ส.ส.ก้าวไกล เคยออกมาบอกว่า คงไม่โง่ ที่จะไปทำเช่นนั้น รวมทั้ง “ช่อ” พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า และ“เจี๊ยบ” อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล แกนนำก้าวไกล ก็ยังออกมาพูดในเชิงกระแนะกระแหน ว่า หนีไปแต่งงานใหม่ แล้วยังจะให้เมียเก่า ตามไปปูที่นอนให้อีกหรือ

ซึ่งเรื่องนี้วงในวิเคราะห์กันว่า หากก้าวไกล ยอมทำตามที่เพื่อไทยขอ สิ่งที่ก้าวไกลจะได้ คือ อาจจะได้ร่วมรัฐบาลในภายหลัง หากมีการปรับครม. หรือช่วยผลักดันกฎหมายสำคัญๆ ที่พรรคก้าวไกลเสนอ รวมทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่จะมีคนของก้าวไกล เข้าไปร่วมเป็น ส.ส.ร. ที่สำคัญคือ แค่มาช่วยโหวตก็จะเป็นการตัดวงจรการสืบทอดอำนาจของฝ่ายทหารได้ในทันที

หลังการเจรจา ทั้ง “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร และ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ต่างตอบคำถามสื่อ แบบสายลม แสงแดด ฝนพรำ ยังไม่มีความชัดเจนว่า ก้าวไกล โอเค กับข้อเสนอดังกล่าว หรือไม่

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส
แต่การเดินหมากแต้มนี้ ถือว่า “เพื่อไทย” มีแต่ได้ เพราะถ้าก้าวไกลยอมโหวตให้ เพื่อไทย ก็ไม่ต้องไปดึงพรรคสองลุงมาร่วมรัฐบาล ไม่ต้องถูกด่าว่าตระบัดสัตย์... แต่ถ้าก้าวไกลไม่โอเค เพื่อไทยก็จะมีข้ออ้างว่าได้พยายามถึงที่สุดแล้ว เมื่อการเมืองถึงทางตัน จึงจำเป็นต้องร่วมสังฆกรรมกับสองลุง เพราะประเทศชาติรอไม่ได้แล้ว

เรื่องร่วมหรือไม่ร่วม กับสองลุงนี้ “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส” หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย “ตัวตึง” ในวงแถลงข่าว บอกว่า... ขอวิงวอนให้พี่น้องประชาชนได้เข้าใจเสียใหม่ว่า ตอนหาเสียงเคยพูดไว้อย่างโน้น อย่างนี้ อย่างนั้น ต้องยึดมั่น ไปละเมิดไม่ได้นั้น ไม่ใช่ หาเสียงก็คือการหาเสียง เพื่อให้ได้คะแนนมาบริหารประเทศ ต่างกับนโยบายพรรคที่บอกว่าจะทำเรื่องนั้น เรื่องนี้ให้กับพี่น้องประชาชน หากไม่ทำ อย่างนี้ถือว่าผิดสัญญา

เช่นเดียวกัน มีบางเสียง (พวกกองเชียร์)ว่า ให้รวมพรรคนั้นได้ รวมพรรคนี้ไม่ได้...ขอให้ไปดู “สามก๊ก” หรือไปดูประวัติศาสตร์ชาติไทย ในสมัยก่อนกษัตริย์ทำศึกสงคราม ถ้าฆ่าแม่ทัพตายไปแล้ว เราจะเอาไพร่พลของข้าศึกไว้เลี้ยงดูต่อไปไหม จะเอามาปลูกข้าว ดำนา ทำโน่น ทำนี่ไหม หรือจะต้องเอาไปฆ่าทิ้งให้หมด

พรรครวมไทยสร้างชาติ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ก็ไปแล้ว ไม่มีแล้วแม่ทัพ เราควรจะเอาไหม บางคนก็บอกไม่ได้ แต่ผมคิดว่าควรจะเลี้ยงดูไว้ หรือ พรรคพลังประชารัฐ แม่ทัพยังอยู่ แต่แม่ทัพก็ยอมแพ้ไปแล้ว จะเอากำลังพลค่ายต่างๆ มาเลี้ยงดูไหม ก็ฝากให้ประชาชนเป็นข้อคิด ขอให้เปิดใจให้กว้าง เพื่อสนับสนุนพรรคเพื่อไทยให้จัดตั้งรัฐบาลให้ได้

ชัดๆ คือเพื่อไทยดึงพรรคสองลุงมาร่วมรัฐบาล ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ทำได้ ทำไปเถอะ!!

ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า เพื่อไทยจะตั้งรัฐบาลสำเร็จหรือไม่ และมีพรรคลุงมาร่วมหรือไม่


กำลังโหลดความคิดเห็น