ยูเครนพินาศกว่าฮิโรชิมา

การประชุมผู้นำประเทศกลุ่ม G7 ช่วงสุดสัปดาห์ ที่เมืองฮิโรชิมาประเทศญี่ปุ่นมี ผู้นำตัวตลกของยูเครนเข้าร่วมด้วยหลังจากการไปร่วมประชุมสันนิบาตอาหรับในกรุงเจดดาห์ ซาอุดีอาระเบีย ขอความช่วยเหลือ ได้แต่ความผิดหวัง

กลุ่มชาติอาหรับเพียงแต่รับฟังเสียงโอดครวญของ โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ถึงความลำบากในเอาชนะสงครามกับรัสเซีย คำมั่นจากผู้นำชาติอาหรับมีเพียงว่ายินดีเป็นตัวกลางให้มีการเจรจาระหว่าง 2 ประเทศเพื่อยุติสงคราม

ช่วงแรก เซเลนสกี้จะบินกลับยูเครนและเข้าร่วมประชุมกลุ่ม G7 ผ่านทางวิดีโอ แต่ตัดสินใจไปเมืองฮิโรชิมา โดยคิดว่าจะได้ผลกว่า จะพบผู้นำสหรัฐฯ ด้วย

สงครามยูเครน-รัสเซีย เป็นประเด็นสำคัญ เซเลนสกี้จึงเป็นตัวแย่งซีนของที่ประชุมได้มีโอกาสเจรจากับผู้นำ G7 แต่ละคนประเด็นหลักคือการขอความช่วยเหลือด้านอาวุธและการเงิน เซเลนสกี้กลายเป็นผู้นำภิกขาจารโดยสภาพ

กลุ่ม G7 นำโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ ประกาศว่าพันธมิตรยังจะสนับสนุนยูเครนด้านอาวุธและการเงินต่อไปให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้

คำประกาศฟังดูขึงขัง แต่ดูสภาพความเป็นจริงยุโรปและสหรัฐฯ ที่ประชุมต่างรู้ดีว่ายูเครนไม่มีทางเอาชนะรัสเซียได้ประเทศยูเครน จะต้องพินาศย่อยยับต่อไป

ทหารยูเครนอยู่ในวัยหนุ่ม เสียชีวิตไปกี่แสนคน ไม่มีใครให้ตัวเลขชัดเจนได้ เป็นความสูญเปล่า โดยไม่มีอะไรเป็นผลตอบแทน สภาพบ้านแตกสาแหรกขาด

สหรัฐฯ ได้ตกลงให้ประเทศพันธมิตรที่มีเครื่องบินเอฟ 16 ส่งไปช่วยเหลือยูเครนและสหรัฐฯ ช่วยฝึกนักบินยูเครนซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 1 ปีให้คุ้นกับระบบเครื่องบินเอฟ 16 ซึ่งต่างจากเครื่องบินยุคสหภาพโซเวียตที่นักบินยูเครนใช้ บัดนี้ไม่เหลือแล้ว

ช่วงการแถลงข่าวคู่กับโจ ไบเดนผู้นำตัวตลกยูเครนไม่มีความคึกคัก ดูเหงาหงอย ฝ่ายโจ ไบเดนดูเหมือนจะไม่ใส่ใจกับสิ่งที่เซเลนสกี้แถลงข่าวช่วงแถลงปิดฉาก เซเลนสกี้ มีหน้าตาอิดโรยเหมือนคนไม่ได้พักผ่อน นอนหลับอย่างเต็มที่

ช่วงเวลาที่ตะลอนๆ หาความช่วยเหลือจากประเทศต่างๆ การสู้รบดุเดือดในเมืองบักห์มุตมีข่าวร้ายว่ากองกำลังรับจ้างกลุ่ม Wagner ได้ยึดเมืองบักห์มุตผู้นำ Wagnerประกาศชัยชนะ จะถอนตัวให้กองทัพประจำการของรัสเซียเข้ารับช่วงต่อไป

เซเลนสกี้อ้างว่าเมืองบักห์มุตยังไม่แตกทหารยูเครนยังต้านรับไว้ได้ แต่บอกผู้สื่อข่าวว่าเมืองถูกทำลายพินาศย่อยยับเป็นเพียงซากเท่านั้น และเมืองบักห์มุตเพียงจะอยู่ในหัวใจของคนยูเครนเท่านั้น

นี่คือความพินาศของประเทศยูเครน ที่ยังไม่สิ้นสุดสงครามจะยังยืดเยื้อต่อไปตราบใดที่ฝ่ายสหรัฐฯ และพันธมิตรนายังให้อาวุธเพื่อให้ยูเครนรบกับรัสเซียต่อไปโดยรู้ทั้งรู้ว่าถึงอย่างไรยูเครนก็ไม่มีวันชนะและทวงคืนพื้นที่รัสเซียยึดครองไปได้

ผลที่ปรากฏแม้จะไม่ได้เป็นสิ่งที่คาดหมายช่วงที่รัสเซียบุกดินแดนยูเครน และเผชิญการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงตามคำพูดอย่างเชื่อมั่นของโจ ไบเดน และผู้นำยุโรปว่ารัสเซียจะย่อยยับทางเศรษฐกิจและล่มสลายด้วยการถูกคว่ำบาตร

มาถึงวันนี้รัสเซียไม่ได้ล่มสลายเศรษฐกิจ กลับแข็งแกร่งกว่าเดิมมีแต่ยุโรปที่ลำบากเพราะขาดแคลนพลังงานทำให้เศรษฐกิจถดถอยอัตราเงินเฟ้อสูงค่าครองชีพสูง คนยุโรปลำบากกันถ้วนหน้าและวิกฤตินี้ยังลามไปเกาะอังกฤษด้วย

นี่คือความหายนะของยูเครนจากสงครามที่ชาวยูเครนที่น่าสงสารตัดสินใจผิดพลาดในการเลือกเซเลนสกี้เป็นผู้นำ เพราะได้หาเสียงว่าจะเจรจาให้ยุติสงครามในแคว้นดอนบาสกลับกบฏแบ่งแยกดินแดน โดยมีรัสเซียสนับสนุน

เมื่อผู้นำตัวตลกไม่ทำตามคำประกาศแต่ส่งกองกำลังเข้าไปเข่นฆ่าชาวรัสเซียในแคว้นดอนบาสจึงนำไปสู่ปฏิบัติการของกองทัพรัสเซียซึ่งได้สร้างความหายนะให้กับกองทัพยูเครนตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของสงคราม

การที่เซเลนสกี้เป็นเพียงหุ่นเชิดตัวแทนของโลกตะวันตกซึ่งพยายามบั่นทอนแสนยานุภาพของรัสเซีย จึงได้รับการอัดฉีดทั้งเงินอาวุธไม่อั้นมั่นใจว่าจะมีโอกาสชนะรัสเซียแต่ทุกอย่างผิดพลาดไม่ว่าจะเป็นการวางแผน โดยสหรัฐฯ และกลุ่มนาโต

สหรัฐฯ และนาโตอยากจะหาทางลง เยอรมนี ฝรั่งเศสและอีก 2-3 ประเทศไม่อยากจะสูญเสียด้านเศรษฐกิจโดยไร้ทางออกจากปัญหาพลังงานขาดแคลน

ช่วงหนึ่งของการประชุมที่เมืองฮิโรชิมาซึ่งเป็นเมืองแรกในโลกที่โดนระเบิดปรมาณูทิ้งโดยสหรัฐฯ ในเดือนสิงหาคมปี 1945 ประชาชนเสียชีวิตกว่า 100,000 คน

ผู้นำกลุ่ม G7 ได้ไปวางพวงหรีดรำลึกถึงผลของระเบิดปรมาณูช่วงที่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นฟูมิโอะ คิชิดะ นำเซเลนสกี้ไปยืนไว้อาลัยนั้น ในใจของผู้นำยูเครนคงจะนึกถึงภาพของความพินาศย่อยยับของหลายเมืองในยูเครนด้วย

ฮิโรชิมาเป็นเพียงเมืองเดียวแต่ยูเครนกำลังพินาศย่อยยับหายนะเกือบทั้งประเทศซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปรองจากรัสเซีย

ที่ร้ายกว่านั้นคือความพินาศของยูเครนยังไม่จบสิ้นอาจถึงขั้นสิ้นความเป็นชาติระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ถูกทำลายจนย่อยยับ จากที่เคยมีประชากร 34 ล้านคนนั้นส่วนหนึ่งได้หนีออกนอกประเทศไปมากกว่า 10 ล้าน เหลือไม่ถึง 20 ล้านคน

พลเมืองแค่นี้ไม่เพียงพอในการฟื้นฟูประเทศหลังสงครามที่ยังไม่จบสิ้น คนยูเครนประสบชะตากรรมโดยที่ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเหลือชาวยูเครนและเซเลนสกี้คงนึกไม่ถึงว่าประเทศจะอยู่แบบไร้อนาคตเป็นผลของการชักศึกเข้าบ้านนั่นเอง