รัสเซียในวันเสาร์ (20 พ.ค.) สามารถยึดครองบัคมุต เมืองทางตะวันออกของยูเครน ได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นับเป็นจุดสิ้นสุดของสมรภูมิที่ยาวนานและนองเลือดที่สุดในสงคราม 15 เดือน ความเคลื่อนไหวสอดคล้องกับคำประกาศกร้าวก่อนหน้านี้ของวากเนอร์กรุ๊ป กลุ่มนักรบอาสาสมัครฝักใฝ่มอสโก ที่ออกมาอ้างว่าพวกเขาควบคุมเมืองแห่งนี้ได้แล้ว แม้ฝ่ายยูเครนปฏิเสธ และบอกว่าการสู้รบยังคงดำเนินอยู่
ปฏิบัติการจู่โจมเมืองที่พังราบเป็นหน้ากลองแห่งนี้ นำโดยกลุ่มนักรบอาสาสมัครวากเนอร์ กรุ๊ป ซึ่งนำโดย เยฟเกนี ปริโกจิน และเขาออกมากล่าวอ้างก่อนหน้านี้ว่า ในที่สุดแล้วกองกำลังของเขาก็สามารถผลักดันทหารยูเครนออกจากที่มั่นสุดท้ายภายในบัคมุต
การเข้ายึดครองบัคมุต จะเป็นตัวแทนของชัยชนะครั้งใหญ่ของรัสเซียหนแรกในความขัดแย้งกับยูเครน ในรอบกว่า 10 เดือนเลยทีเดียว "ผลของปฏิบัติการรุกไล่ของหน่วยจู่โจมวากเนอร์ ภายใต้การสนับสนุนของปืนใหญ่และอากาศยานของกลุ่มกองกำลังใต้ การปลดปล่อยอาร์ตีมอฟสค์เสร็จสมบูรณ์แล้ว" กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ระบุในถ้อยแถลงบรรทัดเดียว อ้างถึงชื่อภาษารัสเซียของบัคมุต
เคียฟออกมาปฏิเสธคำกล่าวอ้างของปริโกจินก่อนหน้านี้ในวันเสาร์ (20 พ.ค.) แต่พวกเขายังไม่ได้ออกมาตอบโต้ใดๆ ต่อถ้อยแถลงของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย
บรรดาสื่อมวลชนภายในประเทศของรัสเซีย รายงานว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ได้แสดงความยินดีเหล่าทหารที่สามารถยึดเมืองแห่งนี้ได้สำเร็จ และบอกว่ากำลังพลเหล่านี้ที่สร้างชื่อให้ตนเองจะได้รับรางวัลตอบแทน
คำกล่าวอ้างดังกล่าวมีขึ้นราว 1 สัปดาห์ หลังจากกองกำลังยูเครนเพิ่งออกมากล่าวอ้างว่าพวกเขาสามารถรุกคืบได้มากที่สุดในรอบ 5 เดือน ทางปีกตอนใต้และตอนเหนือของบัคมุต ส่วน ปริโกจิน เอง ซึ่งตำหนิกองทัพรัสเซียซ้ำแล้วซ้ำเล่าต่อกรณีละทิ้งฐานพื้นที่ที่กองกำลังของเขายึดได้ก่อนหน้านี้ บอกว่ากำลังพลของเขาจะถอนตัวออกจากบัคมุต แล้วส่งต่อซากปรักหักพังให้แก่ทหารรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม กลับกลายเป็นว่าเวลานี้ บัคมุต อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซียโดยสมบูรณ์แล้ว "วันนี้ ตอนเวลา 12.00 น. บัคมุตถูกยึดครองโดยสมบูรณ์" ปริโกจิน กล่าวในวิดีโอ ซึ่งเป็นภาพที่เขายืนอยู่ด้านหน้าแถวพวกนักรบที่ถือธงชาติรัสเซียและธงของกลุ่มวากเนอร์ "เรายึดทั้งเมืองอย่างเบ็ดเสร็จ บ้านทุกหลัง"
โฆษกกองทัพยูเครน ซอร์ฮี เชเรวัตยี บอกกับรอยเตอร์ ก่อนกระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยแพร่ถ้อยแถลง ว่า "มันไม่เป็นความจริง ทหารของเรากำลังต่อสู้ในบัคมุตอยู่"
ไม่ว่ากองกำลังยูเครนถอนตัวออกจากเมืองบัคมุตแล้วหรือไม่ แต่ชัดเจนว่าพวกเขาล่าถอยอย่างช้าๆ ภายในเมืองแห่งนี้ ไปยังกลุ่มก้อนอาคารทางขอบตะวันตกของเมือง
เคียฟระบุว่า เป้าหมายของพวกเขาในบัคมุต คือล่อให้รัสเซียดึงกำลังพลจากแนวหน้าอื่นๆ มายังเมืองแห่งนี้ และก่อความสูญเสียให้ได้มากที่สุดและสร้างความอ่อนแอแก่แนวป้องกันของมอสโกในที่อื่นๆ ก่อนเริ่มปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ครั้งใหญ่ตามแผนที่วางเอาไว้
รอยเตอร์อ้างว่า สมรภูมิบัคมุตเผยให้เห็นความแตกแยกอย่างรุนแรงระหว่างวากเนอร์ กรุ๊ป กองกำลังอาสาสมัครที่เกณฑ์กำลังพลมาจากนักโทษหลายพันคนที่ถูกพิพากษาว่ามีความผิดในรัสเซีย กับกองทัพรัสเซีย โดยเป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์แล้วที่ ปริโกจิน ออกถ้อยแถลงเป็นคลิป และเสียงรายวันตำหนิพวกผู้นำทางทหารของรัสเซีย
ในวิดีโอที่เผยแพร่ในวันเสาร์ (20 พ.ค.) เขายังคงประชดประชัน เซียร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย และเสนาธิการทหาร วาเลรี เกราซิมอฟ โดยบอกว่าเพราะความคิดแปลกๆ ของคนทั้ง 2 ทำให้ "มีกำลังพลต้องสังเวยชีวิตมากกว่าที่ควรจะเป็นถึง 5 เท่า" อย่างไรก็ตามเขากล่าวขอบคุณปูติน "ที่มอบโอกาสนี้ให้เราและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ปกป้องแผ่นดินเกิดของเรา"
มอสโก กล่าวอ้างมานานว่า การยึดครองบัคมุตจะเป็นการเปิดทางสำหรับการก้าวย่างต่อไป มุ่งหน้าลึกเข้าไปในดอนบาสก์ แคว้นที่พวกเขากล่าวผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน
ปริโกจิน ยอมรับว่า บัคมุต เมืองซึ่งเคยมีประชากร 70,000 คน มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์เพียงเล็กน้อย แต่มันมีความสำคัญอย่างมากในเชิงสัญลักษณ์ เพราะว่าระดับความสูญเสียในสมรภูมิการสู้รบนองเลือดที่สุดของยุโรป นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
ความคืบหน้าของฝ่ายรัสเซีย เกิดขึ้นในระหว่างที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เข้าร่วมประชุมซัมมิตจี7 กับบรรดาชาติอุตสาหกรรมชั้นนำของโลกในญี่ปุ่น ในวันเสาร์ (20 พ.ค.) พร้อมได้รับคำสัญญาให้การสนับสนุนต่างๆ ในนั้นรวมถึงการส่งสัญญาณของวอชิงตัน ว่า จะให้การสนับสนุนฝึกฝนนักบินยูเครนสำหรับขับเครื่องบินรบเอฟ-16 ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าจะไม่ปิดกั้นพันธมิตรในยุโรปเคลื่อนไหวจัดหาเครื่องบินรบดังกล่าวมอบแก่เคียฟ
ระหว่างเดินทางไปญี่ปุ่น เซเลนสกียังได้แวะเข้าร่วมประชุมซัมมิตอาหรับในซาอุดีอาระเบีย
(ที่มา : รอยเตอร์)
