เอเจนซีส์ - ยูเครนแก้ข่าว ยันยังควบคุมบัคมุตไว้ได้ หลังวากเนอร์ประกาศยึดเมืองนี้สำเร็จเมื่อวันเสาร์ (20) แถมต่อมาเซเลนสกียังยอมรับว่า บัคมุต “เหลืออยู่ในใจเท่านั้น”
เยฟเกนี ปริโกจิน ผู้นำวากเนอร์ กรุ๊ป บริษัททหารรับจ้างของรัสเซีย ออกมาป่าวประกาศเมื่อวันเสาร์ว่า ในที่สุดกองกำลังของตนก็สามารถผลักดันทหารยูเครนออกจากที่มั่นสุดท้ายในเมืองบัคมุตได้แล้ว ซึ่งหากข่าวนี้ได้รับการยืนยันจะถือเป็นชัยชนะสำคัญของมอสโกในช่วงกว่า 10 เดือนที่ผ่านมา
ปริโกจินสำทับว่า กองกำลังวากเนอร์จะถอนออกจากบัคมุตเพื่อพักเป็นเวลา 5 วัน และส่งมอบเมืองนี้ที่อยู่ทางตะวันออกของยูเครนและได้รับความเสียหายอย่างหนักให้กองทัพรัสเซีย
ที่ฮิโรชิมา ก่อนที่จะพบกับประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ถามว่า บัคมุตยังอยู่ในการควบคุมของยูเครนหรือไม่ว่า “ผมคิดว่าไม่สำหรับวันนี้ บัคมุตคงอยู่ในใจเราเท่านั้น”
ในวันอาทิตย์ (21) เซียร์กี นีคีโฟรอฟ โฆษกของเซเลนสกีแก้ข่าวทางเฟซบุ๊กว่า คำตอบ “ผมคิดว่าไม่” ของเซเลนสกี เป็นการปฏิเสธคำถามที่ว่า บัคมุตถูกยึดแล้ว
การประกาศของวากเนอร์เกิดขึ้นหลังจากเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้วกองทัพยูเครนมีความคืบหน้ามากที่สุดในรอบ 6 เดือนทางด้านเหนือและใต้ของบัคมุต ซึ่งปริโกจินยอมรับว่า กองกำลังของตนเสี่ยงถูกปิดล้อม
เซอร์ฮีย์ เชเรวาตีอี โฆษกกองทัพยูเครน ปฏิเสธการกล่าวอ้างของปริโกจินว่า ไม่เป็นความจริง และสำทับว่า ทหารยูเครนยังคงสู้รบอยู่ในบัคมุต
ฮันนา มาลิอาร์ รัฐมนตรีช่วยกลาโหมยูเครน ขานรับว่า มีการสู้รบอย่างหนักในบัคมุต โดยกองทัพยูเครนยังคงควบคุมโรงงานอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐานบางแห่ง
รอยเตอร์ระบุว่า ไม่ว่าจะถอนออกจากบัคมุตแล้วหรือไม่ แต่กองกำลังยูเครนค่อยๆ ถอยออกจากพื้นที่ตอนในของเมืองนี้ไปยังกลุ่มอาคารชานเมืองด้านตะวันตก แต่ขณะเดียวกัน ทหารยูเครนมีความคืบหน้ามากที่สุดในรอบ 6 เดือน และสามารถชิงดินแดนบางส่วนทางด้านเหนือและใต้ของเมืองนี้คืนจากรัสเซีย
เคียฟระบุว่า เป้าหมายในบัคมุตคือล่อหลอกให้ทหารรัสเซียจากส่วนต่างๆ เข้าไปในเมืองเพื่อบดขยี้ และทำให้แนวป้องกันของรัสเซียอ่อนแอลงก่อนโจมตีโต้กลับครั้งใหญ่ตามที่วางแผนไว้
โอเลคซานเดอร์ ซีร์สไกยี ผู้บัญชาการกองกำลังภาคพื้นดินของยูเครน ประกาศกับทหารยูเครนในบัคมุตเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า กองกำลังวากเนอร์กรูกันเข้าสู่บัคมุตเหมือนหนูวิ่งเข้ากับดัก
หน่วยข่าวกรองทางทหารของอังกฤษระบุเมื่อวันเสาร์ว่า ดูเหมือนมอสโกเพิ่มความพยายามในการสู้รบในบัคมุตด้วยการเคลื่อนกำลังเข้าไปเพิ่มแม้กำลังพลในส่วนอื่นๆ ขาดแคลนก็ตาม ซึ่งมีแนวโน้มสูงว่า รัสเซียส่งทหารกองหนุนที่กำลังขาดแคลนหลายกองพันเข้าไปเสริมแนวรบในบัคมุต
การสู้รบในบัคมุตเผยให้เห็นความแตกแยกอย่างหนักระหว่างวากเนอร์ที่เกณฑ์นักโทษในเรือนจำรัสเซียหลายพันคนไปสู้รบ กับกองทัพรัสเซีย โดยช่วง 2 สัปดาห์ก่อน ปริโกจินออกมาประณามผู้นำกองทัพรัสเซียรายวันซึ่งบ่อยครั้งใช้ถ้อยคำรุนแรง
ตัวอย่างเช่นในวิดีโอเมื่อวันเสาร์ที่เขาบอกว่า เพราะ “อารมณ์แปรปรวน” ของเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหม และวาเลรี เจอราซิมอฟ เสนาธิการทหาร ทหารรัสเซียจึงล้มตายมากกว่าที่ควรจะเป็นถึง 5 เท่า ปริโกจินยังขอบคุณประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ที่ให้โอกาสวากเนอร์ปกป้องมาตุภูมิ
มอสโกกล่าวมาโดยตลอดว่า การยึดบัคมุตจะปูทางไปสู่การเคลื่อนกำลังเข้าสู่พื้นที่ตอนในของภูมิภาคดอนบาสลึกขึ้น และกำหนดเป้าหมายหลักในการยึดเมืองนี้ในช่วงฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิแต่ล้มเหลว
นอกจากนี้ ปริโกจินยังยอมรับว่า บัคมุตที่มีประชากร 70,000 คนก่อนสงคราม มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์น้อยมาก แต่มีความสำคัญเชิงสัญลักษณ์เนื่องจากเป็นสมรภูมิที่นองเลือดที่สุดในยุโรปนับจากสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา