xs
xsm
sm
md
lg

เมื่อรัสเซียพร้อมเผชิญหน้าโดยตรงกับอเมริกาและนาโต!!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทับทิม พญาไท


วลาดิมีร์ ปูติน
เปิดฉากสัปดาห์นี้...คงต้องขออนุญาตแวะไปดู “แนวรบยุโรปตะวันออก”อีกสักรอบนั่นแหล่ะทั่น!!! เพราะถือเป็นแนวรบที่สำมะคัญเอามากๆ คือจะสงครามโลก-ไม่สงครามโลก นิวเคลียร์-ไม่นิวเคลียร์ ก็น่าจะขึ้นอยู่กับความผันผวน ปรวนแปร ของฉากสถานการณ์ในแนวรบดังกล่าวเป็นหลักใหญ่...

อีกทั้งเมื่อช่วงวันพุธที่แล้ว (21 ธ.ค.) ท่านประธานาธิบดียูเครน “นายVolodymyr Zelensky”ท่านเพิ่งแอบเล็ดรอดจากแนวรบยุโรปตะวันออก โผล่ไป...ขอทาน!!! (ประทานโทษ) ขอเงินบริจาค อาวุธบริจาค จากคุณพ่ออเมริกากันถึงที่ แล้วเห็นว่าได้รับคำสัญญิงสัญญาจากผู้นำอเมริกาคุณปู่ “โจ ซึมเซา” เตรียมมอบความช่วยเหลือให้อีกเป็นมูลค่าเกือบๆ 2 พันล้านดอลลาร์ (1,850 ล้านดอลลาร์) แล้วยังแถมอาวุธล้ำสมัยระดับ “Patriot”หรือระบบป้องกันภัยทางอากาศ ที่อเมริกาเคยคิดเอาไปติดตั้งไว้ที่เกาหลีใต้ แต่ถูกบรรดาชาวกิมจิโวย และถูกจีน-รัสเซียกล่าวหาว่าเป็นอาวุธที่สามารถสร้างภัยคุกคามให้กับแผ่นดินทั้งสองได้เสมอๆ เลยต้องระงับยับยั้งไปซะก่อนหน้านี้...

ส่วนการคิดเอามาติดตั้งไว้ที่สมรภูมิยูเครน...อย่างน้อยคงต้องใช้เวลาราวๆ ฤดูใบไม้ผลิปีหน้านั่นแหละ เพราะนอกจากความสลับซับซ้อนของอาวุธชนิดนี้ ยังต้องหอบทหารยูเครนไปฝึกปรือที่ฐานทัพในเยอรมนีเพื่อให้รู้จักใช้เครื่องไม้-เครื่องมือได้อย่างคล่องเนื้อ-คล่องตัว แต่ความพยายามจัดหนัก-จัดเต็ม ให้กับ “ตัวแทน”ในการต่อสู้ทำสงคราม เพื่อให้ “ตัวกูเอง” ยังคงสามารถรักษาแชมป์ รักษาความเป็น “จ้าวโลก”ได้ต่อไปในอนาคตข้างหน้า ย่อมถือได้ว่ายิ่งสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มแห่งความยืดเยื้อ คาราคาซัง และโอกาสที่จะเกิดการ “ยกระดับความรุนแรง”ไปสู่สงครามโลก หรือสงครามนิวเคลียร์ ยิ่งมีความเป็นไปได้มากยิ่งขึ้นไปเท่านั้น แม้ว่าผู้นำอเมริกาจะประกาศว่า “Patriot” นั้นเป็นอาวุธในเชิง “ป้องกัน” ไม่ใช่เพื่อการ “โจมตี” ก็แล้วแต่...

แต่อย่างที่รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย “พลเอกSergey Shoigu”ท่านออกมานับนิ้ว คำนวณ ให้เห็นกันจะจะไปแล้วนั่นแหละว่า นับตั้งแต่เกิดสงครามยูเครน คุณพ่ออเมริกาได้ส่งความช่วยเหลือทางทหารไปให้กับตัวแทนหรือตัวตลก ไปแล้วไม่น้อยกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์ ยิ่งถ้านับรวมบรรดาพวก “พรมเช็ดเท้า” หรือพวกพันธมิตรอเมริกาในนาโตด้วยแล้ว น่าจะไม่น้อยไปกว่า 97,000 ล้านดอลลาร์ หรือราวๆ 2-3 ล้านล้านบาท พอๆ กับงบประมาณประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮาทั้งประเทศและทั่วทั้งปีเอาเลยถึงขั้นนั้น ด้วยเหตุนี้...จึงไม่ถึงกับน่าแปลกใจอะไรมากมายนัก ที่ผู้นำรัสเซีย ประธานาธิบดี “วลาดิมีร์ ปูติน” ท่านจึงออกมาฟันธงและฟันเฟิร์ม ต่อหน้าบรรดาทวยทหารรัสเซียเมื่อช่วงวันพุธที่ผ่านมา (21 ธ.ค.) ว่า “การเผชิญหน้าทางทหาร” ระหว่างรัสเซียกับนาโตทั้งมวล ไม่ใช่แค่เฉพาะศึกสายเลือดระหว่างพี่ๆ-น้องๆอย่างยูเครนเท่านั้น กำลังใกล้เข้ามาแล้ว!!!

นี่...อันนี้นี่แหละ ที่ทำให้บรรยากาศแห่งความน่าหวาดเสียว น่าสยดสยอง ขนหัวลุก ขนคอพอง เริ่มแผ่ซ่านอย่างเป็นกิจการ เพราะไม่เพียงแต่การแสดงออกถึงความตระหนักต่อฉากสถานการณ์ที่มีแนวโน้มจะยกระดับความรุนแรงยิ่งเข้าไปทุกที การลงนามในกฤษฎีกาอนุมัติให้เพิ่มจำนวนทหารในกองทัพรัสเซีย ขึ้นไปอีก 137,000 นายนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2023 ยิ่งทำให้กองทัพรัสเซียเพิ่มความใหญ่โต-มโหฬารยิ่งขึ้นไปอีก คือมีกำลังพลรวมกันไม่น้อยกว่า 1.15 ล้านนาย และก็ไม่ใช่แต่เพียงเท่านั้น เพราะตัวรัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียท่านยังได้เสนอในที่ประชุม ว่าอยากจะเพิ่มขึ้นไปอีก 30 เปอร์เซ็นต์ หรือรวมๆ แล้วไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านนาย โดยตัวประธานาธิบดีก็พร้อมตอบสนอง หรือพร้อมยืนหยัด ยืนยันว่า “ไม่มีขีดจำกัดใดๆ ในเรื่องงบประมาณ” อันนี้...ก็เท่ากับเป็นการ “ขีดเส้นใต้” ถึงความสำคัญของฉากสถานการณ์การเผชิญหน้าโดยตรงระหว่าง “รัสเซีย-กับ-นาโต”เอาไว้ก่อนล่วงหน้านั่นเอง!!!

และก็ไม่ใช่แค่การเพิ่มจำนวนทหาร เพิ่มกำลังพล แต่เพียงเท่านั้น...ในการประชุมทวยทหารรัสเซียคราวนี้ ผู้นำหมีขาวยังได้ป่าวประกาศไว้ด้วยว่า ภายในช่วงต้นเดือนมกราคมปีหน้า ก่อนที่ฤดูใบไม้ผลิจะมาถึง หรือก่อนที่ขีปนาวุธ “Patriot”ของอเมริกาจะเข้ามาติดตั้งในยูเครน กองทัพรัสเซียพร้อมแล้วที่จะนำขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิค “3M22 Zircon”เข้ามาประจำการอันเป็นขีปนาวุธที่เชื่อๆ กันว่าสามารถเจาะทะลุทะลวงระบบป้องกันภัยทางอากาศใดๆ ในโลกนี้ได้แบบสบายๆ หรือเป็น “อาวุธที่ยังไม่มีใครในโลกนี้สามารถลอกเลียนแบบได้”ไม่เพียงแต่มีความเร็วเกินกว่า 9 Mach เป็นอย่างน้อย หรือไม่ต่ำกว่า 11,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ยังสามารถส่ายไป-ส่ายมา หลบรอดเรดาร์ และมีพิสัยทำการยาวไกลถึง 1,500 กิโลเมตรหรือ 932 ไมล์ สามารถยิงจากเรือดำน้ำที่แล่นไป-แล่นมา ณ ที่ไหนต่อที่ไหนก็มิอาจคาดคะเนได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังได้มีการปรับปรุงระบบป้องกันและโจมตีทางนิวเคลียร์ครั้งใหญ่ ณ ศูนย์ยุทธศาสตร์ “SMF”(Strategic Missile Force) เพื่อเพิ่มความทันสมัยให้กับการปฏิบัติการด้วยขีปนาวุธข้ามทวีป หรือ “ICBM”กันอย่างเป็นเรื่อง-เป็นราว...

พูดง่ายๆ ก็คือ...ไม่ต่างอะไรไปจากการ “ส่งสัญญาณ”ให้เห็นว่า หมีขาวตัวนี้ “พร้อมแล้ว” ที่จะรับมือกับสงครามครั้งใหญ่ ไม่ว่าการเผชิญหน้าทางทหารกับอเมริกาและนาโต จะมาถึง ณ เมื่อไหร่? ตอนไหน? ด้วยเหตุเพราะความรู้สึกของผู้นำรัสเซียรายนี้ค่อนข้างเชื่อเอาจริงๆ ว่า “ปรปักษ์ทางยุทธศาสตร์” (Strategic opponents) ของรัสเซีย อันได้แก่บรรดาโลกตะวันตกทั้งหลาย มุ่งที่จะ “ตัดขาด”และ “ทำลาย” รัสเซีย อย่างเป็นระบบและกิจการ อย่างเป็นขั้นเป็นตอน แม้ว่า “เราพยายามที่จะอยู่ร่วมในโลกที่ศิวิไลซ์”เพียงใดก็แล้วแต่...

นี่...อันนี้นี่เอง ที่ทำให้ต้องขนหัวลุก ขนคอตั้งขึ้นมาจนได้ เพราะนั่นหมายถึงโอกาสที่ฝ่ายหนึ่ง-ฝ่ายใด อาจต้องฉิบหายกันไปข้าง หรือเผลอๆ...อาจฉิบหายไปด้วยกันทุกฝ่าย!!! ย่อมมีความเป็นไปได้สูงยิ่งเข้าไปทุกที ยิ่งถ้าใครได้มีโอกาสไปอ่านข้อเขียน บทความ ของอดีตทูตอินตะระเดีย “นายM.K. Bhadrakumar” ที่เคยวิเคราะห์เรื่องรัสเซียหนีไม่พ้นต้องบุกยูเครนแบบชนิดแม่นยำราวตาเห็น ว่าด้วยเรื่อง “Why time isn’t ripe for Ukraine talks”หรือทำไมเวลายังไม่สุกงอมพอที่จะหันมาเจ๊าะแจ๊ะเจรจากันในปัญหายูเครน หรือที่สำนักข่าว “ผู้จัดการ”ของหมู่เฮานำมาถ่ายทอด แปลและเรียบเรียงไว้ในหัวข้อที่ว่า “รัสเซียถูกบีบบังคับให้ต้องชนะแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในยูเครน...แม้ต้องเผชิญหน้ากับสหรัฐฯ และนาโต” เมื่อช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ก็น่าจะยิ่ง “หนาวว์ว์ว์” ยะเยือก ยิ่งกว่าหน้าหนาวแบบสะบัดร้อน-สะบัดหนาวในบ้านเราอยู่แล้วแน่ๆ...

คือพูดง่ายๆ ว่า...โอกาสที่จะจบกันแบบ “ซอฟท์ แลนดิ้ง”แทบมองไม่เห็น หรือแทบเป็นไปไม่ได้เอาเลยก็ว่าได้ ปัญหาขึ้นอยู่กับ “เวลา”จะหันไปยืนเคียงข้างฝ่ายหนึ่ง-ฝ่ายใดนับแต่นี้เป็นต้นไป คือถ้าหากกาลเวลานั้น “เป็นใจ”ให้กับฝ่ายรัสเซีย ความยืดเยื้อ คาราคาซังของปัญหายูเครน ก็อาจส่งผลให้ยุโรปทั้งยุโรปแตกดังโพล๊ะ พร้อมๆ กับความล่มสลายของโลกตะวันตกอย่างมิอาจได้ผุด-ได้เกิดอีกต่อไป แต่ถ้าหากกาลเวลาหันไป “ปันใจ” ให้กับ “จักรวรรดิที่กำลังอ่อนแอ”อย่างคุณพ่ออเมริกาจนทำให้ยูเครนกลายเป็นสิ่งที่กลืนไม่เข้า-คายไม่ออกสำหรับรัสเซีย ทำให้ยุโรปทั้งยุโรปเกิดความเหนียวแน่นในการสูดกลิ่นมาดามหอมชื่นใจพร้อม “ดมก้นอเมริกา”ไปโดยตลอด อันอาจส่งผลให้ “ระบอบปูติน” หรือประเทศรัสเซียทั้งประเทศ อาจพังพินาศลงไปง่ายๆ โอกาสที่ “แนวรบยุโรปตะวันออก” จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นในการจุดชนวน “ไฟนรกสุดขอบฟ้า”หรือโอกาสที่จะนำไปสู่ “สงครามโลกครั้งที่ 3”ไปจนถึง “สงครามนิวเคลียร์” ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เอาเลย!!!




กำลังโหลดความคิดเห็น