มอสโกส่งโดรน “กามิกาเซ” โจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในกรุงเคียฟและพื้นที่โดยรอบ ขณะที่ “ปูติน” ควงรัฐมนตรีกลาโหมและรัฐมนตรีต่างประเทศเดินทางไปเยือนเบลารุส จุดชนวนความหวาดหวั่นว่า ชาติพันธมิตรของอดีตสหภาพโซเวียตแห่งนี้อาจเข้าร่วมกับรัสเซียในการเปิดแนวรบใหม่เพื่อโจมตียูเครน นอกจากนั้น เครมลินยังประกาศว่า มอสโก-ปักกิ่งเตรียมซ้อมรบทางนาวีกลางสัปดาห์นี้ในทะเลจีนตะวันออก
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน พร้อมด้วยรัฐมนตรีกลาโหม เซียร์เก ชอยกู และรัฐมนตรีต่างประเทศ เซียร์เก ลาฟรอฟ เดินทางถึงกรุงเคียฟ เมืองหลวงของเบลารุส ในวันจันทร์ (19 ธ.ค.) ถือเป็นการเยือนชาติเพื่อนบ้านที่เคยเป็นอดีตสาธารณรัฐในสหภาพโซเวียตแห่งนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีครึ่ง โดยที่เครมลินระบุว่า เป็นการเยือนเพื่อปฏิบัติภารกิจกว้างๆ และหารือกับประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ของเบลารุส
ทั้งนี้ เบลารุสเคยอนุญาตให้มอสโกใช้ดินแดนของตนเป็นฐานเปิดการโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ แต่ไม่ได้เข้าร่วมสงครามโดยตรง นอกจากนั้น ลูคาเชนโกยังย้ำว่า ไม่มีเป้าหมายส่งทหารเข้าไปในยูเครน
กระนั้น เจ้าหน้าที่เคียฟส่งเสียงเตือนมานานหลายเดือนว่า เบลารุสอาจยอมให้รัสเซียใช้ดินแดนเพื่อเปิดการโจมตียูเครนอีก
ขณะที่สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ของรัสเซียรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของกระทรวงกลาโหมรัสเซียว่า กองทหารรัสเซียที่เคลื่อนเข้าสู่เบลารุสเมื่อเดือนตุลาคม จะฝึกกองพันโจมตีทางยุทธวิธี แต่ไม่มีรายละเอียดว่าจะเริ่มการฝึกเมื่อใด
ด้าน ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกวังเครมลินบอกกับพวกสำนักข่าวของรัสเซียว่า เบลารุสคือ “พันธมิตรหมายเลข 1” ของรัสเซีย แต่การเสนอแนะว่ามอสโกมุ่งหมายบีบคั้นมินสก์ให้เข้าร่วม “การปฏิบัติการพิเศษทางทหาร” ด้วยนั้น “เป็นความโง่เขลาและเป็นการเสกสรรปั้นแต่งขึ้นมาอย่างไม่มีมูล”
สำหรับ วาเลรี ซาลูซนีย์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของยูเครน บอกกับนิตยสารอีโคโนมิสต์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า รัสเซียกำลังเตรียมทหารสดใหม่จำนวน 200,000 คนเพื่อเปิดการรุกโจมตีใหญ่ ซึ่งอาจจะรุกจากด้านตะวันออก ด้านใต้ หรือแม้กระทั่งมาจากทางเบลารุส โดยอย่างเร็วที่สุดอาจจะเป็นเดือนมกราคมนี้ แต่น่าจะเป็นในฤดูใบไม้ผลิมากกว่า
ส่วนประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประกาศในวันอาทิตย์ หลังประชุมกับผู้บัญชาการทหารระดับสูงของยูเครนว่า การปกป้องพรมแดนทั้งด้านที่ติดกับรัสเซียและด้านที่ติดกับเบลารุสเป็นเป้าหมายสำคัญที่สุดของยูเครน และขณะนี้ยูเครนกำลังเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์การป้องกันประเทศทั้งหมดที่เป็นไปได้
ในอีกด้านหนึ่ง กองทัพอากาศยูเครนอ้างว่า ได้ยิงโดรนกามิกาเซ 30 ลำร่วง ระหว่างการโจมตีของรัสเซียเมื่อวันจันทร์ ซึ่งถือเป็นระลอกที่ 3 ในรอบ 6 วัน และเป็นการโจมตีระลอกล่าสุดนับจากเดือนตุลาคมที่มีเป้าหมายที่โครงข่ายพลังงานของยูเครน ส่งผลให้มีการดับไฟเป็นวงกว้างท่ามกลางอุณหภูมิติดลบ
วิตาลี คลิชโก นายกเทศมนตรีเคียฟเผยว่า ไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บในการโจมตีล่าสุด แต่โครงสร้างพื้นฐานสำคัญได้รับความเสียหาย และวิศวกรกำลังเร่งฟื้นเสถียรภาพซัปพลายพลังงานและความร้อน
นอกจากนั้น เมื่อวันอาทิตย์เซเลนสกียังเรียกร้องอีกครั้งให้ชาติตะวันตกจัดหาระบบป้องกันภัยทางอากาศให้หลังถูกรัสเซียถล่มเครือข่ายพลังงานมานานนับสัปดาห์
อย่างไรก็ดี เซเลนสกีสำทับว่า กองทัพยูเครนยังสามารถควบคุมเมืองบัคห์มุต ในแคว้นโดเนตสก์ ทางภาคตะวันออกของยูเครน ซึ่งเป็นสนามรบที่ต่อสู้กันดุเดือดที่สุดในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
นอกจากมีความเคลื่อนไหวทางการทหารกับเบลารุสแล้ว เมื่อวันจันทร์ที่มอสโก ยังมีการแถลงข่าวว่า กองทัพรัสเซียและกองทัพจีนจะซ้อมรบทางนาวีระหว่างวันที่ 21-27 เดือนนี้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการยิงขีปนาวุธและปืนใหญ่ในทะเลจีนตะวันออก
แม้การซ้อมรบดังกล่าวเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีนับจากปี 2012 ทว่า ขณะนี้มอสโกกำลังพยายามกระชับความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจกับปักกิ่ง และมองว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เป็นพันธมิตรสำคัญในการต่อต้านตะวันตก
เวลาเดียวกัน เฮนรี คิสซิงเจอร์ วัย 99 ปี ผู้ผลักดันนโยบายผ่อนคลายสงครามเย็นกับสหภาพโซเวียตและจีนขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในทศวรรษ 1970 เขียนบทความลงในนิตยสาร “สเปกเตเตอร์” ระบุว่า ถึงเวลาแล้วสำหรับการเจรจาสันติภาพในยูเครน ซึ่งควรอิงกับการเปลี่ยนแปลงเชิงยุทธศาสตร์ที่ดำเนินการลุล่วงแล้ว และรวมเข้าไว้ในโครงสร้างใหม่เพื่อบรรลุสันติภาพผ่านการเจรจา
ทว่า มิกไคโล โปโดลยัค ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน โพสต์บนเทเลแกรมคัดค้านข้อเสนอของคิสซิงเจอร์ โดยระบุว่า เท่ากับเป็นการยกดินแดนให้ผู้รุกรานคือรัสเซีย และจะถือเป็นชัยชนะของปูติน รวมทั้งเป็นแบบอย่างความสำเร็จของเผด็จการทั่วโลก
(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี)