ยูเครนในวันเสาร์ (17 ธ.ค.) เร่งกู้ไฟฟ้าและน้ำประปา หลังปฏิบัติการโจมตีระลอกล่าสุดของรัสเซียผลักหลายเมืองเข้าสู่ความมืดมิด และบีบให้ประชาชนต้องเผชิญกับอุณหภูมิต่ำกว่าศูนย์องศาเซลเซียส โดยปราศจากเครื่องทำความร้อนและน้ำประปาเพื่ออุปโภคบริโภค
ห่าขีปนาวุธที่ปลดปล่อยเมื่อวันศุกร์ (16 ธ.ค.) มีขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ประชุมอย่างยืดยาวกับบรรดานายทหารระดับสูง ที่ดูแลปฏิบัติการของรัสเซียในการรุกรานยูเครน ดินแดนที่มอสโกยกระดับโจมตีทางอากาศหนักหน่วงขึ้น
ในกรุงเคียฟ รถไฟใต้ดินหยุดให้บริการ เพื่อให้ประชาชนในชุดกันหนาวได้เข้าไปหลบภัยตามสถานีรถไฟใต้ดินต่างๆ หลังเสียงไซเรนเตือนภัยโจมตีทางอากาศได้ดังระงมขึ้นในตอนเช้าวันศุกร์ (16 ธ.ค.)
วิตาลี คลิตช์โก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ เผยว่า รถไฟใต้ดินกลับมาให้บริการอีกครั้งในตอนเช้าวันเสาร์ (17 ธ.ค.) ขณะเดียวกัน น้ำประปากู้คืนมาได้แล้ว ส่วนอุปทานความร้อนที่ป้อนแก่ประชาชนของเมืองกลับมาใช้งานได้ราวๆ 75%
โอเล็ก ซิเนกูบอฟ ผู้ว่าการแคว้นคาร์คิฟ เปิดเผยเช่นกันว่า ในเมืองคาร์คิฟ ทางภาคตะวันออกของประเทศ สามารถกู้คืนไฟฟ้ากลับมาได้ทั่วทั้งเมืองแล้ว หลังจากการโจมตีทางอากาศส่งผลให้เมืองใหญ่ที่สุดของยูเครนแห่งนี้ต้องอยู่โดยปราศจากไฟฟ้าใช้เป็นเวลาหลายชั่วโมง
ยูเครเนอร์โก ผู้ให้บริการพลังงานแห่งชาติของยูเครน ซึ่งกำหนดมาตรการดับไฟฉุกเฉิน เผยว่ากำลังเดินหน้ากู้คืนระบบไฟฟ้า แต่เตือนว่าขอบเขตความเสียหายอย่างกว้างขวางในทางภาคเหนือ ภาคใต้และภาคกลางของประเทศ นั่นหมายความว่าอาจต้องใช้เวลาในการกู้คืนอุปทานไฟฟ้านานกว่าเหตุโจมตีครั้งที่ผ่านๆ มา
กองบัญชาการทหารยูเครนระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ในวันเสาร์ (17 ธ.ค.) ว่า "ศัตรูเดินหน้ามุ่งเน้นความพยายามของพวกเขาไปที่ปฏิบัติการรุกคืบในทิศทางที่มุ่งหน้าไปยังบัคช์มุตและอัฟดิกา" อ้างถึง 2 เมืองในแคว้นโดเนตสก์ ทางภาคตะวันออก นอกจากนี้ ทหารรัสเซียยังพยายามทวงคืนสมรภูมิที่สูญเสียไปก่อนหน้านี้ แถวเมืองลีมันสกี ทางภาคใต้ แถลงกล่าว
ในรัสเซีย ปูติน พิจารณาข้อเสนอจากบรรดาผู้บัญชาการทหารเกี่ยวกับแนวทางที่รัสเซียจะเดินหน้าปฏิบัติการรุกคืบในยูเครน ในวิดีโอที่เผยแพร่โดยวังเครมลินในวันศุกร์ (16 ธ.ค.) พบ ปูตินเป็นประธานการประชุมโต๊ะกลมกับ เซอร์เก ซอยกู รัฐมนตรีกลาโหม และวาเลรี เกราซิมอฟ ประธานคณะเสนาธิการทหาร เช่นเดียวกับนายทหารระดับสูงคนอื่นๆ
หลังประสบความพ่ายแพ้ในหลายสมรภูมินับตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นมา รัสเซียหันมาปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ในสิ่งที่มอสโกอ้างว่าเป็นแหล่งที่ตั้งที่มีความเชื่อมโยงด้านการทหาร แต่ทางฝรั่งเศสและสหภาพยุโรปกล่าวหาว่ามันเป็นความพยายามก่อความทุกข์ทรมานและหนาวเหน็บแก่พลเมือง ซึ่งเข้าข่ายอาชญากรรมสงคราม ในขณะที่ประธานนโยบายต่างประเทศของอียู ประณามมันว่าเป็นการโจมตีที่โหดร้ายป่าเถื่อน
กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุในวันเสาร์ (17 ธ.ค.) ว่าปฏิบัติการโจมตีเล็งเป้าหมายเล่นงานแหล่งที่ตั้งทางทหารและพลังงานของยูเครน นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายสร้างความปั่นป่วนต่อการส่งมอบอาวุธและกระสุนที่ผลิตโดยต่างชาติ "การโจมตีโดนทุกเป้าหมายที่กำหนดไว้" กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุในแถลงสรุปประจำวัน
กองทัพยูเครนเปิดเผยว่าในวันศุกร์ (16 ธ.ค.) รัสเซียยิงขีปนาวุธ 74 ลูก ส่วนใหญ่เป็นขีปนาวุธร่อน แต่ในนั้น 60 ลูกถูกสอยร่วงโดยระบบป้องกันต่อต้านอากาศยาน
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสหี ระบุว่าปฏิบัติการโจมตีเล่นงานอุปทานไฟฟ้าและน้ำประปาในกรุงเคียฟและภูมิภาคอื่นๆ 14 แห่ง “เป้าหมายของพวกเขาในวันนี้ล้วนแต่เป็นพลเรือนทั้งสิ้น และส่วนใหญ่เป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและความร้อน” เซเลนสกี กล่าว “ผลลัพธ์ของสงครามครั้งนี้อาจทำให้ผู้คนทั่วโลกนึกถึงการกระทำอันบ้าคลั่งของรัสเซียเป็นอันดับแรก เมื่อเอ่ยถึงคำว่า “ความหวาดกลัว”
มอสโกระบุว่าปฏิบัติการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของยูเครนเป็นการตอบโต้เหตุระเบิดสะพานเคิร์ช ที่เชื่อมระหว่างแผ่นดินใหญ่ของรัสเซียกับแหลมไครเมีย ซึ่งรัสเซียผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนในปี 2014
เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุในสัปดาห์นี้ ว่า กองกำลังของพวกเขาสอยร่วงโดรนโจมตีที่ผลิตโดยอิหร่านหลายสิบลำที่เปิดฉากถล่มเคียฟ เป็นสัญญาณว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ตะวันตกจัดหาให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บรรดาผู้บัญชาการทหารของยูเครนเตือนด้วยว่า มอสโกกำลังเตรียมการสำหรับโจมตีครั้งใหญ่ในช่วงฤดูหนาว ในนั้นรวมถึงความพยายามบุกยึดกรุงเคียฟอีกรอบ
(ที่มา : เอเอฟพี)