เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) ส่งเสียงโวยวาย ว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย จงใจใช้ความเย็นยะเยือก หิมะและน้ำแข็งเพื่อความได้เปรียบ และไม่ใช่แค่ในสมรภูมิรบเท่านั้น แต่มันยังถูกใช้เล่นงานพลเรือนชาวยูเครนด้วย
"เวลานี้ประธานาธิบดีปูติน กำลังพยายามใช้ฤดูหนาวเป็นอาวุธในสงครามกับยูเครน และด้วยความน่าสยดสยองนี้ เราจำเป็นต้องเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีซ้ำอีก" เขากล่าวก่อนการประชุม 2 วันของบรรดารัฐมนตรีต่างประเทศของนาโต้ ในกรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย "นั่นคือเหตุผลว่าทำไม พันธมิตรนาโต้ถึงต้องยกระดับแรงสนับสนุนที่มอบแด่ยูเครน"
ความเห็นนี้มีขึ้นในขณะที่ยูเครนเตรียมรับมือกับการโจมตีอีกระลอกของรัสเซีย ที่เล็งเป้าเล่นงานโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานสำคัญอื่นๆ ในสิ่งที่ดูเหมือนว่าจะเป็นการโจมตีแบบรายสัปดาห์ และมีคำเตือนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่อาจต้องทำการอพยพพลเรือนออกจากเมืองหลวง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของเอสโตเนีย ซึ่งร่วมคณะบรรดาชาติบอลติกและนอร์ดิก 6 ประเทศ ในคณะผู้แทนทูตใหญ่ที่สุดที่เดินทางเยือนยูเครน นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากโจมตีเตมรูปแบบ รับปากว่าจะมอบเครื่องปั่นไฟ เสื้อผ้ามอบความอบอุ่นและอาหารแก่ยูเครน โดยมีเป้าหมายคือช่วยเหลือประชาชนชาวยูเครนรับมือกับช่วงเวลาหลายเดือนของฤดูหนาว และสร้างขวัญกำลังใจแก่พวกเขา
"รัสเซียกำลังใช้ความมั่นคงทางพลังงานพลเรือนเป็นอาวุธ และมันน่าอดสูอย่างแท้จริง" รัฐมนตรีต่างประเทศเอสโตเนียกล่าวในกรุงเคียฟ
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เตือนเมื่อช่วงเย็นวันอาทิตย์ (27 พ.ย.) ว่า "รัสเซียกำลังวางแผนโจมตีระลอกใหม่ ตราบใดที่พวกเขายังคงมีขีปนาวุธ พวกเขาจะไม่หยุด" ทั้งนี้ เขาประชุมร่วมกับบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลในวันจันทร์ (28 พ.ย.) หารือเกี่ยวกับมาตรการต่างๆ ที่จะนำมาใช้รับมือ "สัปดาห์ที่จะถึงนี้จะยากลำบากเช่นเดียวกับสัปดาห์ที่ผ่านมา"
รัสเซียปฏิบัติการยิงขีปนาวุธระลอกใหญ่ถล่มโครงสร้างทางพลังงานของยูเครนในทุกสัปดาห์ มาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนตุลาคม โดยแต่ละระลอกนั้นส่งผลกระทบหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเกิดความเสียหายสะสมและฤดูหนาวย่างกรายเข้ามาเยือนแล้ว
เคียฟกล่าวหาปฏิบัติการโจมตีเหล่านั้น ซึ่งทางรัสเซียอมรับว่าเล็งเป้าหมายไปที่โครงสร้างพื้นฐานของยูเครน มีเป้าหมายทำร้ายพลเรือน ซึ่งเท่ากับเป็นการก่ออาชญากรรมสงคราม ส่วนทางมอสโกปฏิเสธว่าไม่มีความตั้งใจเล่นงานพลเรือน แต่บอกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ความทุกข์ทรมานจะไม่สิ้นสุด จนกว่ายูเครนจะยอมอ่อนข้อต่อข้อเรียกร้องของรัสเซีย กระนั้นก็ไม่ได้พาดพิงอย่างชัดเจนว่าข้อเรียกร้องนั้นคืออะไร
วิตาลี คลิตช์โก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ ระบุว่าในบรรดาประชาชนของเมืองที่มีมากกว่า 3 ล้านคน มีบางส่วนอาจต้องอพยพไปยังพื้นที่อื่นๆ ที่งานบริการจำเป็นต่างๆ มีแนวโน้มว่าจะไม่ประสบปัญหาติดขัด อันเนื่องจากการถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธ เหมือนดังเช่นในเมืองหลวง
ท่ามกลางอุณหภูมิที่ดำดิ่งแตะระดับจุดเยือกแข็ง และคาดหมายว่าอาจหนาวเหน็บถึงระดับ -11 องศาเซลเซียส ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ความช่วยเหลือจากนานาชาติจึงให้ความสำคัญเพิ่มมากขึ้นกับอุปกรณ์ต่างๆ อย่างเช่น เครื่องปั่นไฟและหม้อแปลงไฟฟ้า เพื่อรับประกันว่าปัญหาไฟฟ้าดับจะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตอย่างจำกัดที่สุดและสั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
โจเซฟฟ์ บอร์เรล หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นประธานการประชุมรัฐมนตรีอียูในกรุงบูคาเรตส์ เพื่อช่วยเหลือยูเครนรับมือกับวิกฤตด้านมนุษยธรรม กล่าวว่า "ประธานาธิบดีปูติน ยังคงเดินหน้าทำให้ยูเครนเป็นหลุมดำ ไม่มีแสงไฟ ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีความร้อน เพื่อผลักคนยูเครนสู่ความมืดมิดและหนาวเหน็บ ดังนั้น เราจำเป็นต้องเดินนหน้าสนับสนุนชาวยูเครนอย่างเป็นรูปธรรมมากกว่านี้ในการรับมือกับฤดูหนาว โดยปราศจากไฟฟ้า"
(ที่มา : อัลจาซีราห์/รอยเตอร์)