ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ออกมาโวยในคืนวันอาทิตย์ (27 พ.ย.) รัสเซียกำลังวางแผนโจมตีระลอกใหม่ เรียกร้องกองทัพและประชาชนเตรียมพร้อมรับภาวะขาดแคลนพลังงานต่ออีกสัปดาห์ท่ามกลางอุณหภูมิติดลบ ขณะที่ทางด้านเพนตากอน เผยอยู่ระหว่างพิจารณาข้อเสนอของโบอิ้ง ในการจัดหาระเบิดขนาดเล็กราคาถูก แม่นยำสูง เพื่อติดตั้งกับจรวดจำนวนมากที่เคียฟมีอยู่แล้ว
รัสเซียเดินหน้าถล่มโครงสร้างพื้นฐานสำคัญโดยเฉพาะทางด้านพลังงานของยูเครนตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ไฟฟ้าดับในพื้นที่จำนวนมาก รวมทั้งมีพลเรือนเสียชีวิตด้วย โดยที่การโจมตีเมื่อวันพุธที่แล้ว (23) ถือว่าสร้างความเสียหายรุนแรงที่สุดในรอบ 9 เดือนที่เกิดสงคราม ทำให้ชาวยูเครนนับล้านๆ คนไม่มีไฟฟ้า น้ำประปา ตลอดจนไออุ่นจากเครื่องทำความร้อน ขณะที่อุณหภูมิลดต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส
ระหว่างการปราศรัยผ่านออนไลน์ที่เขาทำเป็นประจำทุกคืนเมื่อคืนวันอาทิตย์ (27) เซเลนสกี ระบุว่า “ผู้ก่อการร้าย” ซึ่งเขาหมายถึงรัสเซียกำลังเตรียมโจมตีระลอกใหม่ด้วยขีปนาวุธ และสัปดาห์นี้จะยากลำบากเช่นเดียวกับสัปดาห์ที่ผ่านมา
ในกรุงเคียฟเมื่อวันอาทิตย์ มีหิมะตกลงมาท่ามกลางอุณหภูมิซึ่งอยู่ต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง ขณะที่ประชาชนนับล้านๆ ทั้งภายในและรอบๆ เมืองหลวงของยูเครนยังคงประสบความทุกข์ยากจากเรื่องที่การจ่ายไฟฟ้าและระบบความร้อนส่วนกลางหยุดชะงักลง เนื่องจากการโจมตีทางอากาศของรัสเซีย
เจ้าหน้าที่ในเคียฟเผยว่า พนักงานสามารถซ่อมแซมแก้ไขระบบไฟฟ้า น้ำประปา และความร้อนใกล้เสร็จแล้ว แต่ในเมื่อปริมาณการบริโภคยังคงอยู่ในระดับสูง ก็หมายความว่า ยังต้องมีการดับไฟฟ้าเป็นช่วงๆ กันต่อไป
ยูเครนประณามว่า การโจมตีของรัสเซีย ซึ่งมอสโกยอมรับว่าพุ่งเป้าเล่นงานโครงสร้างพื้นฐานของยูเครนนั้น มีความจงใจที่จะทำอันตรายพลเรือน ดังนั้นจึงต้องถือว่าเป็นการก่ออาชญากรรมสงคราม ขณะที่รัสเซียปฏิเสธเรื่อยมาว่าตนไม่ได้มีเจตนาทำร้ายพลเรือน แต่ได้กล่าวในสัปดาห์ที่แล้วว่า ความลำบากเดือดร้อนของพลเรือนจะไม่อาจยุติลงไปได้ ถ้าหาก เคียฟ ไม่ยินยอมตามข้อเรียกร้องของฝ่ายรัสเซีย
ทั้งนี้ เดือนกันยายนที่ผ่านมา มอสโกประกาศผนวกดินแดน 4 แคว้นทางภาคตะวันออกและภาคใต้ของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ยืนยันภายหลังการผนวกว่า ข้อเรียกร้องเรื่องดินแดนของรัสเซียเช่นนี้เป็นสิ่งที่ไม่สามารถเจรจาต่อรองได้ ด้านเซเลนสกีตอบโต้ว่า จะไม่เจรจากับมอสโก และย้ำว่า บูรณภาพด้านดินแดนของยูเครนเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเจรจาต่อรองได้เช่นเดียวกัน
สำหรับสถานการณ์การสู้รบเมื่อวันอาทิตย์นั้น ค่อนข้างสงบโดยไม่มีการโจมตีรุนแรงในเคียฟหรือเมืองสำคัญอื่นๆ ถึงแม้ว่ากองบัญชาการกองทัพส่วนกลางของยูเครนแถลงว่า กองกำลังรัสเซียโจมตีด้วยขีปนาวุธ 4 ลูก และระดมยิงวัตถุด้านพลเรือนในแคว้นดนิโปรเปตรอฟสก์
อย่างไรก็ดี เซเลนสกีระบุว่า สถานการณ์ในแนวรบหลายพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแคว้นโดเนตสก์ ที่อยู่ทางตะวันออกยังคงตึงเครียด
ด้าน โอเลห์ ดานอฟ นักวิเคราะห์ทางการทหารของยูเครน ก็ระบุว่า การสู้รบหนักหน่วงยังคงดำเนินต่อไปในแคว้นคาร์คีฟ ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ในพื้นที่ใกล้ๆ บริเวณซึ่งกองทัพยูเครนยึดคืนได้จากรัสเซียในเดือนกันยายนและตุลาคมที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน เปโตร โคติน ประธานของ อิเนอร์โกอะตอม รัฐวิสาหกิจพลังงานนิวเคลียร์ของยูเครน เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ว่า มีสัญญาณบ่งชี้ว่า กองกำลังรัสเซียอาจกำลังเตรียมถอนออกจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริซเซีย ที่ยึดไว้ตั้งแต่เดือนมีนาคม
ทั้งนี้ บริเวณรอบๆ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใหญ่ที่สุดของยุโรปแห่งนี้ถูกโจมตีอยู่เป็นประจำ โดยบางครั้งเฉียดใกล้ตัวโรงไฟฟ้ามากๆทำให้มีความหวาดหวั่นว่า จะเกิดหายนะนิวเคลียร์ ขณะที่ทั้งยูเครนและรัสเซียต่างกล่าวหากันว่าอีกฝ่ายเป็นตัวการโจมตี
เมื่อวันเสาร์ (26) กองเสนาธิการใหญ่แห่งกองทัพยูเครนแถลงว่า กองกำลังเคียฟสามารถทำลายยุทโธปกรณ์ประเภทต่างๆ ของรัสเซีย 6 รายการ และทหารได้รับบาดเจ็บราว 30 นาย ในเมืองอิเนอร์โฮดาร์ ซึ่งอยู่ใต้การควบคุมของรัสเซีย เมืองนี้ตั้งอยู่ใกล้ๆ โรงไฟฟ้าซาโปริซเซีย และเป็นที่อาศัยของพนักงานโรงไฟฟ้าแห่งนั้น
ทว่า คณะบริหารในอิเนอร์โฮดาร์ที่ได้รับแต่งตั้งจากรัสเซียปฏิเสธว่า สื่อกำลังเผยแพร่ข่าวปลอมว่า รัสเซียวางแผนถอนออกจากอิเนอร์โฮดาร์า และโรงไฟฟ้าซาโปริซเซีย
ในอีกด้านหนึ่ง กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) เผยว่า กำลังพิจารณาข้อเสนอของโบอิ้งในการจัดหาระเบิดขนาดเล็กราคาถูก แต่มีความแม่นยำที่สามารถติดตั้งกับจรวดที่ยูเครนมีอยู่แล้วจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้เคียฟโจมตีจากระยะไกลเจาะหลังแนวรบของรัสเซีย
แหล่งข่าวเสริมว่า ระบบที่โบอิ้งเสนอที่เรียกว่า กราวด์-ลอนช์ สมอลล์ ไดอะมิเตอร์ บอมบ์ เป็นหนึ่งในหลายๆ แผนการในการขึ้นสายการผลิตเครื่องกระสุนรุ่นใหม่สำหรับยูเครนและพันธมิตรในยุโรปตะวันออกของอเมริกา
(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี)