ฟังดูแปลกๆ เมื่อทนายความสาว 1 ใน 3 ของผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปีนี้ ออกมาเรียกร้องเมื่อวันจันทร์ (28 พ.ย.) ให้จัดหาอาวุธส่งมอบแก่ยูเครนเพื่อปกป้องตนเองและหยุดความโหดร้ายป่าเถื่อนต่างๆ จากการบุกยึดครองของรัสเซีย
โอเล็คซานเดอร์ มัตวิชุค ทนายความด้านสิทธิมนุษยชนขาวยูเครน ซึ่งเป็นประธานศูนย์เพื่อเสรีภาพพลเมือง (Center for Civil Liberties) ที่มีสำนักงานในยูเครน ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีในสตอกโฮล์ม ว่า "ใครบางคนถามฉันเกี่ยวกับแนวทางหยุดอาชญากรรมที่มีมาอย่างยาวนานเหล่านี้ ในดินแดนยึดครองทั้งหลาย คำตอบเดียวของฉันก็คือ มอบอาวุธแก่ยูเครนเพื่อปลดปล่อยดินแดนเหล่านั้น"
"สำหรับฉัน มันเป็นสถานการณ์แปลกประหลาด และมันเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่ามีบางอย่างผิดพลาดในระบบนานาชาติทั้งมวล เมื่อทนายความด้านสิทธิมนุษยชนต้องออกมาร้องขอระบบป้องกันภัยทางอากาศ" เธอกล่าว
อย่างไรก็ตาม มัตวิชุค บอกว่า "เราจำเป็นต้องปกป้องความเสียหายใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นกับโครงสร้างพื้นฐานทางพลเรือนที่สำคัญ เราต้องการระบบป้องกันภัยทางอากาศ เราต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการทหารรูปแบบอื่นๆ ที่สามารถช่วยเราปกป้องน่านฟ้าของเราได้"
มัตวิชุค กล่าวว่า กฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งปกติแล้วเธอใช้เป็นอาวุธสำหรับปกป้องสิทธิมนุษยชน ไม่ได้ผลอีกต่อไปแล้ว "ตอนนี้ไม่มีเครื่องมือทางกฎหมายใดๆ ที่สามารถหยุดความโหดร้ายป่าเถื่อนของรัสเซียได้ เพราะว่ารัสเซียเพิกเฉยกฎหมายระหว่างประเทศและทุกการตัดสินใจขององค์กรระหว่างประเทศอย่างเปิดเผย"
นอกจากนี้ เธอยังบอกด้วยว่า ยูเครนต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน "เพื่อทนกับฤดูหนาวที่แสนสาหัสในปีนี้" พร้อมเผยว่าตนเองเพิ่งประสบปัญหาต้องอยู่โดยปราศจากไฟฟ้าและความร้อนภายในบ้านของเธอในกรุงเคียฟ มานานกว่า 3 วันแล้ว
ศูนย์เพื่อเสรีภาพพลเมืองของยูเครน ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ร่วมกับ อาเลส เบียเลียตสกี นำภาคพลเมืองซึ่งรณรงค์เคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนในประเทศเบลารุส และองค์กรภาคประชาชนเมโมเรียล (Memorial) ในรัสเซีย ที่พยายามหาหลักฐานพิสูจน์อาชญากรรมสงครามการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการใช้อำนาจโดยมิชอบ
มัตวิชุค เผยว่า องค์กรของเธอ ซึ่งก่อตั้งในปี 2007 เวลานี้มีเป้าหมายแห่งความทะเยอทะยานใหม่ในการรวบรวมหลักฐานทุกอาชญากรรมสงครามที่เกิดขึ้นทั่วยูเครน "ตอนนี้เรามีฐานข้อมูลหนึ่ง ซึ่งในนั้นรวมถึงเหตุการณ์อาชญากรรมสงครามมากกว่า 24,000 เหตุการณ์
นอกจากนี้ เธอยังกล่าวเสียใจต่อสิ่งที่เธอเรียกว่า "ช่องโหว่แห่งความรับผิดชอบ" ด้วยระบบกฎหมายระหว่างประเทศแบกรับภาระมากเกินไป และศาลอาญาระหว่างประเทศก็สืบสวนเฉพาะกับคดีที่ถูกเลือกเท่านั้น "คำถามที่ฉันถามตัวฉันเองก็คือ เรารวบรวมหลักฐานของทุกอาญากรรมสงครามเหล่านี้ไปให้โคร? ใครกันจะเป็นผู้มอบโอกาสแห่งความยุติธรรมแก่เหยื่อหลายพันคนของอาชญากรรมสงคราม" เธอกล่าว
รางวัลโนเบลสาขาสันตภาพจะมีการมอบในพิธีอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะจัดขึ้นในกรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ ในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ ซึ่งเป็นวาระครบรอบการเสียชีวิตในปีของ 1896 ของอัลเฟรด โนเบล ผู้ก่อตั้งมูลนิธิและรางวัลโนเบลชาวสวีเดน
(ที่มา : เอเอฟพี)