คำพูดของอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เฮนรี คิสซิงเจอร์ ในวัย 99 ปี ยังพิสูจน์ว่าเป็นความจริงเสมอ เป็นคำเตือนสำหรับทุกชาติที่มีความสัมพันธ์เป็นมิตรหรือเป็นปฏิปักษ์กับสหรัฐฯ ที่ทำตัวเป็นเจ้าโลก ตำรวจโลก
ยุโรปในปัจจุบันเป็นหลักฐานอย่างดี ประชาชนยุโรปที่เคยอยู่ดีกินดี กำลังตกอยู่ในสภาวะลำบากด้วยปัญหาเศรษฐกิจ ค่าครองชีพสูง เกิดจากราคาพลังงานแพงเป็นผลมาจากการคว่ำบาตรด้านเศรษฐกิจต่อรัสเซีย
คิสซิงเจอร์บอกว่า “การเป็นศัตรูกับสหรัฐฯ นั้นเป็นอันตราย แต่การเป็นมิตรกับสหรัฐฯ นั้นถึงตาย” การเดินตามนโยบายสหรัฐฯ ในการคว่ำบาตรรัสเซียด้วยการไม่ซื้อพลังงานทั้งน้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติและถ่านหิน ทำให้ยุโรปขาดพลังงานอย่างหนัก
การไปซื้อจากตลาดจร และจากสหรัฐฯ นั้น มีราคาแพงมากกว่าซื้อจากรัสเซียหลายเท่า การที่ยุโรปร่วมคว่ำบาตรด้านพลังงานโดยหวังว่ารัสเซียจะหมดสภาพ ขาดรายได้นั้นเป็นการประเมินผิดพลาดอย่างร้ายแรง
รัสเซียไม่มีปัญหาเพราะมีตลาดใหญ่คือจีนและอินเดีย ทั้งยังค้าขายด้วยสกุลเงินตราของแต่ละประเทศพร้อมส่วนลด 30% ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย
แต่ยุโรปและอังกฤษไม่มีแผนรองรับว่าถ้าไม่ซื้อพลังงานจากรัสเซียแล้วจะเอามาจากไหน คงคาดว่ารัสเซียจะถอนทหารจากการสู้รบกับยูเครนถ้าไม่มีรายได้
ตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ปีนี้เมื่อรัสเซียปฏิบัติการทางทหารในยูเครน ยุโรปที่เดินตามก้นสหรัฐฯ รู้ว่าพลาดอย่างแรง เศรษฐกิจอยู่ในขั้นถดถอย เงินเฟ้อสูงกว่า 10%
ด้วยมาตรการที่จำเป็นต้องประหยัดพลังงานเมื่อย่างเข้าสู่ฤดูหนาวทำให้เกิดสภาวะลำบาก ประชาชนไม่ว่ายากดีมีจนถูกจำกัดการใช้พลังงานเหมือนกัน
นอกจากราคาแพงหลายเท่าตัวแล้ว ปัญหาค่าครองชีพสูงตามราคาพลังงานทำให้กลุ่มคนรายได้น้อยลำบาก ต้องเก็บเงินไว้เพื่อจ่ายค่าก๊าซ และน้ำมันเติมรถยนต์ รวมทั้งค่าไฟฟ้า ต้องอยู่ในสภาวะอดมื้อกินมื้อ
เมื่อลำบากถึงขีดสุด แม้มาตรการของรัฐบาลจะช่วยเหลือก็ไม่สามารถบรรเทาความลำบากได้ประชาชน จึงเริ่มรู้สึกว่าการเป็นปฏิปักษ์กับรัสเซียเป็นทางเลือกที่ผิด
ดังนั้นจึงมีการเดินขบวนของประชาชนที่ไม่พอใจนโยบายรัฐบาลเกิดขึ้นในหลายประเทศเช่น เยอรมนี ฝรั่งเศส ออสเตรีย อังกฤษ สาธารณรัฐเช็ก กรีซ อิตาลี
เกิดการประท้วงหยุดงานในอังกฤษและฝรั่งเศสเรียกร้องขอขึ้นค่าแรง เพราะไม่สามารถอยู่รอดได้เกิดปัญหาราคาพลังงานและค่าครองชีพสูงขึ้น
ผู้นำยุโรปอยู่ในสภาวะลำบากนอกจากจะต้องหาเงินมหาศาล กู้เงินก่อหนี้สิน เป็นภาระที่จะสืบเนื่องต่อไปอีกหลายปี
เยอรมนีกำลังอยู่ในสภาพของ Deindustrialization การล่มสลายของระบบอุตสาหกรรมเพราะขาดแคลนพลังงานอย่างหนัก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมหลักที่ใช้พลังงานมาก เช่น เหล็ก โลหะ แก้ว อาหารแช่แข็ง ห้องเย็น ปลูกพืชในเรือนกระจก
เป็นความเจ็บปวดของชาติในยุโรปเพราะสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้นำนาโตกลับไม่เป็นที่พึ่งพาได้ในฐานะเป็นมิตรแท้ในยามที่จำเป็น
นอกจากไม่สามารถแสวงหาพลังงานจากซาอุดีอาระเบียและกลุ่มชาติอาหรับในอ่าวเปอร์เซียได้แล้ว ยังทำตัวเป็นผู้ขายทั้งน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติเหลวให้ยุโรปในราคาที่มีกำไรงาม ยุโรปต้องซื้อเพราะไม่มีทางเลือกอื่น
นอกจากนั้นยังขายอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ให้ยุโรปทดแทนที่ส่งอาวุธไปช่วยยูเครนทำให้สหรัฐฯ ได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง ขณะที่ชาติในยุโรปต้องควักกระเป๋าจ่ายอย่างเดียว
สหรัฐฯ กำลังสิ้นอำนาจ บารมีในกลุ่มแอฟริกา ละตินอเมริกาและตะวันออกกลางรวมทั้งเอเชียด้วย ทั้งที่ได้เข้าไปยุ่งแทบจะทุกทวีปโดยอ้างความเป็นชาติมหาอำนาจอันดับหนึ่ง และปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง
ล่าสุดกลุ่มประเทศโอเปกพลัสซึ่งมีซาอุดีอาระเบียและรัสเซียเป็นแกนนำ รวม 23 ประเทศ ได้ตัดสินใจลดการผลิตน้ำมันดิบลงวันละ 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไปเพื่อพยุงราคาน้ำมันดิบไม่ให้ตกเกินไป
ถือเป็นการลดการผลิตอย่างมากที่สุดตั้งแต่ปี 2020 ราคาน้ำมันดิบได้ขึ้นสูงถึง 120 ดอลลาร์ แต่ลดลงเหลือประมาณ 80 ดอลลาร์ และมีแนวโน้มจะต่ำลงอีก
ผู้นำสหรัฐฯ โจ ไบเดน แสดงความผิดหวังผสมกับความไม่พอใจที่กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันไม่มองการณ์ไกล ไม่ใส่ใจคำขอร้องไม่ให้ลดการผลิตน้ำมันเพื่อช่วยแก้ปัญหาเงินเฟ้อ แต่กลุ่มโอเปกพลัสไม่ต้องการให้ราคาน้ำมันลดลงทำให้ขาดรายได้
สภาพที่เป็นอยู่คือชาติยุโรปไม่มีทางเลือก ถูกประเมินว่าจะต้องลำบากไป 10 ถึง 20 ปีด้วยปัญหาขาดแคลนพลังงาน การระเบิดท่อส่งก๊าซธรรมชาตินอร์ดสตรีม 1 และ 2 ยิ่งทำให้โอกาสที่ยุโรปจะได้รับพลังงานจากรัสเซียโดยเร็วจึงเป็นไปไม่ได้
ทั่วทั้งยุโรปกำลังจะสิ้นสภาพความเป็นชาติอุตสาหกรรม ประชาชนจะลำบากอีกหลายปีและจะต้องเล่นงานผู้นำประเทศที่นำพาคนเกือบ 700 ล้านอยู่ในสภาวะมาตรฐานการครองชีพตกต่ำ
ยุโรปไม่มีทางเลือกนอกจากจะต้องยอมลำบากเพราะอยู่ภายใต้อิทธิพลของสหรัฐฯ ต่อไป
โอกาสที่จะดิ้นรนให้พ้นจากความทุกข์ยาวนานมีทางเดียวคือ ให้ประชาชนลุกฮือขึ้นประท้วงนาโตและยกเลิกการคว่ำบาตรรัสเซียเพราะไม่สามารถหวังการพึ่งพาสหรัฐฯ ได้ การเป็นมิตรกับรัสเซียดูเหมือนจะดีกว่าการเป็นมิตรกับสหรัฐฯ
ศัตรูอย่างรัสเซียยังคงเสนอจะส่งก๊าซธรรมชาติให้กับยุโรปที่ตั้งหน้าตั้งตาจะเล่นบทศัตรูภายใต้นาโต