แนวรบตะวันตก...อเมริกา-ยุโรปแพ้แล้ว!!!

เปิดฉากสัปดาห์นี้...คงต้องขออนุญาตแวะไปดูการ “แก้หมาก-แก้เกม”ของฝ่ายตะวันตก หลังจากที่ผู้นำรัสเซียประธานาธิบดี “วลาดิมีร์ ปูติน” ท่านได้เดินหมาก-เดินเกม ด้วยการผนวกรวมอาณาบริเวณ 4 เขต 4 พื้นที่ หรือประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ของดินแดนยูเครน เข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศรัสเซีย กลายไปเป็น “รัสเซียใหม่” เป็น “Novorossiya”เป็นที่เรียบโร้ยย์ย์ย์โรงเรียนหมีขาว โดยการ “ลงประชามติ” ของบรรดาชาวสลาฟเชื้อสายรัสเซียในอาณาบริเวณดังกล่าว นับเป็นล้านๆ คน ที่ยินยอมพร้อมใจ อยากเป็น “ชาวรัสเซีย”หรือเป็น “ประชากรของเราไปตลอดชั่วนิรันดร์กาล”ดังที่ผู้นำรัสเซียท่านได้เน้นย้ำไว้ในสุนทรพจน์ล่าสุด เมื่อช่วงวันศุกร์ (30 ก.ย.) ที่ผ่านมา นับเป็น 80-90 เปอร์เซ็นต์ในแต่ละพื้นที่ เพราะยังไงๆ ย่อมต้องดีกว่าการถูกเข่น ถูกฆ่า ถูกล้างเผ่าพันธุ์ โดยกองทัพ “นาซีใหม่” ของยูเครน ไม่น้อยกว่า 7 ปี 8 ปีที่ผ่านมานั่นเอง...

อันนี้นี่แหละ...ที่น่าจะทำให้บรรดาพวกตะวันตกโดยการนำของคุณพ่ออเมริกา น่าจะ “งงเต๊ก”อยู่พอสมควรทีเดียว เพราะถึงจะแสดงท่าทีปฏิเสธ ไม่ยอมรับ หรือกล่าวประณามการลงประชามติของประชาชนในแต่ละพื้นที่ในแบบไหน? อย่างไร? ก็ตาม แต่ด้วยเสียงอันเป็นเอกฉันท์ของผู้คนนับล้านๆ ย่อมก่อให้เกิด “เงื่อนไข”และ “ข้ออ้าง” ที่มี “ความชอบธรรม”รองรับเป็นพื้นฐานอยู่มิใช่น้อย สำหรับ “ประเทศนิวเคลียร์”อย่างรัสเซีย ในอันที่จะปกป้อง พิทักษ์ดินแดนและประชากรที่กลายมาเป็นชาวรัสเซียไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วย “สรรพาวุธทุกสิ่งทุกอย่างที่เรามี...รวมทั้งอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์อีกด้วย”หรือทำให้การคิดที่จะโจมตีดินแดนตลอดไปจนผู้คนในพื้นที่ดังกล่าว ย่อมไม่ต่างอะไรไปจากการเปิดศึกโดยตรงกับประเทศรัสเซีย โอกาสที่จะต้องเจอกับ “บ้องข้าวหลามยักษ์” ประเภทจรวดนำวิถีไฮเปอร์โซนิก แถมยังติดหัวรบนิวเคลียร์ซะอีกด้วย หล่นใส่หัวกบาลกันเป็นประเทศๆ ย่อมมีความเป็นไปได้ไม่มาก-ก็น้อย...

บรรดาชาวยุโรปหรือพันธมิตรตะวันตกของคุณพ่ออเมริกา ที่กำลังต้องเจอกับ “ภาวะเงินเฟ้อ” พุ่งทะลุเพดาน ทะลุหลังคา ชนิดภายในเดือนตุลาคมนี้ แนวโน้มที่ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มไปถึง 2 หลัก หรือนับเป็น 10 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป จำนวนไม่น้อยกว่า 19 ประเทศ ตามข้อมูล สถิติ การประมาณการของ “ECB”(European Central Bank) ของยุโรปเอง แถมท่อขนส่งแก๊ส อย่าง “Nord Stream 1-2”จากรัสเซียมายังยุโรป เพื่อช่วยปะทะปะทังความหนาว ความเย็น ให้ชาวยุโรปได้มั่ง ยังถูกใครก็ไม่รู้??? แอบวางระเบิด หรือจงใจ “ก่อวินาศกรรมโดยเจตนา” จะเป็นคุณพ่ออเมริกาที่ไม่ว่าโดยตัวประธานาธิบดี “โจ ไบเดน” หรือ “นางวิคตอเรีย นูแลนด์” ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศ ล้วนแล้วแต่เคยยืนหยัด ยืนยัน เอาไว้ประมาณว่า เมื่อไหร่ที่รัสเซียบุกยูเครน บรรดาท่อแก๊สเหล่านี้จะต้องถึงจุดจบด้วยขีดความสามารถของอเมริกา โดยวิธีใดๆ ก็ตาม หรือไม่? อย่างไร? ก็ยังยากที่จะพิสูจน์ได้โดยชัดเจน แต่นั่น...ก็ยิ่งทำให้บรรดาพันธมิตรยุโรปของคุณพ่ออเมริกา แทบไม่เหลือ “ทางเลือก” ใดๆ ยิ่งขึ้นไปอีก ในอันที่จะตัดสินใจเผชิญหน้าโดยตรง หรือจะหันมาประนีประนอมยอมความ ยอมที่จะ “อยู่ร่วมโลกโดยสันติ”กับรัสเซีย เพื่อมิให้ “สงครามนิวเคลียร์”หรือ “สงครามที่ไม่มีผู้ชนะ...มีแต่ผู้แพ้ด้วยกันทั้งสิ้น”มีอันต้องอุบัติขึ้นมาจนได้!!!

ส่วนถ้าจะถามว่าแล้ว “เรามาถึงจุดนี้...ได้อย่างไร???”ดูเหมือนว่าอดีตที่ปรึกษาทำเนียบขาวยุครัฐบาล “ทรัมป์บ้า” ของอเมริกาเอง คือ “นางFiona Hill”ได้ตอบคำถามเหล่านี้เอาไว้ชัดเจน เมื่อวันพฤหัสฯ (29 ก.ย.) ที่ผ่านมานี่เอง ระหว่างการให้สัมภาษณ์นิตยสาร “The New Yorker Magazine” ด้วยคำพูด คำอธิบาย ประมาณว่า...ฝ่ายตะวันตกได้กระทำสงครามโลกครั้งที่ 3 กับรัสเซียมานานแล้ว โดยที่ตัวเองกลับไม่ได้สำเหนียกถึงสิ่งเหล่านี้ หรือนับตั้งแต่สหรัฐอเมริกาสนับสนุนให้เกิดการรัฐประหารในยูเครนเมื่อปี ค.ศ. 2014 รวมทั้งส่งความช่วยเหลือทางทหารให้กับกองทัพยูเครนเพื่อเล่นงานผู้คนในสาธารณรัฐโดเนตสก์และลูฮันสก์มาตลอดช่วงระยะเวลา 8 ปี สิ่งเหล่านี้นี่เองที่ทำให้ “เรามาถึงจุดนี้”หรือทำให้ “เราอยู่ในภาวะเช่นนี้มานานแล้ว...เพียงแต่เราปฏิเสธที่จะยอมรับมัน”ไม่ต่างไปจากอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกา อย่างคุณปู่ “เฮนรี่ คิสซิงเจอร์”ที่ได้สรุปเอาไว้ว่า... “ความพยายามรวมภูมิภาคยุโรปตะวันออกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของระบบยุทธศาสตร์ที่นำโดยอเมริกา หลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต หรือรวมยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของนาโต หลังกำแพงเบอร์ลินพังทลาย ได้สร้างความท้าทายขั้นพื้นฐานที่...ไม่ได้ฉลาดเลย!!! ในการกำหนดนโยบายต่างประเทศของอเมริกา...”

อันนี้นี่แหละ...ที่ทำให้ “แนวโน้มของสงครามนิวเคลียร์” นับวันยิ่งมีความเป็นไปได้สูงเสียยิ่งกว่ายุคสงครามเย็น หรือช่วง “วิกฤตคิวบา” เมื่อหลายสิบปีที่แล้ว อย่างเห็นได้ชัดเจนยิ่งเข้าไปทุกที จนคุณปู่ “คิสซิงเจอร์” ท่านอดรนทนไม่ได้ที่จะต้องกระย่องกระแย่งออกมา “เตือน” เอาไว้ก่อนล่วงหน้า ถึง “ความตึงเครียดแห่งความขัดแย้งอันจะนำไปสู่สงครามนิวเคลียร์”ที่ควรจะต้องหาทางออก ทางไป ด้วยการ “สนับสนุนให้มีการเจรจาระหว่างรัสเซียกับบรรดากลุ่มประเทศตะวันตกอย่างจริงๆ-จังๆ” ด้วยเหตุเพราะ “ไม่ได้เป็นประโยชน์ใดๆ ต่อโลกทั้งโลก ในการกีดกันประเทศรัสเซียออกจากชาติยุโรปทั้งมวล”...

แต่ก็นั่นแหละ...สำหรับ “ตัวแทน” หรือ “ตัวตลก”อย่างผู้นำยูเครน ประธานาธิบดี “โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้”ที่แทบไม่ได้สนใจว่าผู้คนพลเมืองในประเทศตัวเองจะตายโหง-ตายห่าไปแล้วถึงขั้นไหน ต้องอพยพหลบลี้หนีภัยออกจากประเทศกันเป็นล้านๆ ก็เลยได้จังหวะ โอกาส ที่จะหันมาแก้หมาก-แก้เกม ด้วยการเสนอตัว เสนอให้ร่นระยะเวลาการเข้าร่วมเป็น “สมาชิกนาโต”ของยูเครน ด้วยกรรมวิธีพิเศษ (Fast-Tracked application) เพื่อหวังฉุดลากกระชากถู บรรดาชาติยุโรปกว่า 20 ประเทศ ให้ต้องเข้ามาเผชิญหน้าโดยตรงกับรัสเซีย ตามข้อบังคับในมาตรา 5 ที่จะเปิดโอกาสให้แต่ละประเทศร่วมทำสงครามกับใครก็ตามที่บุกรุก โจมตี ชาติพันธมิตรได้แบบเต็มสูบ เต็มตีน หรือพูดง่ายๆ ว่า...ให้โลกทั้งโลกต้องฉิบหายกันไปข้าง!!! ไม่ว่าจะ “โลกขั้วอำนาจเดียว” หรือ “โลกหลายขั้วอำนาจ”ก็แล้วแต่...

ปัญหาก็เลยขึ้นอยู่กับว่า...บรรดาชาติยุโรปทั้งหลาย จะ “บ้า...ก็บ้าวะ”ไปตามแรงกระตุ้นของ “ตัวตลก”อย่างประธานาธิบดี “โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้” มาก-น้อยขนาดไหน??? โดยถ้าฟังจากน้ำเสียงของเลขาธิการนาโต “พลเอกเจนส์ สโตลเตนเบิร์ก” (Jens Stoltenberg) ที่แม้ออกมายอมรับว่าการระดมสรรพกำลังด้วยการเกณฑ์ทหารเพิ่มเติม 300,000 นาย ของกองทัพรัสเซีย การประกาศพร้อมใช้อาวุธนิวเคลียร์ปกป้องดินแดนและประชากรชาวรัสเซีย หลังการผนวกดินแดน 4 เขต 4 พื้นที่ในยูเครน ถือเป็นการ “ยกระดับความขัดแย้งถึงขั้นสูงสุด”แต่จะถึงขั้นยอมให้ “ตัวตลก” หรือ “ตัวแทน” อย่างผู้นำยูเครน ฉุดลากกระชากถูให้ต้องทำสงครามโดยตรงกับรัสเซีย ชนิดอาจเป็นสงครามนิวเคลียร์เอาเลยนั้น นายทหารผู้นี้ท่านสรุปเอาไว้แต่เพียงว่า... “ขณะนี้เรามุ่งโฟกัสไปที่การจัดหาสิ่งของจำเป็นและเร่งด่วน เพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือยูเครนให้สามารถป้องกันตัวเองจากการรุกรานของรัสเซีย” คือยังพอมี “สติ” ไม่ถึงกับ “บ้า...ก็บ้าวะ” อะไรมากมายนัก...

เพราะถ้าว่ากันตามสภาพความเป็นจริง ข้อเท็จจริง ณ ช่วงขณะนี้...ไม่ว่าจะเป็นบรรดาชาติยุโรปหรือคุณพ่ออเมริกาต่างก็กรอบเป็นข้าวเกรียบเมืองเพชรไปด้วยกันทั้งสิ้น ทั้งปวง ไม่ว่าจะในแง่การเมือง เศรษฐกิจ หรือแม้แต่ “การทหาร”ก็แล้วแต่โอกาสที่จะต้องสูญเสียค่าใช้จ่ายในราคา “แพง...แสนแพง”เพื่อปกป้อง “ประชาธิปไตยตามมาตรฐานตะวันตก” ไม่ให้ถูกเล่นงานโดยพวก “อำนาจนิยม” หรือโดย “มหาอำนาจคู่แข่ง”อย่างจีนและรัสเซีย นับวันจะยากลำบากยิ่งเข้าไปทุกที เพราะแม้แต่ “ประชาธิปไตยอเมริกา” ในทุกวันนี้ ถ้าว่ากันตามผลสำรวจล่าสุดของ “Quinnipiac University Poll” ยังหนีไม่พ้นต้องให้ข้อสรุปไว้ชัดเจน ว่าบรรดาอเมริกันชนไม่น้อยไปกว่า 67 เปอร์เซ็นต์ของประเทศ ต่างคิดเห็นไปในแนวเดียวกันว่าประชาธิปไตยอเมริกากำลัง “ล่มสลาย”ในอีกไม่ใกล้-ไม่ไกล!!! ภายใต้สภาพเช่นนี้...มันเลยแทบไม่มีโอกาสก่อสงครามใดๆ ได้เลย มีแต่ต้องรอรับสภาพ “ความพ่ายแพ้”ไม่วันหนึ่งก็วันใด นับจากนี้...