xs
xsm
sm
md
lg

มอสโกคุยประชามติฉลุย 4 แคว้นในยูเครน ขอรวมกับรัสเซียแม้ตะวันตกประณามเป็น ‘จำอวด’ พร้อมย้ำมีสิทธิใช้อาวุธนิวเคลียร์ปกป้องประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ทหารกองหนุนชาวรัสเซียจูบอำลาญาติๆ ซึ่งมาส่ง ที่เมืองโวซสกี้ แคว้นโวลโกกราด เมื่อวันพุธ (28 ก.ย.) ก่อนออกเดินทางไปสู่ค่ายทหารเพื่อเข้ารับการฝึกเพิ่มเติม ตามแผนการเรียกระดมกำลังพลบางส่วนของทางการรัสเซีย เพื่อเพิ่มกำลังทหารสู้ศึกในยูเครน
พวกเจ้าหน้าที่โปรรัสเซีย อ้างประชาชนใน 4 พื้นที่ยึดครองในยูเครนลงประชามติท่วมท้น ต้องการผนวกรวมเข้ากับรัสเซีย ขณะที่มอสโกย้ำอาจใช้อาวุธนิวเคลียร์ปกป้องดินแดนของประเทศ ด้านอเมริกาตอบโต้ เตรียมขอให้ยูเอ็นออกมติประณามการทำประชามติปลอม รวมถึงเตรียมออกมาตรการแซงก์ชันมอสโกเพิ่มเติม และประกาศแผนสนับสนุนอาวุธล็อตใหม่ให้เคียฟ

จากการเปิดเผยของพวกเจ้าหน้าที่โปรรัสเซีย ผลการทำประชามติที่สิ้นสุดเมื่อวันอังคาร (27 ก.ย.) ออกมาว่า ประชาชนใน 4 แคว้นของยูเครนที่รัสเซียยึดครองอยู่ ได้แก่ โดเนตสก์ ลูฮันสก์ ซาโปริซเซีย และเคียร์ซอน สนับสนุนการผนวกรวมกับรัสเซียด้วยคะแนนท่วมท้นระหว่าง 87-99.2% ขณะที่ประธานสภาสูงของรัสเซียระบุว่า สภาน่าจะพิจารณาเรื่องการผนวกนี้ในวันอังคารหน้า (4 ต.ค.)

ทั้ง 4 แคว้นนี้ซึ่งอยู่ทางภาคตะวันออกและทางใต้ของยูเครน มีประชากรพูดภาษารัสเซียอาศัยอยู่ อีกทั้งเป็นพื้นที่เชื่อมต่อสำคัญระหว่างรัสเซียกับคาบสมุทรไครเมียที่รัสเซียผนวกเป็นส่วนหนึ่งของตนไปแล้วตั้งแต่เมื่อปี 2014

ด้าน ดมิทรี เมดเวเดฟ พันธมิตรของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ที่เคยเป็นอดีตประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรี โดยที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานสภาความมั่นคงของรัสเซีย โพสต์บนแฟลตฟอร์มสื่อสังคมเทเลแกรม ว่า “ผลการทำประชามติชัดเจน ยินดีต้อนรับสู่รัสเซีย!”

ทั้งนี้ ปูตินเคยเตือนระหว่างการปราศรัยถ่ายทอดทางทีวีเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า รัสเซียพร้อมจะใช้ระบบอาวุธทุกๆ อย่างซึ่งสามารถนำมาใช้ได้ เพื่อปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของตน ซี่งนัยแห่งคำกล่าวของเขาครอบคลุมถึงดินแดนซึ่งจะผนวกรวมเข้ามาใหม่ด้วย คำพูดเช่นนี้ของผู้นำแดนหมีขาวถูกมองว่า เป็นการข่มขู่ที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์ หากมีความพยายามที่จะชิงเอาพื้นที่เหล่านี้กลับไป

ขณะที่ ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกของปูติน สำทับในวันอังคารว่า การทำประชามติครั้งนี้จะมีผลทางกฎหมายอย่างลึกซึ้ง อีกทั้งมีผลต่อความมั่นคงของรัสเซีย

เมดเวเดฟย้ำเตือนเรื่องนี้อีกครั้งในวันอังคารผ่านโซเชียลมีเดียว่า รัสเซียมีสิทธิใช้อาวุธนิวเคลียร์หากจำเป็น

สำหรับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน บอกในวันอังคารว่า ยูเครนจะปกป้องพลเมืองของตนในดินแดนที่รัสเซียยึดครอง และโจมตีว่า การทำประชามติของรัสเซียเป็น “จำอวด” และปิดโอกาสการเจรจาระหว่างเคียฟกับมอสโก

ส่วนสหรัฐฯ นั้น พลจัตวาแพทริก ไรเดอร์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงว่า อเมริกาพิจารณาคำขู่ของรัสเซียอย่างจริงจัง แต่ยังไม่มีเหตุผลเพียงพอในการเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์นิวเคลียร์

แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศว่า ตะวันตกจะไม่ยอมรับการผนวกดินแดนเหล่านั้นของรัสเซีย พร้อมขู่ว่า มอสโกจะต้องจ่ายแพงมากสำหรับแผนการร้ายกาจนี้

นอกจากนั้น ลินดา โทมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตอเมริกาประจำยูเอ็น ยังเตรียมยื่นญัตติขอให้สมาชิกสหประชาชาติ ปฏิเสธสถานะที่เปลี่ยนแปลงของยูเครนและบังคับให้รัสเซียถอนทหารออกจากยูเครน และสำทับว่า หากรัสเซียใช้อำนาจยับยั้งญัตตินี้ในคณะมนตรีความมั่นคงของยูเอ็น อเมริกาจะเสนอญัตตินี้ต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่ยูเอ็นเป็นขั้นตอนต่อไป

ทหารกองหนุนชาวรัสเซียที่เมืองโวซสกี้ แคว้นโวลโกกราด เมื่อวันพุธ (28 ก.ย.) เดินทางไปสู่ค่ายทหารเพื่อเข้ารับการฝึกเพิ่มเติม ตามแผนการเรียกระดมกำลังพลบางส่วนของทางการรัสเซีย เพื่อเพิ่มกำลังทหารสู้ศึกในยูเครน


ทว่า วาสสิลี เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำยูเอ็น วิจารณ์ความเคลื่อนไหวนี้ว่า เป็นการตีโพยตีพายของตะวันตก พร้อมยืนยันว่า การจัดทำประชามติใน 4 แคว้นยึดครองดำเนินการอย่างโปร่งใสและเป็นไปตามบรรทัดฐานการเลือกตั้งทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม พวกผู้สังเกตการณ์ฝ่ายตะวันตกระบุว่า มีการกำหนดผลการลงประชามติล่วงหน้าแล้วแบบเดียวกับที่เกิดขึ้นในไครเมียเมื่อ 8 ปีก่อน นอกจากนั้น ยังมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่เลือกตั้งขนกล่องลงคะแนนไปหาประชาชนถึงบ้าน และในหลายกรณีมีทหารติดอาวุธของรัสเซียเดินทางไปด้วย

นอกจากเคลื่อนไหวในยูเอ็นแล้ว เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยังเผยว่า คณะบริหารไบเดน กำลังเตรียมออกมาตรการแซงก์ชันรัสเซียครั้งใหม่ หากมีการประกาศผนวกดินแดนในยูเครน รวมทั้งยังจะประกาศแผนให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่เคียฟระลอกใหม่มูลค่า 1,100 ล้านดอลลลาร์เร็วๆ นี้

ภายหลังข่าวนี้ อนาโตลี แอนโตนอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำวอชิงตัน โพสต์เตือนบนเทเลแกรมว่า การยั่วยุให้ยูเครนใช้อาวุธที่ได้รับจากตะวันตกเท่ากับว่า วอชิงตันไม่ตระหนักถึงความเสี่ยงในการกระทำของตนเอง และทิ้งท้ายว่า รัสเซียจะปกป้องดินแดนอย่างเด็ดขาดและรุนแรง

(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี)


กำลังโหลดความคิดเห็น