อเมริกาเตือนรัสเซียเจอ “หายนะ” ถ้าใช้อาวุธนิวเคลียร์ในยูเครน หลังมอสโกประกาศปกป้องเต็มที่พวกเขตต่างๆ ในยูเครนที่อาจนำเข้ามาผนวกเป็นส่วนหนึ่งของแดนหมีขาว ภายหลังการทำประชามติซึ่งกำลังดำเนินการกันอยู่ โดยที่การลงประชามติคราวนี้ถูกฝ่ายตะวันตกวิพากษ์วิจารณ์หนักว่าเป็นเพียงละครตบตาหลอกลวงของรัสเซียเพื่ออ้างความชอบธรรมในการเข้ายึดครอง
พลเมืองใน 4 แคว้นของยูเครน ได้แก่ ลูฮันสก์ และโดเนตสก์ ทางภาคตะวันออก และเคียร์ซอน กับซาโปริซเซีย ทางภาคใต้ ซึ่งกองกำลังฝ่ายรัสเซียควบคุมอยู่ทว่าดูจะยังไม่ใช่สามารถยึดดินแดนไปได้ทั้งหมด อยู่ระหว่างการทำประชามติซึ่งฝ่ายโปรรัสเซียเป็นผู้ดำเนินการ โดยประเด็นสอบถามสำคัญคือยินดีจะผนวกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียหรือไม่ ทั้งนี้ เคียฟและฝ่ายตะวันตกต่างกล่าวหาว่ามีการกำหนดผลการโหวตล่วงหน้าอยู่แล้ว รวมทั้งประเทศที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดรัสเซียบางราย อย่างเซอร์เบีย และคาซัคสถาน ก็ประกาศว่าจะไม่ยอมรับผลการทำประชามติเหล่านี้
อย่างไรก็ตาม รัสเซียเตือนเคียฟและตะวันตกว่า หากผลประชามติออกมาว่าต้องการรวมกับแดนหมีขาวแล้ว ดินแดนเหล่านี้ก็จะถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย และดังนั้นความพยายามของยูเครนในการชิงพื้นที่เหล่านี้กลับคืนจะกลายเป็นการโจมตีรัสเซียโดยตรง
นอกจากนั้น ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ได้ประกาศเอาไว้ในวันพุธ (21) ที่ผ่านมาว่า หากมีภัยคุกคามบูรณภาพแห่งดินแดน ตลอดจนเพื่อปกป้องรัสเซียและประชาชนรัสเซียแล้ว รัสเซียก็พร้อมใช้ระบบอาวุธต่างๆ ทั้งหมดที่ตนเองมีอยู่ คำพูดนี้ถูกตีความว่าคือการประกาศพร้อมที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์
ถัดจากนั้นในช่วงสุดสัปดาห์ เซียร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ได้ตอบผู้สื่อข่าวที่ถามว่า มอสโกจะพิจารณาใช้อาวุธนิวเคลียร์ปกป้องดินแดนที่ผนวกรวมเข้ามาใหม่หรือไม่ โดยกล่าวว่าดินแดนของรัสเซียนั้นครอบคลุมถึงดินแดนที่จะบันทึกอยู่ในรัฐธรรมนูญของรัสเซียในอนาคต และดินแดนเหล่านี้ก็จะได้รับการปกป้องอย่างเต็มที่เช่นกัน
ในวันอาทิตย์ (25) เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวในรายการของเครือข่ายทีวีเอ็นบีซี ว่า วอชิงตันเตือนมอสโกไปแล้วว่า จะเผชิญหายนะรุนแรง เนื่องจากอเมริกาจะตอบโต้ขั้นเด็ดขาดหากรัสเซียใช้อาวุธนิวเคลียร์โจมตียูเครน
ซัลลิแวนไม่ได้ระบุว่า อเมริกาจะตอบโต้อย่างไร แต่เสริมว่า ได้บอกกับมอสโกโดยตรงและอย่างละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้
วันเดียวกันนั้น แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ก็ให้สัมภาษณ์รายการ 60 มินิตส์ทางเครือข่ายซีบีเอส นิวส์ว่า วอชิงตันบอกกับรัสเซียอย่างชัดเจนให้หยุดพูดเรื่องอาวุธนิวเคลียร์ และสำทับว่า การใช้อาวุธนิวเคลียร์จะทำให้เกิดหายนะร้ายแรงไม่เฉพาะกับประเทศที่ใช้อาวุธนั้น แต่ยังรวมถึงอีกหลายประเทศด้วย
สำหรับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวว่า เขาไม่เชื่อการประกาศของปูตินในเรื่องพร้อมใช้อาวุธนิวเคลียร์ปกป้องรัสเซีย โดยคิดว่าเป็นเพียงคำขู่เท่านั้น
ขณะเดียวกัน เซอร์ฮีย์ ไกได ผู้ว่าการแคว้นลูฮันสก์ของฝ่ายเคียฟ อ้างว่า พวกเจ้าหน้าที่ฝ่ายโปรรัสเซียและเจ้าหน้าที่ความมั่นคงตระเวนนำพร้อมกล่องลงคะแนนตระเวนไปตามบ้านทุกๆ หลัง เพื่อให้ลงประชามติ แต่ทำเครื่องหมายที่ชื่อของผู้ที่ลงประชามติไม่ถูกต้องหรือไม่ยอมลงประชามติ
ทั้ง 4 แคว้นที่จัดการลงประชามติคราวนี้ รวมแล้วคิดเป็นพื้นที่ 15% ของยูเครน หรือพอๆ กับประเทศโปรตุเกส
คาดกันว่าภายหลังการทำประชามติเสร็จสิ้นในวันอังคาร (27) รัฐสภารัสเซียอาจเร่งเดินหน้ากระบวนการผนวกอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้สำนักข่าวอาร์ไอเอ โนวอสตีของทางการรัสเซียรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่ไม่ระบุชื่อว่า รัฐสภารัสเซียอาจเปิดอภิปรายร่างกฎหมายผนวกดินแดนใหม่เหล่านี้ในวันพฤหัสฯ (29) และปูตินอาจแถลงต่อสภาในวันรุ่งขึ้น (30)
ในอีกด้านหนึ่ง หลังจากสัปดาห์ที่แล้วรัสเซียประกาศระดมกำลังพลบางส่วนจำนวนไม่เกิน 300,000 คน ก็มีรายงานของฝ่ายตะวันตกว่าเกิดการประท้วงทั่วรัสเซีย รวมทั้งมีชาวรัสเซียเกือบ 17,000 คนเดินทางเข้าฟินแลนด์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 80% ทั้งนี้ จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ฟินแลนด์
ทางด้าน ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกเครมลิน ออกมาแถลงในวันจันทร์ (26) ยอมรับว่ามีความผิดพลาดหลายอย่างเกิดขึ้นระหว่างการระดมพล ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นการเรียกพวกทหารกองหนุนให้กลับเข้าประจำการเพื่อปฏิบัติการทางทหารในยูเครน และเวลานี้ได้มีการแก้ไขให้ถูกต้องแล้ว
ขณะเดียวกัน เขาบอกด้วยว่า รัสเซียยังไม่ได้มีการสั่งปิดพรมแดนของประเทศ หรือประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางพื้นที่อย่างที่มีข่าวลือแพร่ออกไป
