ลิทัวเนียจุดเสี่ยงวิกฤต

สงครามยูเครน-รัสเซีย ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะสิ้นสุด และไม่มีใครประเมินได้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ อย่างไร ทั้งยังมีโอกาสที่จะขยายตัว เมื่อลิทัวเนียได้ห้ามการขนส่งทางรางและรถระหว่างแผ่นดินใหญ่รัสเซียกับแคว้นคาลินินกราด ซึ่งอยู่ชายทะเลบอลติก

รัสเซียและคาลินินกราดไม่ได้เชื่อมโยงเพราะมีเบลารุสและลิทัวเนียกั้น  เมื่อถูกปิดกั้น อ้างว่าเป็นนโยบายคว่ำบาตรรัสเซียโดยประชาคมยุโรป ลิทัวเนียก็ต้องปฏิบัติตาม สร้างความไม่พอใจให้รัสเซีย

เจ้าหน้าที่รัสเซียหลายระดับประกาศว่าลิทัวเนียจะเผชิญกับมาตรการตอบโต้ แต่ไม่ระบุว่าจะเป็นอย่างไร ลิทัวเนียยังเป็นหมูไม่กลัวน้ำร้อน อ้างว่าต้องทำตามอียู ที่ทำเก่งเพราะลิทัวเนียอยู่ในกลุ่มสนธิสัญญานาโต และมีลูกพี่ใหญ่คือสหรัฐฯ ปกป้อง

ลิทัวเนียเป็น 1 ใน 3 ประเทศในแถบทะเลบอลติก มีประชากรเพียง 2.79 ล้านคน แต่ยังมากกว่าลัตเวียและเอสโตเนียซึ่งมีประชากร 1.9 ล้านและ 1.3 ล้านคนตามลำดับ รวมกันแล้วมีคนเพียง 6.19 ล้านคน ทั้งหมดเคยอยู่ใต้สหภาพโซเวียต

คาลินินกราดมีประชากร 1 ล้านคน ก่อนนี้เป็นของเยอรมนีชื่อ โคนิกสเบิร์ก แต่เสียให้รัสเซียภายใต้ข้อตกลงปอตสดัม หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง ปัจจุบันรัสเซียใช้เป็นฐานทัพเรือ และถูกมองว่าเป็นฐานขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์

เมื่อมีทั้งฐานทัพเรือและขีปนาวุธ ทำให้ประเทศในย่านนั้นรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ โดยเฉพาะสวีเดนซึ่งกำลังอยากเข้าเป็นสมาชิกนาโต แต่ยังติดขัดเพราะเสียงคัดค้านจากเตอร์เกีย โดยอ้างว่าสวีเดนให้ที่พักพิงกับกลุ่มก่อการร้ายต่อร้านเตอร์เกีย

คนสวีเดนก็เดินขบวนต่อต้านรัฐบาล ไม่ต้องการเข้าร่วมกับนาโต

เมื่อลิทัวเนียทำหาญกล้า ทำให้เกรงกันว่ารัสเซียอาจเล่นงานโดยไม่สนใจว่าประเทศกระจิ๋วหลิวเป็นสมาชิกนาโต จะเป็นการเผชิญหน้าระหว่างรัสเซียกับนาโตนำโดยสหรัฐฯ นั่นหมายความว่าการสู้รบจะยกระดับเต็มรูปแบบ เป็นสงครามโลกได้แน่

ประเด็นอยู่ที่ว่านาโตจะกล้าเสี่ยงรบกับรัสเซียหรือไม่ เพราะกลุ่มยุโรปตะวันตกและตะวันออกจะเป็นสมรภูมิขยายตัวจากยูเครน เท่ากับว่าจะเป็นอย่างน้อย 30 ประเทศนำโดยสหรัฐฯ กับรัสเซีย อาจมีเบลารุสเข้าร่วมช่วยรัสเซียด้วย

นี่เป็นการวัดกันว่าฝ่ายใดจะใจถึงกว่ากัน จากแสนยานุภาพที่มีอยู่ และทั้งสองฝ่ายต่างก็มีขีปนาวุธนิวเคลียร์พอกัน รวมทั้งสองฝ่ายก็ 1 หมื่นกว่าลูก ถ้าถล่มกันเต็มที่ทั้งโลกคงไม่เหลือ เป็นสงครามล้างโลก เพราะประเทศอื่นๆ คงอยู่เฉยไม่ได้เช่นกัน

จีนจะว่าอย่างไร เกาหลีเหนือ อินเดีย ปากีสถาน อิสราเอล ล้วนมีอาวุธนิวเคลียร์ แต่รัสเซียได้แสดงให้เห็นเป็นระยะๆ ว่ามีขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง 10 เท่า จะส่งขีปนาวุธซาร์มัตติดหัวรบ 10 หัว 1 หัวรบถล่มได้ 10 เป้าหมายพร้อมกัน

ซาร์มัตเป็นขีปนาวุธเร็วเหนือเสียงเป็นไฮเปอร์โซนิก สามารถไปได้ไกล 18,000 กิโลเมตร โจมตีได้ทุกเป้าหมายทั่วโลก ครอบคลุมทั้งสหรัฐฯ มีรัสเซีย จีน และเกาหลีเหนือ ได้ประกาศว่ามีจรวดไฮเปอร์โซนิก ได้ทดลองให้เห็นว่ามีความน่ากลัวเพียงใด

วันก่อนวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียแถลงข่าว ประกาศว่ารัสเซียมีระบบต้านขีปนาวุธระบบ เอส 500 เหนือชั้นกว่าอาวุธทุกประเทศที่มีอยู่ในขณะนี้ ขณะที่สหรัฐอเมริกายังไม่มีขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกอะไร ทำการทดลองยังไม่สำเร็จ

อาวุธอะไรที่สหรัฐฯ มี รัสเซียมีหมด ทั้งบางอย่างเหนือชั้นกว่า แต่อาวุธของรัสเซียหลายประเภทสหรัฐฯ ยังไม่มี ที่ผ่านมา ระดับชั้นการพัฒนาอาวุธรัสเซียได้ทำมากกว่า และแสดงให้เห็นอำนาจในการทำลายในสงครามซีเรีย โดยเฉพาะเครื่องบินรบรุ่นใหม่

ถ้าสงครามโลกเกิดขึ้น โลกคงไม่เหลือ แต่ก็หวังว่าฝ่ายที่เป็นปฏิปักษ์ทั้งหมดควรยับยั้งชั่งใจ ตระหนักว่าผลสุดท้ายของสงครามนิวเคลียร์คืออะไร เพียงแต่สงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซีย คนทั้งโลกก็มีปัญหาทุกข์ร้อนเพราะค่าครองชีพสูงขึ้น

คนกว่าพันล้านคนเสี่ยงกับการอดอยาก ขาดอาหาร ปัญหาเศรษฐกิจเพียงแค่นี้ผู้นำของประเทศมหาอำนาจยังไม่สามารถแก้ไขจัดการได้ ถ้าเป็นสงครามโลก ก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก กดปุ่มยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์อย่างเดียว พวกที่เหลือก็อยู่รอดยาก

คนที่กำลังลุ้นอย่างมากให้สงครามลามจากยูเครน ก็คือผู้นำตัวตลก โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ซึ่งเป็นผู้นำประเทศที่อยู่ในสภาพย่อยยับ ผู้คน 40 ล้านคนอยู่ในสภาพลำบาก กว่า 6 ล้านคนต้องอพยพไปนอกประเทศ กว่า 7 ล้านคนต้องไร้ที่อยู่อาศัย

เซเลนสกี้ต้องอ้อนวอนขออาวุธจากนาโตและประชาคมยุโรป โดยไม่คิดว่าบ้านเมืองจะย่อยยับล่มสลาย ยิ่งสงครามยืดเยื้อโดยยูเครนไม่มีวันชนะได้ ผู้นำตัวตลกเอาประเทศมาเป็นสมรภูมิแลกกับเสียงปรบมือที่ไปปราศรัยตามสภาต่างๆ

ประชาชนและทหารยูเครน ต้องบาดเจ็บล้มตาย เพราะความอยากเข้าเป็นสมาชิกนาโต ทั้งที่รัสเซียเตือนแล้วว่าการทำเช่นนั้นจะเปิดช่องให้สหรัฐฯ เอาขีปนาวุธมาจ่อคอหอยรัสเซียซึ่งยอมไม่ได้ ขณะนี้ยูเครนได้เสียพื้นที่ไป 20 เปอร์เซ็นต์แล้ว

ไม่มีหนทางเลิกสงครามได้เพราะรัสเซียไม่มีวันจะคืนพื้นที่ให้ ยูเครนมีแต่เสียเพราะเป็นเบี้ยตัวแทนให้สหรัฐฯ และนาโตที่ต้องการให้รัสเซียอ่อนแอสิ้นสภาพความเป็นชาติมหาอำนาจ แต่ผลที่เป็นอยู่ สหรัฐฯ และพวกทุกข์หนักเพราะวิกฤตเศรษฐกิจ

รัสเซียโกยเงินไม่ยั้งจากการขายน้ำมันและก๊าซให้ยุโรป อินเดีย และจีน ขณะที่ยุโรปกำลังขาดแคลนพลังงาน วิกฤตจะรุนแรงเมื่อถึงฤดูหนาว และมีแนวโน้มว่ารัสเซียอาจลดการส่งก๊าซหรือหยุดส่ง เพื่อกดดันให้ยุโรปแยกตัวจากสหรัฐฯ

ยุโรปและสหรัฐฯ ต้องลำบากกว่านี้เพราะวิกฤตพลังงาน หลายประเทศจะขาดแคลนอาหาร เงินเฟ้อสูงขึ้น ผู้นำสหรัฐฯ โจ ไบเดน ต้องจ่ายแพงด้วยอนาคตการเมือง