สหรัฐฯ ยุโรปยื้อรบศึกยูเครน

คำถามที่ได้ยินกันช่วงนี้เกี่ยวกับเหตุการณ์ในต่างประเทศก็คือ “สงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซียจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่” และ “ใครจะเป็นผู้ชนะ” ที่อยากรู้เพราะคนทั่วโลกกำลังเดือดร้อนจากปัญหาเศรษฐกิจ ค่าครองชีพสูง ราคาพลังงานแพงเท่าตัว

ถ้าประเมินขีดความสามารถและแสนยานุภาพในการสู้รบและไม่หลอกตัวเองก็ต้องบอกว่ายูเครนไม่มีทางเอาชนะรัสเซียได้หลังจากที่จะครบ 4 เดือนในวันที่ 24 เดือนนี้ โอกาสที่รัสเซียจะชนะมีอยู่ ทุกวันนี้ได้ครอบครองพื้นที่ของยูเครนมากถึง 20%

ฝ่ายนาโตนำโดยสหรัฐฯ มีฐานหลักคืออังกฤษและยุโรปเชื่อมั่นว่าถ้าส่งอาวุธให้กองทัพยูเครนรบต่อเนื่อง โอกาสชนะหรือได้พื้นที่คืนนั้นมีอยู่ แต่การพูดอย่างนี้คงจะเชื่อเองฝ่ายเดียว คนที่ประเมินสถานการณ์แล้วมองว่ายูเครนไม่มีทางชนะได้เลย

เป้าหมายสำคัญของสหรัฐฯ และกลุ่มนาโตคือการทำสงครามให้ยืดเยื้อที่สุด จะมอบอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ให้ตามที่ผู้นำยูเครนขอ แม้อาจจะไม่ได้ครบก็ตาม แต่เพื่อให้รัสเซียอ่อนล้าด้านแสนยานุภาพ ขีดความสามารถในการทหารและเศรษฐกิจ

จากคำพูดของผู้นำนาโตและสหรัฐฯ ก็บอกชัดเจนว่าต้องการทำสงครามให้ถึงที่สุดแม้จะยืดเยื้อหลายปีก็ตาม โดยไม่สนใจต่อทุกข์ร้อนของประชาชน ซึ่งช่วงนี้คนยุโรปและคนอเมริกันต่างเผชิญปัญหาค่าครองชีพสูง รายได้ที่เริ่มชักหน้าไม่ถึงหลัง

นายทหารสหรัฐฯ พันเอกริชาร์ด แบล็ค นอกประจำการวัย 78 ปี มีประสบการณ์ในสงครามเวียดนามและตะวันออกกลาง ได้พูดอย่างไม่อ้อมค้อมว่าผู้นำยุโรปและ สหรัฐฯ ไม่สนใจว่าคนยูเครนจะต้องบาดเจ็บล้มตายมากเท่าไหร่

ในการให้สัมภาษณ์สื่อ Economic Intelligence Review พันเอกแบล็ค ยังบอกอีกว่าตราบใดที่ยูเครนยังเป็นตัวแทนหรือเบี้ยในสงครามกับรัสเซีย นักการเมืองและผู้นำสหรัฐฯ ก็พร้อมที่จะสนับสนุนอาวุธให้ยูเครนรบจนสิ้นทหารยูเครนคนสุดท้าย

ทั้งยังบอกอีกว่าในสายตาของผู้นำรัฐบาลอเมริกันยูเครนไม่มีความหมายอะไร อยู่ห่างไกลจากสหรัฐฯ มีทรัพยากรธรรมชาติมากมายก็จริง แต่ก็ยากที่จะไปแสวงหาประโยชน์ เพราะจากนี้ไปรัสเซียคงจะคุมสภาวะด้านการทหารได้อย่างเด็ดขาด

สงครามยูเครนเป็นเดิมพันสูงสำหรับผู้นำรัฐบาลในยุโรปและประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ ซึ่งจะต้องทุ่มเงินและอาวุธต่อไปเพื่อให้ยูเครนรบให้นานที่สุดจะใช้เวลากี่ปีก็ตามเพราะความพ่ายแพ้ของยูเครนต่อรัสเซียเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้

สงครามจะต้องมีต่อไปอย่างน้อยก็ถึงสิ้นปีนี้ ความพ่ายแพ้ของยูเครนเท่ากับความพ่ายแพ้ของผู้นำยุโรปและสหรัฐฯ จะส่งผลพวงด้านลบอย่างมากด้านการเมืองต้องคำนึงถึงผลการเลือกตั้ง การอยู่ในอำนาจโดยไม่สนใจว่าประชาชน จะเป็นอย่างไร

ที่เห็นคือผู้นำฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง กำลังแพ้ศึกเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภา

จะให้ยูเครนสู้รบต่อไปโดยไม่คำนึงถึงความสูญเสีย ผู้นำยุโรปและสหรัฐฯ ได้เอาใจกล่อมให้ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ อดีตดาวตลกบนจอทีวีให้รบต่อไปเพื่อความอยู่รอดของตัวเองด้วย ไม่ว่ายูเครนจะพินาศย่อยยับจากสงครามนี้อย่างไร

สหรัฐฯ จะมีการเลือกตั้งกลางเทอมในเดือนพฤศจิกายน ผู้นำทำเนียบขาว โจ ไบเดน ต้องพยายามรักษาเสียงข้างมากในสภาคองเกรส วุฒิสภา รวมถึงผู้ว่าการรัฐด้วยซึ่งความนิยมของ โจ ไบเดนตกต่ำมากกว่ายุคของโดนัลด์ ทรัมป์ด้วยซ้ำ

สัญญาณเตือนมีอยู่ว่าพรรคเดโมแครต อาจสูญเสียที่นั่ง ทั้ง 2 สภารวมถึงผู้ว่าการรัฐบางแห่ง ดังนั้นสหรัฐฯ จะต้องทุ่มอาวุธยุทโธปกรณ์สารพัดให้ยูเครนรบต่อไป และกดดันให้ฝ่ายยุโรปทำตามเช่นกัน แต่ยังมีอังกฤษเป็นลูกคู่

ผู้นำอังกฤษก็เสี่ยงที่จะต้องเสียตำแหน่ง ความนิยมตกต่ำ พรรคอนุรักษนิยมกำลังหาทางเขี่ย บอริส จอห์นสัน ให้พ้นจากตำแหน่ง ประชาชนได้รับความลำบากจากผลกระทบรุนแรง ราคาพลังงานทำให้ค่าครองชีพ เงินเฟ้อสูงที่สุดในรอบ 40 ปี

ผู้นำเยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี และโรมาเนียได้เดินทางไปกรุงเคียฟเพื่อกล่อมให้ผู้นำยูเครนสู้รบต่อไป ให้ประชาคมยุโรปยอมรับยูเครนให้เป็นสถานภาพผู้สมัครเป็นสมาชิกโดยที่รู้ว่ายูเครนไม่สามารถมีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะเป็นสมาชิกได้

แต่ก็เป็นการให้คำมั่นอย่างลมๆ แล้งๆ ว่ายูเครนจะเป็นสมาชิกประชาคมยุโรปทั้งนี้เพื่อให้ผู้นำยูเครนยินยอมที่จะเป็นเบี้ยในการทำสงครามกับรัสเซียต่อไปถึงขั้นบ้านเมืองล่มสลายย่อยยับ ส่งผลกระทบไปทั่วโลก จะมีคนอดอยากถึง 1.6 พันล้าน

ฝ่ายสหรัฐฯ และยุโรปต้องยอมรับว่าได้ประเมินผิดพลาดจากมาตรการคว่ำบาตร ต่อเศรษฐกิจของรัสเซีย เพราะไม่ได้ส่งผลกระทบตามความคาดหวังเมื่อค่าเงินรูเบิลแข็งค่า รัสเซียมีรายได้จากการขายพลังงานแล้วกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์

รัสเซียมีทั้งข้าวสาลี สินค้าอย่างอื่นที่โลกตะวันตกต้องการ และได้พิสูจน์แล้วว่ามาตรการคว่ำบาตร ไม่สามารถทำให้รัสเซียต้องสิ้นสภาพและแสนยานุภาพไปได้

โอกาสที่จะมีสงครามขยายตัวให้สหรัฐฯ และนาโตร่วมรบกับยูเครนนั้น พันเอกแบล็ค บอกชัดว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นเพราะรัสเซียมีอาวุธทันสมัยกว่าฝ่ายตะวันตกโดยเฉพาะขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกความเร็วเหนือเสียง 5 ถึง 10 เท่าซึ่งสหรัฐฯ ยังไม่มี

ถ้าสงครามนิวเคลียร์เกิดขึ้นสหรัฐฯ และยุโรปจะเป็นฝ่ายย่อยยับเพราะการโจมตีจากรัสเซียซึ่งมีหัวรบนิวเคลียร์ในเรือดำน้ำกระจายอยู่ในหลายพื้นที่พร้อมโจมตีสนับสนุนกับอาวุธนิวเคลียร์ยิงจากบนบก

ดังนั้น ทั้งสองฝ่ายจะพยายามไม่มีการสู้รบลามไปถึงกลุ่มนาโต แต่จะจำกัดเพียงแค่สมรภูมิในยูเครนโดยไม่สนใจว่าประเทศยูเครนจะต้องพินาศย่อยยับมากแค่ไหนโดยการรู้เห็นเป็นใจของผู้นำอดีตดาวตลกที่น่าจะมีชะตากรรมจบแบบไม่สวย